รู้จัก Supergoop! แบรนด์ครีมกันแดด ที่เกิดจากคุณครูโรงเรียนประถม
LifestyleBusiness

รู้จัก Supergoop! แบรนด์ครีมกันแดด ที่เกิดจากคุณครูโรงเรียนประถม

24 พ.ค. 2023
ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา สาว ๆ หลายคนสงสัยว่า คุณทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ใช้ครีมกันแดดยี่ห้ออะไร ? ตอนเดินสายหาเสียง ตากแดดติดต่อกันหลายเดือน แต่ก็ยังดูดีไม่แผ่ว
จนชาวโซเชียลก็ได้ไปสืบมา และพบว่า ครีมกันแดดที่คุณพิธาใช้ ก็คือ “Supergoop!” แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา นั่นเอง
ที่น่าสนใจคือ Supergoop! เป็นครีมกันแดดแบรนด์แรก ๆ ที่ทำผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับทาทุกวัน (Daily Use) โดยเฉพาะ
แล้วใครเป็นคนสร้างแบรนด์ Supergoop! ขึ้นมา
อะไรคือแรงบันดาลใจให้เธอคิดอยากทำครีมกันแดด ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของ Supergoop! เกิดจากคุณครูโรงเรียนประถมศึกษา ชื่อว่าคุณ Holly Thaggard หลังจากได้ทราบข่าวร้ายว่า เพื่อนสนิทของเธอเป็นมะเร็งผิวหนัง ในวัยเพียง 29 ปี
ทำให้เธอตกใจมาก เมื่อรู้ว่าคนที่ยังอายุน้อย และสุขภาพแข็งแรงก็มีสิทธิ์เป็นมะเร็งผิวหนังได้
จากนั้น เธอก็ไปปรึกษากับแพทย์ผิวหนัง จึงได้ทราบว่ามะเร็งผิวหนัง เป็นมะเร็งชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดอันดับ 1 ของชาวอเมริกันและผู้คนทั่วโลก
ซึ่งมะเร็งชนิดนี้ สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เป็นประจำทุกวัน แต่สาเหตุที่ผู้คนส่วนมากไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพราะรู้สึกเหนอะหนะ ไม่สบายผิว
อีกทั้ง การพูดคุยในครั้งนั้น ยังทำให้เธอตระหนักได้ว่า ในช่วงเวลาที่เป็นครูโรงเรียนประถมศึกษา เธอก็ไม่เคยเห็นครีมกันแดดอยู่ในห้องเรียน หรือที่สนามเด็กเล่นเลย
นั่นแปลว่า เด็ก ๆ ต่างเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังทั้งสิ้น..
เธอจึงเกิดไอเดียทำธุรกิจเกี่ยวกับครีมกันแดดขึ้นมา
เพราะอยากทำครีมกันแดดที่ใคร ๆ ก็อยากใช้ในทุก ๆ วัน
คุณ Holly จึงไปพบกับนักเคมี เพื่อคิดค้นครีมกันแดดสูตรที่ไม่มีออกซิเบนโซน พาราเบน หรือส่วนผสมอื่น ๆ ที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันในเรื่องของความปลอดภัยอยู่
ซึ่งเธอเรียกตัวอย่างครีมกันแดดแต่ละสูตรว่า “goop” และสูตรครีมกันแดดสุดท้ายที่พัฒนาจนสำเร็จว่า “Supergoop”
โดยเธอชอบคำคำนี้มาก จนสุดท้ายก็นำมาใช้เป็นชื่อแบรนด์ครีมกันแดด Supergoop!
จนกระทั่ง ปี 2007 ก็ได้คลอดผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดสูตรแรก “Play Everyday” ออกมา
ซึ่งเส้นทางแรกสู่ตลาดของ Supergoop! คือ นำครีมกันแดดไปติดตั้งไว้ที่โรงเรียนทั่วสหรัฐอเมริกา ในลักษณะเหมือนกับเครื่องจ่ายสบู่ ให้เด็กนักเรียนไว้ใช้เมื่อมาโรงเรียน หรือระหว่างทำกิจกรรมกลางแจ้ง
อย่างไรก็ตาม ไอเดียนี้ก็ถูกปัดตกไป เพราะครีมกันแดดที่มีค่า SPF ถูกจัดอยู่ในประเภทยา ซึ่งภาครัฐไม่อนุญาตให้ใช้ในโรงเรียน โดยปราศจากการบันทึกของแพทย์หรือผู้ปกครอง
คุณ Holly จึงเปลี่ยนวิธี เป็นการฝากขายตามร้านค้า ร้านขายยา และออกบูทขายตามอิเวนต์ต่าง ๆ แทน
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้รับการติดต่อจาก Sephora เชนร้านขายเครื่องสำอางชื่อดัง ที่เห็นความเป็นไปได้ ที่จะนำครีมกันแดด Supergoop! ไปวางขายตามร้าน Sephora ในอนาคต
ซึ่งทาง Sephora ยังไม่ได้ตกลงที่จะนำ Supergoop! มาขายในทันที แต่ให้การบ้านคุณ Holly มาทำเพิ่ม โดยแนะนำให้เธอนำครีมกันแดดไปออกสื่อ เพื่อโปรโมตให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างก่อน
ในสมัยที่ยังไม่มีโซเชียลมีเดียเหมือนทุกวันนี้ คุณ Holly จึงต้องอาศัยสื่อโทรทัศน์ และนิตยสาร เพื่อสื่อสารเรื่องราวของสินค้าและแบรนด์ รวมไปถึงประเด็นเรื่องความสำคัญของครีมกันแดด ที่ควรทาทุกวัน เพื่อป้องกันโรคมะเร็งผิวหนัง
จนในที่สุด ปี 2011 Supergoop! ก็ได้วางจำหน่ายใน Sephora ทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับเป็นก้าวที่สำคัญของธุรกิจ เพราะทำให้ยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด
และด้วยคุณสมบัติที่มีเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมยังไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายใด ๆ เลย ทำให้ครีมกันแดดสูตร Play Everyday ได้รับเลือกเป็น “skincare favorites” ของ Sephora อีกด้วย
ปีถัด ๆ มา Supergoop! ได้ออกผลิตภัณฑ์กันแดดเพิ่มอีกมากมาย ทั้งครีมบำรุงผิวและเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็น Lip Balm, CC Cream, Powder, Eye Shimmer, Vitamin C Serum, Daily Moisturizer ที่ล้วนมีส่วนผสมของ SPF กันแดดทั้งสิ้น
นอกจากนี้ Supergoop! ยังมีครีมกันแดดหลายสูตร ที่คิดค้นสำหรับทุกสภาพผิว เหมาะกับหลากหลายสภาพอากาศ ครอบคลุมทุกการใช้งาน
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นเพราะคุณ Holly มีความตั้งใจจริง ที่จะให้ทุกคนใช้ครีมกันแดดทุกวัน เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังนั่นเอง
มากไปกว่านั้น Supergoop! ยังทำโครงการ “Ounce by Ounce” ที่บริจาคครีมกันแดดให้กับโรงเรียนทั่วสหรัฐอเมริกาฟรี เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้เริ่มดูแลผิวของตัวเอง และฝึกทาครีมกันแดดให้เป็นกิจวัตร นั่นเอง
แล้ว Supergoop! ขายได้แค่ไหน ?
มีการประเมินกันว่า Supergoop! สามารถทำยอดขายได้เกือบ 2,100 ล้านบาท ในปี 2020
และ Supergoop! ถูกประเมินมูลค่าบริษัทสูงถึง 24,000 ล้านบาททีเดียว
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว จะเห็นว่า คุณ Holly มีวิสัยทัศน์ที่เฉียบขาด มองเห็นปัญหาในผลิตภัณฑ์กันแดดแบบเดิม
และตั้งใจสร้างครีมกันแดดแบบใหม่ (Reinvent) ที่แก้ Pain Point ซึ่งหลายคนมองข้าม แต่มีความสำคัญ
และสามารถเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อครีมกันแดดได้ จนทุกวันนี้ครีมกันแดด กลายเป็นอีกไอเทมที่หลายคนต้องใช้ทาทุกวัน อย่างที่เธอตั้งใจจริง ๆ..
References
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.