
LifestyleInspiration
โบว์-ปัณฑิตา ศิลปินวัย 23 ปี ที่ทำรายได้จากงานศิลปะถึง 10 ล้านบาท
30 พ.ย. 2020
โบว์-ปัณฑิตา ศิลปินวัย 23 ปี ที่ทำรายได้จากงานศิลปะถึง 10 ล้านบาท /โดย ลงทุนเกิร์ล
การซื้องานศิลปะสักชิ้นหนึ่งมาสะสม
บางคนอาจเลือกจากงาน ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินที่มีชื่อเสียง
เพราะผลงานเหล่านี้ มักมีโอกาสที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
ซึ่งถ้ากล่าวถึงศิลปินชื่อดังในประเทศไทย เราอาจนึกถึงศิลปินแห่งชาติ
ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นบุคคลที่อยู่ในวงการศิลปะมานาน หรือค่อนข้างมีอายุ
บางคนอาจเลือกจากงาน ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินที่มีชื่อเสียง
เพราะผลงานเหล่านี้ มักมีโอกาสที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
ซึ่งถ้ากล่าวถึงศิลปินชื่อดังในประเทศไทย เราอาจนึกถึงศิลปินแห่งชาติ
ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นบุคคลที่อยู่ในวงการศิลปะมานาน หรือค่อนข้างมีอายุ
อย่างไรก็ตาม “อายุ” ก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดความสำเร็จเสมอไป
เพราะตอนนี้ หนึ่งในศิลปินรุ่นใหม่ ที่กำลังได้รับการจับตามองจากนักสะสม
ก็น่าจะมีชื่อ คุณโบว์-ปัณฑิตา มีบุญสบาย อยู่ด้วย
โดยภาพวาดของเธอ ถูกประมูลไปในราคาเกือบ 2 แสนบาท ก่อนที่เธอจะเรียนจบด้วยซ้ำ
เพราะตอนนี้ หนึ่งในศิลปินรุ่นใหม่ ที่กำลังได้รับการจับตามองจากนักสะสม
ก็น่าจะมีชื่อ คุณโบว์-ปัณฑิตา มีบุญสบาย อยู่ด้วย
โดยภาพวาดของเธอ ถูกประมูลไปในราคาเกือบ 2 แสนบาท ก่อนที่เธอจะเรียนจบด้วยซ้ำ
คุณโบว์-ปัณฑิตา มีบุญสบาย คือใครและน่าสนใจอย่างไร? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
คุณโบว์ คือเด็กสาวจากจังหวัดระยอง
ที่เพิ่งจบการศึกษาจาก คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ที่เพิ่งจบการศึกษาจาก คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ปัจจุบันเธออายุ 23 ปีเท่านั้น
แต่ด้วยระยะเวลาเพียง 2 ปี เธอกลับขายผลงานศิลปะได้กว่า 200 ชิ้น
แต่ด้วยระยะเวลาเพียง 2 ปี เธอกลับขายผลงานศิลปะได้กว่า 200 ชิ้น
จริงๆ แล้ว เมื่อก่อนคุณโบว์ก็เคยมองว่าภาควิชาที่เธอเรียน
จบมาแล้ว ก็ไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไร
เพราะเธอไม่เคยมองเห็นความมั่นคงของชีวิตในวงการศิลปะเลย
จบมาแล้ว ก็ไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไร
เพราะเธอไม่เคยมองเห็นความมั่นคงของชีวิตในวงการศิลปะเลย
ซึ่งคุณโบว์เอง ที่เลือกคณะจิตรกรรม ก็เพราะแค่ “ความชอบ”
รู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ทางด้านการวาดรูป และที่บ้านก็สนับสนุนเธออย่างเต็มที่
รู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ทางด้านการวาดรูป และที่บ้านก็สนับสนุนเธออย่างเต็มที่
แต่แล้วเส้นทางชีวิตของคุณโบว์ในวงการศิลปะก็เริ่มชัดเจนขึ้น
เมื่อมีนักสะสมคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้จักคุณโบว์มาก่อน
เห็นผลงานธีสิสตอนปี 4 ที่เธอโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก และส่งข้อความมาขอซื้อผลงานของเธอ
และนั่นก็เป็นภาพแรกที่คุณโบว์สามารถขายได้ ด้วยราคา 20,000 บาท
เห็นผลงานธีสิสตอนปี 4 ที่เธอโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก และส่งข้อความมาขอซื้อผลงานของเธอ
และนั่นก็เป็นภาพแรกที่คุณโบว์สามารถขายได้ ด้วยราคา 20,000 บาท
แม้จะดูเป็นก้อนเงินที่ไม่ใหญ่มาก เทียบไม่ได้กับผลงานศิลปินชื่อดัง
แต่มันก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คุณโบว์มองเห็นถึงโอกาสในอาชีพสายนี้
ว่าเป็นอาชีพที่หาเลี้ยงตัวเองได้ และสามารถต่อยอดได้ในอนาคต
แต่มันก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คุณโบว์มองเห็นถึงโอกาสในอาชีพสายนี้
ว่าเป็นอาชีพที่หาเลี้ยงตัวเองได้ และสามารถต่อยอดได้ในอนาคต
และก็ถือว่าเป็นความคิดที่ถูกต้อง
เพราะปัจจุบันผลงานของคุณโบว์ กลายเป็นที่ต้องการในวงการศิลปะ
เพราะปัจจุบันผลงานของคุณโบว์ กลายเป็นที่ต้องการในวงการศิลปะ
แล้วจุดเด่นที่ทำให้นักสะสมสนใจงานศิลปะของคุณโบว์ คืออะไร?
ถ้ามองย้อนกลับไป งานศิลปะที่ผู้คนให้คุณค่า มักจะเป็นงานเชิงอนุรักษ์ความเป็นไทย
แต่คุณโบว์กลับมองต่างออกไปว่า “ศิลปะ” ควรเป็นเพียงแค่ “งานศิลปะที่ไม่ต้องมีเนื้อหาอะไร”
เพราะเธอต้องการผลิตงานศิลปะที่จรรโลงใจผู้คนมากกว่า
แต่คุณโบว์กลับมองต่างออกไปว่า “ศิลปะ” ควรเป็นเพียงแค่ “งานศิลปะที่ไม่ต้องมีเนื้อหาอะไร”
เพราะเธอต้องการผลิตงานศิลปะที่จรรโลงใจผู้คนมากกว่า
โดยคำจำกัดความงานของเธอคือ “แฟนตาซี อาร์ต” เป็นผลงานที่ทรงพลัง
และใช้พลังเกินตัว ตรงกันข้ามกับบุคลิกของเธอที่ดูเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ
และใช้พลังเกินตัว ตรงกันข้ามกับบุคลิกของเธอที่ดูเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ
เรามาดูยอดขายของผลงานศิลปะคุณโบว์กันค่ะ
ปกติแล้วคุณโบว์จะผลิตงานศิลปะได้ประมาณ 6 ชิ้นต่อเดือน
ซึ่งผลงานแต่ละชิ้น มีราคาไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท
แปลว่าใน 1 ปี คุณโบว์ จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาทเลยทีเดียว
ซึ่งผลงานแต่ละชิ้น มีราคาไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท
แปลว่าใน 1 ปี คุณโบว์ จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาทเลยทีเดียว
ซึ่งตอนนี้ผลงานของคุณโบว์ มียอดจองล่วงหน้าไปถึงปี 2565 แล้ว
แม้ภาพวาดจะยังไม่ถูกวาด แต่ก็มีคนตั้งตารอผลงานคุณโบว์นานเป็นปีๆ
แม้ภาพวาดจะยังไม่ถูกวาด แต่ก็มีคนตั้งตารอผลงานคุณโบว์นานเป็นปีๆ
ซึ่งถ้านับตั้งแต่วันที่ คุณโบว์เริ่มขายผลงานชิ้นแรก
ผ่านมา 2 ปี เธอก็สามารถขายงานไปได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ผ่านมา 2 ปี เธอก็สามารถขายงานไปได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ไม่เพียงเท่านี้ เธอยังสามารถทำยอดเงินถึง 100,000 บาท
ภายในเวลา 1 ชั่วโมง จากการขายจานสีทั้งหมด 20 ชิ้น
ภายในเวลา 1 ชั่วโมง จากการขายจานสีทั้งหมด 20 ชิ้น
แน่นอนว่าเหล่านี้ไม่ใช่จานสีทั่วไป แต่เป็นจานสีที่คุณโบว์ใช้ผสมสีสำหรับวาดรูป
ที่มาพร้อมกับเรื่องราว เพราะ จานสีแต่ละอัน จะถูกใช้กับผลงานหนึ่งชิ้นเท่านั้น
และเธอจะไม่ล้างจานสีเลยสักครั้งจนกว่าผลงานนั้นจะเสร็จ
ที่มาพร้อมกับเรื่องราว เพราะ จานสีแต่ละอัน จะถูกใช้กับผลงานหนึ่งชิ้นเท่านั้น
และเธอจะไม่ล้างจานสีเลยสักครั้งจนกว่าผลงานนั้นจะเสร็จ
ซึ่งรายได้ทั้งหมดจากการขายจานสี ยังถูกนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาศิลปะที่ขาดแคลนทุนทรัพย์อีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ เรามาดูแนวคิดที่คุณโบว์ใช้ในการพัฒนางานศิลปะของเธอกันค่ะ
อันดับแรก คุณโบว์มองว่า ผลงานทุกชิ้นที่ออกมาไม่มีคำว่า “สมบูรณ์ 100%”
เพราะคำว่า “สมบูรณ์แบบ” คือข้อจำกัดความของการ “หยุดพัฒนา”
เพราะคำว่า “สมบูรณ์แบบ” คือข้อจำกัดความของการ “หยุดพัฒนา”
ดังนั้นผลงานชิ้นโปรดของคุณโบว์ มักจะเป็นผลงานใหม่ล่าสุดเสมอ
เพราะเธอจะหาจุดผิดพลาดในทุกชิ้นงาน เพื่อนำไปพัฒนาและสร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ต่อไป
เพราะเธอจะหาจุดผิดพลาดในทุกชิ้นงาน เพื่อนำไปพัฒนาและสร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ต่อไป
ต่อมา “แรงบันดาลใจ” ก็เป็นส่วนสำคัญในการผลิตงานใหม่
โดยแรงบันดาลใจในการผลิตผลงานของคุณโบว์จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว
อย่างเช่น ศิลปินที่เธอชื่นชอบก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่เจาะจงเสพงานของศิลปินที่เธอชอบนานๆ
อย่างเช่น ศิลปินที่เธอชื่นชอบก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่เจาะจงเสพงานของศิลปินที่เธอชอบนานๆ
เพราะเธอคิดว่า ทุกคนจะมีธรรมชาติของการลอกเลียนแบบโดยไม่รู้ตัว
ทั้งทางพฤติกรรม รวมถึงเนื้องาน ทำให้บางทีผลงานอาจจะไปคล้ายคลึงกันได้
ทั้งทางพฤติกรรม รวมถึงเนื้องาน ทำให้บางทีผลงานอาจจะไปคล้ายคลึงกันได้
ดังนั้นเมื่อคุณโบว์ไม่ยึดติดกับผลงานของคนใดคนหนึ่ง
ผลงานขอเธอจึงไม่เคยหยุดนิ่งและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช่นกัน
ผลงานขอเธอจึงไม่เคยหยุดนิ่งและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช่นกัน
นอกจากนั้นเราต้องค้นหา “เอกลักษณ์” ของตัวเองให้เจอ
การเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีฝีมือดีที่สุด
แต่มันอยู่ที่ความแตกต่างและวิธีการนำเสนอผลงานมากกว่า
แต่มันอยู่ที่ความแตกต่างและวิธีการนำเสนอผลงานมากกว่า
ที่ผ่านมาคุณโบว์ได้ทดลองทำงานศิลปะมาหลากหลายแบบ
ทำให้เธอสามารถสร้างเป็นเอกลักษณ์ของเธอได้อย่างทุกวันนี้
ทำให้เธอสามารถสร้างเป็นเอกลักษณ์ของเธอได้อย่างทุกวันนี้
คุณโบว์ จึงไม่อยากให้ศิลปินรุ่นใหม่ ตีกรอบความคิดของตัวเอง
หรือสนใจแต่จำนวนเงิน และเลือกทำงานศิลปะตามความนิยม
หรือสนใจแต่จำนวนเงิน และเลือกทำงานศิลปะตามความนิยม
แต่ต้องสร้างความแตกต่าง และเป็นผู้นำในด้านที่ตัวเองถนัด
ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้คนสนใจซื้อผลงานมากกว่า
ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้คนสนใจซื้อผลงานมากกว่า
อย่างสุดท้ายคือ “การรักษามาตรฐาน”
ซึ่งการรักษามาตรฐานผลงานศิลปะของคุณโบว์คือ ไม่ได้ทำให้มันเท่าเดิม
แต่ทำมาตรฐานให้ดีขึ้นกว่าเดิมทุกครั้ง และพยายามสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ให้ดีขึ้นกว่าชิ้นเดิม
แต่ทำมาตรฐานให้ดีขึ้นกว่าเดิมทุกครั้ง และพยายามสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ให้ดีขึ้นกว่าชิ้นเดิม
เรื่องนี้ยังทำให้คุณโบว์มีข้อจำกัดด้านปริมาณการผลิตผลงาน
เพราะแม้ว่าจะได้รับการติดต่อขอซื้อผลงานอย่างไม่ขาดสาย
แต่เธอก็ปฏิเสธไปทั้งหมด เพราะต้องการรักษามาตรฐานเอาไว้
เพราะแม้ว่าจะได้รับการติดต่อขอซื้อผลงานอย่างไม่ขาดสาย
แต่เธอก็ปฏิเสธไปทั้งหมด เพราะต้องการรักษามาตรฐานเอาไว้
เรื่องราวของคุณโบว์ เป็นหนึ่งสัญญาณที่ดีของวงการศิลปะในประเทศไทย
ทำให้เห็นว่าปัจจุบัน สังคมไทยเปิดกว้างมากขึ้น
มีหลายคนเริ่มให้คุณค่ากับงานศิลปะแนวใหม่ๆ นอกจากผลงานที่เน้นความเป็นไทยและวัฒนธรรม
ในอนาคตวงการศิลปะไทย ก็น่าจะมีโอกาสเติบโตไปในทางที่ดี เกินกว่าที่หลายคนคาด
ทำให้เห็นว่าปัจจุบัน สังคมไทยเปิดกว้างมากขึ้น
มีหลายคนเริ่มให้คุณค่ากับงานศิลปะแนวใหม่ๆ นอกจากผลงานที่เน้นความเป็นไทยและวัฒนธรรม
ในอนาคตวงการศิลปะไทย ก็น่าจะมีโอกาสเติบโตไปในทางที่ดี เกินกว่าที่หลายคนคาด
Tag:โบว์ ปัณฑิตา