Business
"Rough cut" แบรนด์สตรีตแวร์คนไทย ที่ขายกระเป๋ายีนสุดชิก จนต้องแย่งกันกดซื้อ
16 พ.ค. 2023
"Rough cut" แบรนด์สตรีตแวร์คนไทย ที่ขายกระเป๋ายีนสุดชิก จนต้องแย่งกันกดซื้อ /โดย ลงทุนเกิร์ล
Rough cut แบรนด์สตรีตแวร์ของคนไทย กำลังเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ถูกจับตามอง และเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้าของ Rough cut กำลังเป็นกระแส โดยเฉพาะกระเป๋ายีน “Bieber bag” ที่สร้างปรากฏการณ์ขายสินค้าหมดสต็อก ภายในเวลาเพียง 1 นาที
โดยวันนี้ลงทุนเกิร์ล ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณรุ่ง-ศิวานุช ปวโรดม ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Rough cut ถึงเบื้องหลังการสร้างแบรนด์ให้กลายเป็นที่ต้องการ จนต้องแย่งกันกดซื้อ
เรื่องราวของ Rough cut น่าสนใจอย่างไร ?
แล้วกว่าจะมาถึงจุดนี้ คุณรุ่งมีวิธีการปั้นแบรนด์อย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แล้วกว่าจะมาถึงจุดนี้ คุณรุ่งมีวิธีการปั้นแบรนด์อย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Rough cut คือแบรนด์เสื้อผ้าสไตล์สตรีตแวร์ ที่ก่อตั้งในปี 2020 โดยคุณรุ่ง-ศิวานุช ปวโรดม ในวัย 27 ปี
โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ เกิดขึ้นขณะที่คุณรุ่งกำลังทำงานด้านกราฟิก ให้กับบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองนิวยอร์ก
ในตอนนั้น บริษัทมีนโยบายให้ Work from home ทำให้คุณรุ่งมีเวลาว่างมากขึ้น เพราะประหยัดเวลาในการเดินทางไปทำงาน
เธอจึงตัดสินใจลงเรียนคอร์สแฟชั่นดิไซน์สั้น ๆ ที่ Parsons School of Design
เธอจึงตัดสินใจลงเรียนคอร์สแฟชั่นดิไซน์สั้น ๆ ที่ Parsons School of Design
เรื่องนี้เลยนำไปสู่การเปิดแบรนด์เสื้อผ้า “Rough cut”
ที่มีสินค้าชิ้นแรกเป็นเสื้อยืดลายกราฟิก ที่คุณรุ่งถนัด
โดยมีคอนเซปต์การออกแบบจาก 2 ไอเดียหลัก ๆ คือ “All gender” และ “Optimistic weirdo”
ที่มีสินค้าชิ้นแรกเป็นเสื้อยืดลายกราฟิก ที่คุณรุ่งถนัด
โดยมีคอนเซปต์การออกแบบจาก 2 ไอเดียหลัก ๆ คือ “All gender” และ “Optimistic weirdo”
ซึ่งเหตุผลที่คุณรุ่งเลือกคอนเซปต์นี้ ก็เพราะ Pain Point จากการซื้อเสื้อผ้าสตรีตแวร์ ที่มักจะตัวใหญ่เกินไปสำหรับผู้หญิง เธอจึงอยากทำเสื้อผ้าสไตล์นี้ให้ทุกคนสามารถใส่ได้
รวมถึงความชอบในสีสันของคุณรุ่ง ทำให้ Rough cut กลายมาเป็นแบรนด์สตรีตแวร์ที่มีสีสันสดใส สนุก และที่สำคัญก็คือ สามารถใส่ได้ทุกเพศ
โดยคุณรุ่ง เริ่มจากการขายสินค้าแบบออนไลน์ ผ่านบนเว็บไซต์ก่อน
และหลังจากเริ่มก่อตั้งแบรนด์ ได้ 2-3 ปี
Rough cut ก็กลายมาเป็นแบรนด์เสื้อผ้าสตรีตแวร์น้องใหม่ ที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนมีโอกาสได้วางขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ
และหลังจากเริ่มก่อตั้งแบรนด์ ได้ 2-3 ปี
Rough cut ก็กลายมาเป็นแบรนด์เสื้อผ้าสตรีตแวร์น้องใหม่ ที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนมีโอกาสได้วางขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ
ซึ่งเสื้อยืดของ Rough cut จะมีราคาอยู่ที่ราว ๆ 2,000 บาท
และแม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าเสื้อยืดทั่วไปในท้องตลาด
แต่ Rough cut ก็ได้รับความสนใจ และติดตลาดอย่างรวดเร็ว เพราะคุณภาพของสินค้า, ดิไซน์ที่แปลกใหม่ และข้อความกวน ๆ บนสินค้า
และแม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าเสื้อยืดทั่วไปในท้องตลาด
แต่ Rough cut ก็ได้รับความสนใจ และติดตลาดอย่างรวดเร็ว เพราะคุณภาพของสินค้า, ดิไซน์ที่แปลกใหม่ และข้อความกวน ๆ บนสินค้า
คุณรุ่งเล่าว่า ข้อความกวน ๆ เหล่านั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ Rough cut แตกต่างจากแบรนด์สตรีตแวร์อื่น ๆ เพราะแบรนด์สตรีตแวร์ส่วนใหญ่ มักจะใช้โลโกดึงดูดลูกค้า
ส่วน Rough cut เลือกใช้ข้อความที่เป็นเหมือน Self-expression บ่งบอกถึงตัวตนของลูกค้า ซึ่งคนทั่วไปก็จะเข้าใจ และอินกับข้อความเหล่านี้ได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น
Rich kids with nothing but credit cards
I’m not dead but still gonna “REST IN PEACE”
World’s best drinking team
นอกจากเสื้อผ้าที่เป็นสินค้าหลักของแบรนด์แล้ว
Rough cut ยังมี “Bieber bag” หรือกระเป๋ายีน ที่ถือเป็นสินค้าไฮไลต์เลยก็ว่าได้
Rough cut ยังมี “Bieber bag” หรือกระเป๋ายีน ที่ถือเป็นสินค้าไฮไลต์เลยก็ว่าได้
เนื่องจากกระเป๋ารุ่นนี้ ได้สร้างปรากฏการณ์ ที่วางขายกี่ครั้ง ก็หมดทุกครั้ง
และครั้งที่ขายได้หมดเร็วที่สุด ก็ใช้เวลาเพียงแค่ “1 นาที” เท่านั้น..
และครั้งที่ขายได้หมดเร็วที่สุด ก็ใช้เวลาเพียงแค่ “1 นาที” เท่านั้น..
อีกทั้งยังมีคนรอซื้อสินค้าในราคา Resell หลังจากวางขายหมดแล้วทุกครั้งอีกด้วย
ที่น่าสนใจก็คือ Bieber bag เป็นสินค้าที่เกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ
เพราะมันเกิดจากที่คุณรุ่ง ต้องการเคลียร์สต็อกกางเกงยีนรุ่นหนึ่งของร้าน จึงพยายามหาวิธีปล่อยกางเกงยีนรุ่นนั้น ออกไปให้ไวที่สุด
เพราะมันเกิดจากที่คุณรุ่ง ต้องการเคลียร์สต็อกกางเกงยีนรุ่นหนึ่งของร้าน จึงพยายามหาวิธีปล่อยกางเกงยีนรุ่นนั้น ออกไปให้ไวที่สุด
จนในที่สุด คุณรุ่งก็ตัดสินใจนำกางเกงยีนที่ว่า มา Upcycle ซึ่งเป็นการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว มาผ่านกระบวนการต่าง ๆ และเปลี่ยนให้เป็นสิ่งใหม่ จนกลายมาเป็น Bieber bag ที่มีราคาเกือบ 5,000 บาท
และเบื้องหลังการทำ Bieber bag ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
เพราะกว่าจะออกมาเป็น Bieber bag 1 ใบ ต้องใช้กางเกงยีนไซซ์ 26 จำนวน 1 ตัว ถึงจะสามารถนำมาทำกระเป๋าได้ 1 ใบ แบบพอดี
เพราะกว่าจะออกมาเป็น Bieber bag 1 ใบ ต้องใช้กางเกงยีนไซซ์ 26 จำนวน 1 ตัว ถึงจะสามารถนำมาทำกระเป๋าได้ 1 ใบ แบบพอดี
อีกทั้งยังมีรายละเอียดต่าง ๆ ที่มาช่วยให้ Bieber bag สมบูรณ์แบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าใบเล็ก ๆ ที่ห้อยอยู่ข้างกระเป๋า, หมุดเงินที่ปั๊มโลโกแบรนด์ ไปจนถึงการบุผ้าลาย Rough cut ด้านใน
โดยรายละเอียดทั้งหมดนี้ ถูกคิดขึ้นมาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ Bieber bag แตกต่างจากกระเป๋ายีนแบรนด์อื่น ๆ และกลายเป็นที่ต้องการ จนต้องแย่งกันกดซื้อ
ซึ่งตั้งแต่เริ่มเปิดขาย จนถึงปัจจุบัน Bieber bag ถูกขายไปแล้วกว่า 330 ใบ
หากลองคำนวณคร่าว ๆ จากยอดขายของ Bieber bag เพียงอย่างเดียว นั่นก็แปลว่า กระเป๋ารุ่นนี้สามารถสร้างรายได้ให้แบรนด์เล็ก ๆ แบรนด์นี้ไปแล้วกว่า 1.6 ล้านบาทเลยทีเดียว
นอกจากนี้ คุณรุ่งยังแอบกระซิบว่า ภายในปีนี้ มีแพลนที่จะวางขาย Bieber bag สีอื่น ๆ ที่ทำจาก Levi’s vintage เช่น สีดำ, สีขาว หรือสีแดง อีกด้วย
สำหรับเป้าหมายในอนาคต
คุณรุ่งเล่าว่า ตอนนี้มีแพลนที่จะทำสินค้า Upcycle และจะศึกษาตลาดกระเป๋ามากขึ้น หลังจากที่ Bieber bag ขายดีอย่างถล่มทลาย
คุณรุ่งเล่าว่า ตอนนี้มีแพลนที่จะทำสินค้า Upcycle และจะศึกษาตลาดกระเป๋ามากขึ้น หลังจากที่ Bieber bag ขายดีอย่างถล่มทลาย
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังทิ้งท้ายด้วยเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ คือ
อยากนำ Rough cut ไปวางจำหน่ายในร้าน Multi-store ที่นิวยอร์ก อีกด้วย..
อยากนำ Rough cut ไปวางจำหน่ายในร้าน Multi-store ที่นิวยอร์ก อีกด้วย..
Reference:
-สัมภาษณ์โดยตรงกับคุณรุ่ง-ศิวานุช ปวโรดม ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Rough cut
-สัมภาษณ์โดยตรงกับคุณรุ่ง-ศิวานุช ปวโรดม ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Rough cut