“ฤดูงานแต่งอินเดีย” ช่วงเวลาที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้อินเดียอย่างมหาศาล
Business

“ฤดูงานแต่งอินเดีย” ช่วงเวลาที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้อินเดียอย่างมหาศาล

4 พ.ค. 2023
“ฤดูงานแต่งอินเดีย” ช่วงเวลาที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้อินเดียอย่างมหาศาล /โดย ลงทุนเกิร์ล
เป็นที่รู้กันว่า งานแต่งงานของชาวอินเดีย มักจะถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ และลากยาวหลายวัน ดั่งเทศกาลดนตรี
เพราะสำหรับชาวอินเดียแล้ว การที่ลูกหลานออกเรือนไปมีคู่ครอง ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ส่งผลให้งานแต่งงาน กลายเป็นธุรกิจสำคัญอันดับต้น ๆ ของอินเดีย เลยทีเดียว
แน่นอนว่า ช่วงที่ถือว่าเป็นฤกษ์ดี หรือที่เรียกว่า “ฤดูงานแต่งของอินเดีย” สามารถสร้างเม็ดเงินให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงาน ได้อย่างมหาศาล
แล้วฤดูงานแต่งของอินเดีย สร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจมากขนาดไหน ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
สำหรับอินเดียแล้ว งานแต่งงาน ถือเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้มากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ ซึ่งมีรายได้มากกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
ที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะว่าใน 1 ปี มีชาวอินเดียแต่งงานหลายล้านคู่ ซึ่งแต่ละคู่ก็จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยทุ่มงบไปกับการเอนเทอร์เทนแขก, ชุดแต่งงานและเครื่องประดับ ไปจนถึงงานโปรดักชันส์สุดอลังการ
แน่นอนว่า งานแต่งงานในอินเดียมีขึ้นตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ชาวอินเดียนิยมแต่งงาน และถือเป็นฤกษ์มงคล คือช่วงเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
โดยมีการประเมินว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา ในอินเดีย มีการจัดงานแต่งงานไปแล้วประมาณ 3.2 ล้านครั้ง
ที่น่าสนใจก็คือ งานแต่งงานในอินเดียที่ถูกจัดขึ้น ภายในเวลาเพียง 2 เดือนนั้น สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมงานแต่ง ได้มากถึง 1.6 ล้านล้านบาท
หรือถ้าพูดให้เห็นภาพชัด ๆ ก็คือ รายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมงานแต่งในอินเดีย เพียงแค่ 2 เดือน ก็มากกว่า รายได้จากการท่องเที่ยวของไทย ทั้งปี 2565 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านบาท เสียอีก..
แล้วในอุตสาหกรรมงานแต่งของอินเดีย ที่มีมูลค่ามหาศาลนี้ มีธุรกิจอะไรที่ได้ประโยชน์บ้าง ?
แน่นอนว่า หนึ่งในธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญ และได้อานิสงส์จากอุตสาหกรรมนี้ ก็คือ “ธุรกิจโรงแรม”
เนื่องจากโรงแรม เป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคู่แต่งงาน เพราะสามารถรองรับแขกได้ตั้งแต่หลักร้อย ถึงหลักพันคน อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ซึ่งคู่บ่าวสาวชาวอินเดียที่มีฐานะ จะนิยมจัดงานแต่งงานกันไม่ต่ำกว่า 3-5 วัน ทำให้การแต่งงานแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลักล้านบาท หรืออาจจะสูงถึงหลักร้อยล้านบาท
นอกจากนี้ ช่วงฤดูงานแต่ง ธุรกิจโรงแรมยังสามารถปรับราคาให้สูงขึ้นได้ เนื่องจากมีความต้องการใช้สถานที่เพิ่มมากขึ้น
ที่น่าสนใจก็คือ ประเทศไทย ก็เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำหรับคู่แต่งงานชาวอินเดีย ถึงขั้นที่บางโรงแรม มีทีมที่ดูแลงานแต่งงานสำหรับชาวอินเดียโดยเฉพาะ
ซึ่งเคยมีรายงานว่า ประเทศไทยมีรายได้จากการจัดงานแต่งงานของชาวอินเดีย สูงถึงปีละ 5,000 ล้านบาท จากการจัดงานแต่งงานของชาวอินเดีย เพียง 100 คู่ หรือเฉลี่ยตกที่คู่ละ 50 ล้านบาท
โดยช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทย ก็เล็งเห็นถึงโอกาสมากขึ้น
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงมีการจัดแคมเปญโปรโมตการจัดงานแต่งงานในไทย เพื่อดึงดูดชาวอินเดียอีกด้วย
ถัดมาคือ “ธุรกิจถ่ายทำและตัดต่อวิดีโอสำหรับงานแต่งงาน”
วิดีโอเปิดตัวงานแต่งงาน รวมถึงการเก็บภาพบรรยากาศในงาน ที่นิยมถ่ายทำเหมือนภาพยนตร์ฮอลลีวูด ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทำรายได้ได้อย่างมาก ในฤดูงานแต่งงาน
โดยตัวอย่างค่าบริการ ของ Punjabi ผู้ผลิตวิดีโอสำหรับงานแต่งงานเจ้าหนึ่งในอินเดีย จะอยู่ที่ 170,000 บาท ไปจนถึง 1.7 ล้านบาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงาน
ซึ่งเขาจะดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งการออกแบบ จัดท่าทาง, สถานที่, แสง, สี, เสียง, เขียนสคริปต์ ไปจนถึงตรวจสอบวิดีโอ
หากลองคำนวณขั้นต่ำของค่าบริการ กับจำนวนวันจัดงานเพียง 3 วัน ค่าใช้จ่ายสำหรับค่าโปรดักชันส์อย่างเดียว จะอยู่ที่ครึ่งล้านบาท
อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ เครื่องประดับ มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายเป็น 15-20% ของค่าใช้จ่ายในงานแต่งงาน
ทำให้ธุรกิจเครื่องประดับ ก็คึกคักเป็นพิเศษในช่วงใกล้ฤดูงานแต่งของอินเดีย
โดยเฉพาะ “เครื่องประดับทองคำ” ที่ชาวอินเดียไม่ได้นับเป็นเครื่องประดับแฟชั่น แต่ถือเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีที่ต้องลงทุน
จากข้อมูลของ World Gold Council บอกว่า ประเทศอินเดีย ต้องนำเข้าทองคำราว 192 ตัน ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่ ถูกนำไปใช้ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงาน ส่งผลให้ราคาทองคำในช่วงนั้นสูงขึ้น
และแม้ว่าราคาทองคำจะสูงขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความต้องการในการซื้อทองคำของคู่แต่งงานชาวอินเดีย ลดน้อยลงไปเลย
จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมอินเดีย ถึงเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำเข้าทองคำรายใหญ่ ติดอันดับโลก
ซึ่งนอกจากธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจโปรดักชันส์ และธุรกิจเครื่องประดับ ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ ในช่วงฤดูงานแต่งของอินเดีย
ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจหาคู่ออนไลน์, ธุรกิจตัดเย็บชุดแต่งงาน, ธุรกิจดนตรีและเต้นรำ และอื่น ๆ อีกมากมาย
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ อาจสรุปสั้น ๆ ได้ว่า อุตสาหกรรมงานแต่งงาน เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของอินเดีย โดยสร้างเม็ดเงินให้กับหลาย ๆ ธุรกิจ
และฤดูงานแต่งของอินเดีย เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เศรษฐกิจในประเทศ ครึกครื้นมากขึ้น
ซึ่งหากประเทศไทย ที่เป็นหมุดหมายสำคัญของคู่บ่าวสาวชาวอินเดีย ควรเพิ่มช่องทางในการโปรโมตเรื่องนี้มากขึ้น เพื่อดึงดูดให้ชาวอินเดียอยากมาจัดงานแต่งที่ไทย\
แน่นอนว่า คงจะสร้างรายได้เข้าประเทศ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว..
---------------------------------------------------------
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป เดินหน้าขยายธุรกิจหาญ เวลเนสแอนด์ฮอสพิทอลลิตี้ (HARNN Wellness & Hospitality) ครอบคลุมทั้งเวลเนสและสปาภายในประเทศและต่างประเทศในระดับ Regional สร้างให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักและสร้างความภูมิใจในระดับสากลรวมกว่า 16 สาขาทั่วภูมิภาค
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #HARNN #SCapebyHARNN
---------------------------------------------------------
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.