เจาะกลยุทธ์สร้างธุรกิจในต่างแดน กับคุณเบส-ชยธร เจ้าของร้านขนมหวานคิวยาว ในออสเตรเลีย
Business

เจาะกลยุทธ์สร้างธุรกิจในต่างแดน กับคุณเบส-ชยธร เจ้าของร้านขนมหวานคิวยาว ในออสเตรเลีย

15 ก.ค. 2024
เจาะกลยุทธ์สร้างธุรกิจในต่างแดน กับคุณเบส-ชยธร เจ้าของร้านขนมหวานคิวยาว ในออสเตรเลีย /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ว่า ในออสเตรเลีย มีร้านขนมหวานของคนไทย
ที่มีเมนูบิงซูชาไทย ขนมปังนึ่งจิ้มสังขยา ไอศกรีมเจลาโตข้าวเหนียวมะม่วง และอีกหลายเมนูที่เราคุ้นเคย
ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก จนสามารถขยายถึง 3 สาขาภายในเวลาไม่ถึงปี
เรากำลังพูดถึงร้าน “Homm Dessert at Heart” หรือร้าน “หอม” ที่มีจุดเริ่มต้นจากความชอบของเหล่าผู้ก่อตั้งที่มาพร้อมความกล้า
ที่บอกว่ากล้าก็เพราะพวกเขาคือชาวต่างชาติที่กำลังจะเปิดร้านขนมหวาน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจร้านอาหารมาก่อน
แต่พวกเขาก็กล้าที่จะนำความชอบนั้นมาต่อยอด เพราะเห็นว่าตลาดในออสเตรเลียยังคงมีช่องว่าง และความเป็นไทยก็ยังขายได้ในเมืองแห่งความหลากหลายอย่างเมลเบิร์น
วันนี้ลงทุนเกิร์ลมีโอกาสได้คุยกับคุณเบส-ชยธร ศักดาทร เจ้าของเพจ “ลักพาตัวแฟนมาเป็น Aussie” และเจ้าของร้าน Homm Dessert at Heart (หอม) ธุรกิจร้านขนมหวานที่สามารถตีตลาดออสเตรเลียได้สำเร็จ
กว่าจะมาถึงจุดนี้ คุณเบสมีวิธีในการบริหารธุรกิจในต่างแดนอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
หากใครที่ติดตามเพจลักพาตัวแฟนมาเป็น Aussie อาจจะพอทราบเรื่องราวเบื้องหลังการมาอยู่ต่างประเทศของคุณเบส ซึ่งเป็นการย้ายตามคุณแม่มาอาศัยที่ซิดนีย์ ออสเตรเลียตั้งแต่อายุได้ 12 ปี
จนได้พบกับคุณแพรว-แพรวทิพย์ สายไทย ผู้เป็นภรรยา และตัดสินใจย้ายกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดในจังหวัดเชียงใหม่
ต่อมา คุณเบสก็มีโอกาสได้ทานขนมหวานจากร้านเจ้าดังในเชียงใหม่และรู้สึกประทับใจ จนเกิดไอเดียว่าถ้าในออสเตรเลียมีร้านขนมแนวนี้บ้างก็คงจะดี
จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณเบสและคุณแพรวตัดสินใจย้ายกลับไปออสเตรเลียอีกครั้ง พร้อมกับพกไอเดียเรื่องร้านขนมหวานกลับไปด้วย แต่ขณะนั้นเป็นเพียงไอเดียเล็ก ๆ ที่ยังไม่ได้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง
เนื่องจากตัวคุณเบสมองว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมาเปิดร้านขนม เพราะตนไม่มีความรู้ ไม่มีเงินทุน หรือแม้แต่ประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อน
ประกอบกับการกลับมาซิดนีย์ครั้งนี้ ยังพบว่ามีร้านขายขนมหวานคล้าย ๆ กับร้านที่เขาอยากจะทำ และร้านนั้นก็ขายดีมากอยู่แล้วด้วย จึงเป็นเรื่องยากถ้าหากจะเปิดกิจการแข่ง
เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณเบสจึงเบนเข็มสู่การเป็นพนักงานประจำ ทำงานบริษัท BIG4 ในออสเตรเลีย แต่สุดท้ายก็รู้ตัวว่านี่ไม่ใช่ทางของตัวเอง อีกทั้งยังมีความคิดที่อยากเปิดร้านขนมวนอยู่ในหัวตลอดมา
แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อคุณเบสและคุณแพรวได้เดินทางไปพบกับคุณปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่เมลเบิร์น เพื่อนำเรื่องราวมาถ่ายทอดลงในเพจของตัวเอง
ซึ่งทั้งคู่ได้แวะไปชิมร้านขนมที่เมลเบิร์น แล้วรู้สึกไม่ประทับใจทั้งรสชาติและบริการ จุดนั้นเองที่ภาพในหัวของคุณเบสชัดเจนขึ้นว่า ถ้าเปิดร้านของตัวเองจะออกมาประมาณไหน และจะอุดรอยรั่วอย่างไรบ้าง
พอได้คุยกับคุณแพรวแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นอะไรที่ทั้งคู่ทำแล้วจะมีความสุข ทั้งคู่จึงเริ่มต้นจริงจังกับการปั้นธุรกิจร้านขนมหวานของตัวเองขึ้นมา ภายใต้เงื่อนไขว่าร้านนี้ต้องตั้งอยู่ที่เมลเบิร์น
สาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าคุณเบส “รู้จักตลาดซิดนีย์ดีเกินไป”
แน่นอนว่าความคิดของคุณเบสนั้น ตรงข้ามกับตำราธุรกิจที่สอนว่าควรจะทำความรู้จักลูกค้าและรู้จักตลาดให้มากที่สุด
แต่ในเรื่องนี้คุณเบสมองว่า ตัวเองรู้เป็นอย่างดีว่าคู่แข่งในตลาดนั้นแข็งแกร่ง และถ้าเลือกเปิดร้านในซิดนีย์ก็จะทำได้เพียงเดินตามรอยคู่แข่ง
ดังนั้น ร้านหอมจึงมาปักหมุดที่เมลเบิร์น ที่ดูแล้วมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า
จากนั้นคุณเบสก็ได้นำไอเดียไปคุยกับเพื่อนที่ชื่อคุณบี-ภัทรานิษฐ์ จันทร์อินทร์ ซึ่งคุณบีก็สนใจและไปหาผู้ลงทุนมาให้สำเร็จ
ส่วนที่มาของชื่อร้าน คุณเบสเลือกใช้ชื่อหอมที่เมื่อออกเสียงภาษาไทยว่า “หอม” หมายถึงกลิ่นหอม
ขณะที่การออกเสียงของชาวต่างชาติจะเป็น “ฮอม” ซึ่งมีความหมายในภาษาเหนือว่าการเอามารวมกัน การแชร์กัน อีกทั้งการออกเสียงไม่ชัดของชาวต่างชาตินั้นยังสามารถนำมาเป็นกิมมิกได้อีกด้วย
แต่ในช่วงแรกที่เปิดร้าน เส้นทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด
คุณเบสเล่าว่า ตอนนั้นยังไม่ได้เชี่ยวชาญในเรื่องการบริหารจัดการ ทำให้มีของไม่พอขาย รวมถึงปัญหาต่าง ๆ ก็ถาโถมเข้ามาเยอะมาก ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือฟีดแบ็กที่รุนแรงจนเสียสุขภาพจิต
แต่หลังจากผ่านไปได้หนึ่งเดือน คุณเบสก็เริ่มจัดการกับความเครียดและสามารถกลับมาทำงานได้ดีขึ้น จนทำให้ลูกค้าเริ่มกลับมา ถึงขั้นมีคิวต่อเข้าร้านเลยทีเดียว
โดยวิธีการที่คุณเบสและคุณแพรวใช้คือ ทุกวันหลังปิดร้านเสร็จประมาณตีหนึ่ง ทั้งคู่จะมานั่ง Debrief ปรึกษากันต่อว่าวันนั้นมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง หรือมีแนวโน้มจะเกิดปัญหาอะไรอีกบ้าง เป็นแบบนี้ต่อเนื่องประมาณ 1-2 เดือน
แน่นอนว่าเมื่อต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ภาระงานของทั้งคู่ก็หนักมาก คุณเบสและคุณแพรวจึงตัดสินใจว่าจะต้องเริ่มวางระบบเพื่อปั้นพนักงานที่จะมาเป็นผู้นำแทนได้
ซึ่งจุดนี้เอง ได้กลายมาเป็นกุญแจสำคัญ ช่วยให้ร้านหอมเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
และภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ร้านหอมก็เต็มไปด้วยพนักงานที่สามารถไว้วางใจให้ดูแลร้านแทนได้
สำหรับใครที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ และอยากจะไปลุยทำธุรกิจในออสเตรเลียบ้าง
คุณเบสก็ได้แชร์ให้ฟังว่า ประเทศออสเตรเลียยัง “มีโอกาสทางธุรกิจอีกมาก” สำหรับผู้ประกอบการที่มองหาตลาด Blue Ocean หรือพื้นที่ทางการตลาดที่มีการแข่งขันไม่สูงมาก
เนื่องจากการทำธุรกิจในออสเตรเลียมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนสูง ทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลร้าน ค่าจ้างพนักงาน ภาษี รวมถึงกฎหมายที่ค่อนข้างเข้มงวด
ยกตัวอย่าง ร้านหอมที่มีค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานต่อร้านจำนวน 20 คน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่อาทิตย์ละประมาณ 480,000 บาท หรือตกเดือนละ 1.9 ล้านบาทเลยทีเดียว
ส่วนเรื่อง “ทำเลก็เป็นปัจจัยสำคัญ” ทำเลที่คนพลุกพล่านก็จะมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่า
แต่ก็ต้องเลือกทำเลให้ดี เพราะบางที่ค่าเช่าถูกแต่มีค่าใช้จ่ายยิบย่อยอย่างอื่นแพง กลับกันบางที่ค่าเช่าแพงแต่มีทุกอย่างครบครันไม่ต้องทำอะไรเลย
ที่สำคัญ “คุณภาพขนมในร้านต้องห้ามลดลง” ไม่ใช่แค่ทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม แต่ต้องคิดสูตรใหม่เรื่อย ๆ ให้เสถียรมากขึ้น
นอกจากนี้ คุณเบสยังใช้ “การตลาดที่จริงใจ” ถ้าวัตถุดิบไหนที่ไม่สามารถควบคุมคุณภาพให้ได้ตามเดิมก็ต้องบอกลูกค้าตามตรง
อย่างเช่น ช่วงไหนมะม่วงไม่อร่อยก็ต้องแจ้งลูกค้าตามตรง เพราะยังไงลูกค้าก็รู้ แต่ให้เขารู้เพราะเราบอก ดีกว่าให้เขารู้เพราะเขากิน ซึ่งจุดนี้ลูกค้าก็จะประทับใจในความจริงใจของร้านและกลับมาใหม่เมื่อมีโอกาส
ซึ่งการทำธุรกิจในออสเตรเลีย หากมีสินค้าดี การบริการที่ดีก็มีโอกาสอยู่รอดได้ เพราะลูกค้าจะบอกกันปากต่อปากทำให้มีลูกค้าประจำได้เร็ว
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ร้านหอมประสบความสำเร็จได้ก็คือ สภาพแวดล้อมของร้าน
โดยคุณเบสเล่าว่าโชคดีที่ได้เจอคนไทยที่ทำธุรกิจในละแวกเดียวกันและให้การสนับสนุนเยอะมาก จนกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร้านหอมเดินหน้าได้เร็ว
นับตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้านในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา ร้านหอมขยายสาขาเพิ่มรวมเป็น 3 สาขา มีทั้งสาขาที่ลงทุนเองและขายแฟรนไชส์ และอีก 2 สาขาที่กำลังจะเปิดเร็ว ๆ นี้
รวมถึงมีแผนขยายสาขาออกไปต่างประเทศ โดยจะไปปักหมุดในสิงคโปร์เป็นที่แรก..
ถ้าหากถามว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณเบสและร้านหอม เดินทางมาได้ไกลถึงวันนี้
คุณเบสก็ได้ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า
คำตอบก็อาจเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่าง “ความมั่นใจในตัวเอง”
เพราะคนที่จะมาบอกว่าเราเก่งได้ดีที่สุดก็คือตัวเราเอง
แต่ก็ต้องไม่ลืมเรียนรู้จากคนอื่น เพื่อไม่ให้ติดกับดักของตัวเองด้วย..
Reference
-สัมภาษณ์พิเศษกับคุณเบส-ชยธร ศักดาทร ผู้ร่วมก่อตั้งร้าน Homm Dessert at Heart
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.