Bruno Mars ศิลปินที่เดินตามความฝัน ตั้งแต่ 4 ขวบ /โดย ลงทุนเกิร์ล

ถ้าถามว่าศิลปิน R&B ที่โด่งดังที่สุดตอนนี้คือใคร ?
แน่นอนว่า หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Bruno Mars

การันตีด้วยผลงานเพลงฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Leave The Door Open, Uptown Funk และ 24K Magic

โดยเขาเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในยุคนี้
และมีทรัพย์สินมากกว่า 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6,200 ล้านบาท

แต่เรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ Bruno Mars มีเชื้อสายมาจากชาวเอเชีย แถมช่วงหนึ่งของชีวิต ยังเคยถูกจับเรื่องคดียาเสพติดมาก่อน

เส้นทางของศิลปินแห่งยุคคนนี้ น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า Bruno Mars ไม่ใช่ชื่อจริงของเขา เพราะจริง ๆ แล้ว เขามีชื่อว่า “Peter Gene Hernandez”
ซึ่งเกิดและเติบโตในรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา

คุณพ่อของเขาเป็นลูกครึ่งเปอร์โตรีโกและยิวอัชเคนาซิ อาศัยอยู่ที่รัฐนิวยอร์ก
ส่วนคุณแม่ของเขาเป็นชาวฟิลิปปินส์ ที่ย้ายมาอยู่ที่รัฐฮาวาย

ทั้งคู่ได้แต่งงานแล้วมีลูกด้วยกันทั้งหมด 6 คน
และเด็กชาย Peter หรือ Bruno Mars ก็คือหนึ่งในนั้น

จะเรียกว่าครอบครัวนี้ มีดีเอ็นเอความเป็นศิลปินก็ไม่ผิด เพราะทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของ Peter ต่างก็เป็นนักดนตรี โดยคุณพ่อเป็นมือกลอง ส่วนคุณแม่เป็นนักเต้น Hula

แล้วตอนนี้หลายคนก็น่าจะสงสัยแล้วว่า ชื่อ Bruno Mars มีที่มาอย่างไร ?

ก็ต้องบอกว่าทั้งคำว่า Bruno และ Mars ไม่ได้มาพร้อมกัน
สำหรับ Bruno นั้น มาจากการที่คุณพ่อของเขาได้ตั้งให้เป็นชื่อเล่น ตามนักมวยปล้ำ Bruno Sammartino เพราะว่าทั้งคู่มีหน้าตาและลักษณะคล้ายกัน

ในขณะที่ Mars มาจากการที่สาวในโรงเรียนชอบพูดกับเขาว่ามาจากอีกโลกแน่เลย
เขาเลยเลือกใช้ชื่อ Mars ที่แปลว่าดาวอังคารเสริมท้าย
รวมกันเป็น Bruno Mars เพื่อให้ชื่อของเขามีเสน่ห์มากขึ้น

สรุปแล้ว ชื่อนี้มีที่มาจากการที่เขาหน้าคล้ายนักมวยปล้ำและถูกสาวในโรงเรียนหาว่ามาจากนอกโลก..

กลับมาที่ชีวิตวัยเด็กของ Bruno Mars
เด็กหนุ่มคนนี้หลงรักการร้องเพลง และการเต้นตั้งแต่เด็ก

คุณพ่อของ Bruno จะคอยส่งเขาเข้าไปประกวดในการแข่งขันและคอนเสิร์ต
โดยเด็กชายคนนี้มีสไตล์การแต่งตัวคล้ายกับ Elvis Presley แล้วก็มักจะร้องเพลงของ Elvis Presley และ Michael Jackson อีกด้วย

และด้วยเสียงอันไพเราะ บวกกับท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์
ทำให้เขาได้รับฉายา “Little Elvis” ตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบ

ในช่วงเวลาเดียวกัน หนุ่มน้อย Bruno ได้เข้าร่วมวงดนตรีแรกของครอบครัว ที่มีนามว่า The Love Notes ซึ่งเขาต้องออกไปตระเวนเล่นดนตรี 5 ครั้งต่อสัปดาห์

หลังจากที่ Bruno เรียนจบมัธยมในปี 2003
เขาได้เดินทางไปยังลอสแอนเจลิส เพื่อไปเดินตามความฝันของเขา
นั่นก็คือการเป็นศิลปิน และหลังจากนั้นเพียงปีเดียว
เขาก็ได้ตัดสินใจสมัครงานกับค่าย Motown Records

ที่นั่น Bruno ได้พบเจอกับคนที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล ซึ่งคนนั้นก็คือ นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ที่ชื่อว่า Philip Lawrence

เพราะหลังจากนั้น Bruno ได้มีโอกาสร่วมงานกับโปรดิวเซอร์มากประสบการณ์อย่าง Ari Levine
และได้ทำงานร่วมกับ Atlantic Records ค่ายเพลงใหญ่ในเครือของ Warner Music Group

จนกระทั่งในปี 2009 Bruno, Philip และ Ari ได้ร่วมงานกัน โดยจัดตั้งค่ายโปรดักชันส์ในชื่อ “The Smeezingtons”

ด้วยความสามารถของทั้งสามคน ทำให้ค่ายเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้ร่วมกับศิลปินออกเพลงที่ติด Top Chart ของ Billboard เช่น

Right Round (Flo Rida)Nothin’ on You (B.o.B featuring Bruno Mars)

ในปีถัดมาก็มาถึงคิวของ Bruno ที่ได้เปิดตัว
เพลง “Just the Way You Are” ซึ่งติดอันดับ 1 ใน Billboard Hot 100
และในปีนั้น Bruno ก็ได้รับรางวัลเพลงพ็อปยอดเยี่ยมแห่งปี
ทำให้เขากลายเป็นนักดนตรีที่เป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก

แต่การประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยก็ไม่ได้มีแต่ด้านบวกเสมอไป
เพราะ Bruno ได้หลงละเลิงกับวงการบันเทิง และเลือกที่จะหันเข้าหายาเสพติด จนถูกตำรวจจับกุมตัว

แต่โชคยังดีที่เขายังกลับมาสานฝันของเขาต่อ
ซึ่งนอกเหนือจากการที่เขาเป็นนักร้องเองแล้ว
อีกสิ่งที่ Bruno ชื่นชอบเป็นอย่างมาก ก็คือการแต่งเพลง

ซึ่งเขาก็ได้แต่งเพลงให้กับศิลปินชื่อดังหลายคนในสหรัฐอเมริกา แถมเขายังมีส่วนสำคัญในการคิดคอนเทนต์รวมถึงมิวสิกวิดีโอด้วย

ปัจจุบัน Bruno Mars ก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินระดับโลก ที่ครอบครองทรัพย์สิน มูลค่ารวมกันราว 6,200 ล้านบาท

เรื่องราวทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า หากเรามีความฝัน
ที่จะทำอะไรก็ตาม ก็ขอให้มุ่งมั่นและตั้งใจทำมันจนกว่าจะสำเร็จ

อย่างที่ Bruno Mars รู้ว่าตัวเองชื่นชอบดนตรีตั้งแต่ 4 ขวบ และหลังจากนั้นก็แน่วแน่กับเส้นทางนี้มาโดยตลอด

และอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ ชีวิตเราในบางครั้ง
อาจจะมีการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปบ้าง
แต่เมื่อเราพลาดแล้ว เราก็ต้องไม่หนีปัญหา ยอมรับ และต้องปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น

หากในวันที่ Bruno Mars โดนตำรวจจับกุมข้อหามีสารเสพติดในครอบครอง
เขากลับตัวได้ไม่ทันและเลือกที่จะไม่ปรับปรุงตัวเอง
วันนี้ โลกของเราก็อาจจะไม่ได้มีเพลงของศิลปิน
ที่ชื่อว่า Bruno Mars ให้เราได้รับฟัง ก็เป็นได้..

References:
-https://www.thefamouspeople.com/profiles/bruno-mars-6089.php
-https://www.smoothradio.com/artists/bruno-mars/elvis-presley-impression-video/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Bruno_Mars
-https://www.theguardian.com/music/2011/jan/31/bruno-mars-plea-deal
-https://www.thethings.com/bruno-mars-house-net-worth-175-million/
-https://www.thehistoryofrockandroll.net/atlantic-records/
-https://en.wikipedia.org/wiki/The_Smeezingtons
-https://www.thefactsite.com/bruno-mars-facts/
-https://www.audacy.com/mix1051/articles/feature-article/20-things-you-didnt-know-about-bruno-mars