Ryp Labs ธุรกิจสติกเกอร์ แปะต่อเวลาความสดใหม่ ยืดอายุให้ผลไม้ 2 สัปดาห์
Business

Ryp Labs ธุรกิจสติกเกอร์ แปะต่อเวลาความสดใหม่ ยืดอายุให้ผลไม้ 2 สัปดาห์

24 ส.ค. 2023
Ryp Labs ธุรกิจสติกเกอร์ แปะต่อเวลาความสดใหม่ ยืดอายุให้ผลไม้ 2 สัปดาห์ /โดย ลงทุนเกิร์ล
มีใครเคยสังเกตกันไหมคะว่า เวลาที่เราไปซื้อผลไม้สดที่นำเข้าจากต่างประเทศ ตามซูเปอร์มาร์เก็ต มักจะมีสติกเกอร์ดวงเล็ก ๆ แปะอยู่บนผลไม้ติดมาด้วยเสมอ
คงเป็นเรื่องแปลก ถ้าบอกว่าสติกเกอร์ที่ดูธรรมดา ๆ นี้ สามารถนำมาช่วยยืดอายุความสดใหม่ให้กับผลไม้ ได้นานขึ้นอีก 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วในสหรัฐอเมริกา โดยเจ้าของสติกเกอร์นี้ ก็คือสตาร์ตอัปที่ชื่อว่า “Ryp Labs” ที่ได้สร้างนวัตกรรมช่วยลดปริมาณขยะอาหาร ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก
แล้วสติกเกอร์ของ Ryp Labs จะช่วยยืดความสดให้ผลไม้ได้อย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Ryp Labs มีผู้ร่วมก่อตั้งคือ คุณ Moody Soliman อดีตที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีด้านการเกษตร
และคุณ Zhafri Zainudin นักวิจัยชาวมาเลเซีย ผู้อยู่เบื้องหลังไอเดีย “สติกเกอร์ยืดความสดให้ผลไม้”
โดยจุดเริ่มต้นของ Ryp Labs เกิดขึ้น หลังจากที่คุณ Zainudin ไปเยี่ยมเพื่อนที่เปิดร้านขายผลไม้สด แล้วเพื่อนของเขาบ่นว่า ต้องสูญเสียรายได้ทุกวัน เพราะผลผลิตเน่าเสียก่อนนำไปขาย และต้องตัดสินใจทิ้ง อย่างน่าเสียดาย
พอเป็นแบบนี้ทำให้คุณ Zainudin จึงพยายามหาวิธีช่วยเหลือ แม้เขาจะรู้ดีว่า “ไม่อาจหยุดกลไกการเน่าเสีย ตามธรรมชาติของผลไม้ได้ แต่พอจะมีวิธีทำให้มันเน่าเสียช้าลงได้หรือไม่”
ดังนั้น คุณ Zainudin จึงเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการถนอมผลไม้ ซึ่งเขายังได้สังเกตว่า ผลไม้ที่วางขายส่วนใหญ่ มักจะแปะสติกเกอร์ไว้บนเปลือก เพื่อใช้บอกข้อมูลสินค้า เช่น ชื่อสายพันธุ์, ขนาด หรือกระบวนการผลิต
จากจุดนี้เอง ทำให้คุณ Zainudin ผุดไอเดียขึ้นมาว่า “ทำไมไม่ใช้ประโยชน์จากสติกเกอร์เหล่านี้ โดยการลองผลิตเป็นสติกเกอร์ชะลอการเน่าเสียของผลไม้”
เพราะเป็นวิธีที่ผู้ประกอบการไม่ต้องสิ้นเปลืองต้นทุนมาก เนื่องจากเป็นการต่อยอดจากสิ่งของที่ต้องใช้อยู่แล้ว
ซึ่งจากไอเดียในวันนั้น ก็ถูกแปลงมาเป็น “StixFresh” หรือนวัตกรรมสติกเกอร์ยืดอายุความสดให้ผลไม้
นอกจากนี้ ยังกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Ryp Labs ที่ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ในปี 2017 อีกด้วย
แล้ว StixFresh ทำงานอย่างไร ?
ต้องบอกก่อนว่า โดยปกติแล้วพืชจะผลิตสารประกอบเคมีบางอย่างออกมา เพื่อใช้ป้องกันโรคและอันตรายจากสิ่งแวดล้อมได้เองตามธรรมชาติ
ดังนั้นสิ่งที่ Ryp Labs ทำก็คือ การสังเคราะห์สารเคมีเหล่านั้น ขึ้นมาเลียนแบบธรรมชาติ แล้วนำสารที่สังเคราะห์ได้นี้ ไปเคลือบบนแผ่นสติกเกอร์ “StixFresh”
เมื่อเราติด StixFresh ลงบนผิวของผลไม้ ขณะที่ผลไม้ยังดิบหรือห่าม สารในสติกเกอร์ก็จะค่อย ๆ กระจายตัวออกมาปกคลุมผิวของผลไม้ คล้ายกับมีชั้นฟิล์มมาปกคลุมอีกชั้นหนึ่ง
ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการสัมผัสกับออกซิเจน และควบคุมให้ผลไม้สูญเสียน้ำออกไปให้น้อยที่สุด รวมถึงช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
จึงทำให้ผลไม้สามารถคงความสด และชะลอการเน่าเสียได้นานถึง 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน
โดย Ryp Labs ระบุว่า สติกเกอร์นี้จะทำงานได้ดีที่สุด กับผลไม้เขตร้อนและผลไม้ตระกูลซิตรัส เช่น มะม่วง, อาโวคาโด, มะละกอ, แก้วมังกร, แอปเปิล, ส้ม, เลมอน, แตงโม, ลูกแพร์
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทกำลังพัฒนาสติกเกอร์ เพื่อนำไปใช้กับผักและผลไม้ชนิดอื่นเพิ่มเติม ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ StixFresh ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) เรียบร้อยแล้ว จึงไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งบริษัทยังเคลมอีกว่า สติกเกอร์นี้ปลอดภัย จนสามารถทานได้ด้วยซ้ำ
ที่น่าสนใจคือ ด้วยนวัตกรรมที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ของ Stixfresh ยังถูกนำไปใช้กับทุกจุดของห่วงโซ่การผลิตผลไม้ เริ่มตั้งแต่หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต, การจัดเก็บ, การบรรจุภัณฑ์, การขนส่ง
ไปจนถึงการจัดจำหน่าย ยกตัวอย่างผู้ค้าปลีกรายใหญ่ เช่น Walmart และ ALDI ต่างก็นำร่องลองนำ StixFresh ไปใช้กับสินค้าในหมวดหมู่ผลไม้
ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจ เพราะ Stixfresh สามารถยืดอายุการเก็บรักษาผลไม้บนเชลฟ์ ได้นานขึ้นจากเดิม มากกว่า 50% ทำให้บริษัทตั้งเป้าขยายการเปิดตัวนวัตกรรมนี้ ให้กับผู้ค้าปลีกรายย่อยเพิ่มอีกด้วย
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ในต้นปีที่ผ่านมา Ryp Labs ได้รับการยกย่องจาก UN หรือสหประชาชาติ ให้เป็นสุดยอดสตาร์ตอัปแห่งปี 2023 ในเวทีงานประชุมแก้ปัญหาโลกร้อน หรือ COP27
จากการเป็นสตาร์ตอัปที่คิดค้นนวัตกรรม เพื่อลดขยะอาหารและผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
เรียกได้ว่า นวัตกรรมของ Ryp Labs นับเป็นอีกหนึ่งความหวังในการบรรเทาปัญหาขยะอาหาร ที่ทั่วโลกกำลังเร่งมือแก้ไข
ถึงแม้ว่า Ryp Labs จะไม่ได้แก้ปัญหาได้หมดสิ้น
แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย และปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้สะสมไปเรื่อย ๆ..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.