
Business
ถ้าอาม่าออมเงิน ในกองทุนรวม จะมีเงินให้หลานเท่าไร ?
7 เม.ย. 2024
[เนื้อหาบางส่วน อาจมีสปอยด์โครงเรื่อง จากภาพยนตร์หลานม่า]
นอกจาก หลานม่า จะเต็มไปด้วยอารมณ์ดรามา ระหว่างครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ยังมีมุมเกี่ยวกับการเงิน ผสมอยู่ด้วย
นอกจาก หลานม่า จะเต็มไปด้วยอารมณ์ดรามา ระหว่างครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ยังมีมุมเกี่ยวกับการเงิน ผสมอยู่ด้วย
หนึ่งในนั้น จะเป็นเรื่อง “การออมเงิน” ของอาม่า เพื่อเก็บเป็นสมบัติให้ลูกหลาน
เราลองมาดูกันว่า อาม่า มีตัวเลือกการออมเงิน อะไรบ้าง ?
พร้อมแล้ว เราลองมาดูกันเลย
เราลองมาดูกันว่า อาม่า มีตัวเลือกการออมเงิน อะไรบ้าง ?
พร้อมแล้ว เราลองมาดูกันเลย
เริ่มจาก ตัวอย่างชีวิตประจำวันของ อาม่า
-อาม่า ทำธุรกิจขายโจ๊ก
-ขายได้วันละ 100 ถุง กำไรถุงละ 10 บาท
เท่ากับว่า อาม่า มีเงินสดเข้ากระเป๋า วันละ 1,000 บาท
-อาม่า ทำธุรกิจขายโจ๊ก
-ขายได้วันละ 100 ถุง กำไรถุงละ 10 บาท
เท่ากับว่า อาม่า มีเงินสดเข้ากระเป๋า วันละ 1,000 บาท
โดยอาม่า ตั้งใจจะนำกำไร จากการขายโจ๊ก ออมเอาไว้ให้กับหลานคนหนึ่ง
เริ่มออมตอนหลาน 6 ขวบ และจะยกให้ตอนเรียนจบ หรือในวัย 22 ปี เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 16 ปี
เริ่มออมตอนหลาน 6 ขวบ และจะยกให้ตอนเรียนจบ หรือในวัย 22 ปี เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 16 ปี
หากอาม่า เป็นชาวจีนแท้ ๆ รักเงินสด เก็บในกระปุก
เท่ากับว่า สมบัติของหลาน คิดเป็น 5.8 ล้านบาท..
เท่ากับว่า สมบัติของหลาน คิดเป็น 5.8 ล้านบาท..
แต่หากอาม่า อยากได้ผลตอบแทนเพิ่มเติมด้วย ก็จะมีตัวเลือก เช่น
-ฝากบัญชีออมทรัพย์ ทุกเดือน 30,000 บาท ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี
มูลค่าเงินออม ก็จะเท่ากับ 6 ล้านบาท
-ฝากบัญชีออมทรัพย์ ทุกเดือน 30,000 บาท ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี
มูลค่าเงินออม ก็จะเท่ากับ 6 ล้านบาท
ทีนี้มาถึงคำถามที่ว่า ถ้าอาม่าใช้เครื่องมือในการลงทุนที่ไม่ต้องซับซ้อนแบบซื้อหุ้นด้วยตัวเอง แต่เป็นแบบที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย ๆ อย่างกองทุนรวม อาม่าจะมีเงินให้หลานเท่าไร ?
โดยกำหนดให้ ลงทุนแบบเดิม 30,000 บาททุกเดือน
-กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ที่เป็นความเสี่ยงต่ำ คาดหวัง ดอกเบี้ย 2% ต่อปี
มูลค่าสมบัติหลาน จะได้ 6.8 ล้านบาท (เพิ่มจากเงินฝากออมทรัพย์อีก 8 แสนบาท)
มูลค่าสมบัติหลาน จะได้ 6.8 ล้านบาท (เพิ่มจากเงินฝากออมทรัพย์อีก 8 แสนบาท)
-กองทุนรวมหุ้น (ซึ่งอาจจะมีผันผวนในระหว่างทาง) แต่ถ้าอาม่ามีระยะเวลาการลงทุนที่มากถึง 16 ปี ซึ่งด้วยระยะเวลาที่มากขนาดนี้ ทำให้กองทุนรวมหุ้นเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับอาม่า เพราะจะผ่านช่วงเวลาผันผวนเหล่านั้น
ถ้าให้กองทุนรวมหุ้นที่อาม่าลงทุน อ้างอิงกับกองทุนรวมในเครือแบงค์ใหญ่ ซึ่งก็คือ
KAEQ จาก KASSET จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.6% ต่อปี ในระยะเวลา 16 ปี
BTP จาก BBLAM จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.2% ต่อปี ในระยะเวลา 16 ปี
KAEQ จาก KASSET จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.6% ต่อปี ในระยะเวลา 16 ปี
BTP จาก BBLAM จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.2% ต่อปี ในระยะเวลา 16 ปี
น่าสนใจที่ว่าระยะเวลาที่เริ่มลงทุนจะเป็นปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดวิกฤติซับไพรม์ และทำให้ขาดทุนหนักในระยะแรกด้วยซ้ำ
รู้ไหมว่า ผลลัพธ์การสะสมเงินในกองทุนหุ้นเป็นเวลา 16 ปี ตอนนี้สมบัติของหลานจะมีมูลค่าราว 11 ล้านบาท ซึ่งวิธีนี้จะสร้างผลตอบแทนมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับออมในกระปุกอย่างเดียวที่ 5.8 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอาม่าจะออมเงินแบบไหน
จะได้ 5 ล้านบาท หรือ 10 ล้านบาท
จะได้ 5 ล้านบาท หรือ 10 ล้านบาท
มันก็อาจไม่สำคัญเท่ากับการ “ตั้งเป้าหมาย” เพื่ออะไรบางอย่างที่เราต้องมี “วินัย” กับมันอย่างแน่วแน่
อย่างอาม่า ที่เลือกจะออมทุกวัน เพราะมีเป้าหมายคืออนาคตของหลานผู้เป็นที่รัก นั่นเอง..
คำเตือน การลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งทุนอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต