Quaker Oats แบรนด์ข้าวโอ๊ตอายุร้อยปี ที่เคยให้ทุนสร้าง Willy Wonka เพราะครั้งหนึ่งอยากขายช็อกโกแลต /โดย ลงทุนเกิร์ล

“Oompa Loompa doompety-doo”
คงจะเป็นท่อนแรกของเพลงที่ใครหลายคนจดจำได้

จากภาพยนตร์สุดคลาสสิก ที่เล่าเรื่องราวของเด็กชายชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต ซึ่งถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วถึง 3 เวอร์ชัน

แต่มีใครเคยรู้ไหมว่า บริษัทที่เป็นผู้ลงทุนสร้าง Willy Wonka & the Chocolate Factory เวอร์ชันแรก ในปี 1971 กลับเป็นบริษัทที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับวงการภาพยนตร์

เพราะเมื่อย้อนไปดูเครดิตในตอนต้นของเรื่อง จะเห็นชื่อของ “Quaker Oats Company” บริษัทผู้ผลิตข้าวโอ๊ตอายุกว่า 147 ปี มีชื่ออยู่ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์

แล้วบริษัทข้าวโอ๊ต กับภาพยนตร์สุดคลาสสิก มาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เริ่มมาจากช่วงที่กำลังจะสร้างภาพยนตร์เรื่อง Willy Wonka & the Chocolate Factory ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือนิทานเรื่อง Charlie and the Chocolate Factory

ซึ่งโปรดิวเซอร์ของเรื่องนี้อย่างคุณ David Wolper ที่ในขณะนั้นกำลังมีโปรเจกต์ร่วมกับ Quaker Oats Company บริษัทผู้ผลิตข้าวโอ๊ตและซีเรียลแบรนด์ Quaker

รู้มาว่าทางแบรนด์ต้องการแตกไลน์ธุรกิจมาขายช็อกโกแลต จึงนำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปเสนอให้ Quaker เป็นสปอนเซอร์

เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของชาร์ลีในโรงงานช็อกโกแลต หลังได้รับ Golden Ticket จากขนม Wonka Bar

และถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย ทาง Quaker ก็สามารถใช้เป็นช่องทางโปรโมต และวางขายช็อกโกแลตได้ทันที นอกจากนี้ยังได้ส่วนแบ่งกำไรจากการถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์อีกด้วย

ด้วยผลประโยชน์มากมายขนาดนี้ บริษัท Quaker จึงตกลงให้งบประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้เงื่อนไขว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น “Willy Wonka & the Chocolate Factory”

ตามแผนการของบริษัทที่เตรียมวางขายขนมช็อกโกแลตแบรนด์ Willy Wonka ภายใต้ Breaker Confections บริษัทในเครือ Quaker Oats Company

และ Quaker ยังได้เปลี่ยนชื่อบริษัท Breaker Confections เป็น Willy Wonka Candy Company

นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมภาพยนตร์เวอร์ชันปี 1971 ถึงไม่ได้ใช้ชื่อ Charlie and the Chocolate Factory ตามต้นฉบับ

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ช็อกโกแลต Wonka Bar ของ Quaker ต้องถูกเรียกคืนเพราะสูตรผิดพลาด ทำให้ช็อกโกแลตละลายเร็วเกินไป กว่าจะถึงมือลูกค้าก็เละเทะหมดแล้ว

จึงมีเพียง Super Skrunch Bar และ Peanut Butter Oompas ที่เป็นสินค้าต่อยอดจากหนังในช่วงแรก

และไม่กี่ปีหลังจากนั้น Quaker ได้ตัดสินใจขายบริษัทช็อกโกแลตออกไป

ซึ่งแบรนด์ Wonka ก็ถูกเปลี่ยนมือหลายครั้ง ก่อนจะมาอยู่ใต้ความดูแลของ Nestlé ในปี 1988

สำหรับลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่อง Willy Wonka & the Chocolate Factory ที่ต่อมาหมดอายุลงในปี 1977

ทั้ง Paramount Pictures และ Quaker Oats ได้ตัดสินใจขายลิขสิทธิ์ให้กับ Warner Brothers

ซึ่งหมายความว่า Quaker ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ Willy Wonka นับตั้งแต่นั้นมา และปัจจุบันก็ไม่ได้ขายช็อกโกแลตบาร์ตามความตั้งใจเดิม..

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ

แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ข้าวโอ๊ต แต่ Quaker เคยเข้าซื้อทั้งแบรนด์เครื่องดื่มเกลือแร่ Gatorade และ Snapple แบรนด์ชาและน้ำผลไม้

ไปจนถึง Fisher Price ซึ่งเป็นบริษัทของเล่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจข้าวโอ๊ต

แต่สุดท้ายแบรนด์ส่วนใหญ่ก็ถูกขายออกไป ก่อน Quaker Oats เองจะถูก PepsiCo เข้าซื้อไปในปี 2001

อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจเห็นได้ว่า บางครั้งการโฟกัสในสิ่งที่ถนัด อาจเป็นทางเลือกที่มั่นคง แต่การได้ลองอะไรใหม่ ๆ ก็อาจทำให้รู้ได้ว่าอะไรคือจุดแข็งที่แท้จริง..

References:
-https://www.cbc.ca/radio/undertheinfluence/the-real-reason-charlie-became-willy-wonka-1.6711449
-https://www.quakeroats.com/about-quaker-oats/quaker-history
-https://www.mashed.com/320305/the-truth-behind-nestles-real-willy-wonka-candy-company/
-https://www.nytimes.com/2017/07/03/theater/chocolate-aplenty-but-nary-a-wonka-bar-to-be-found.html
-https://www.thedailymeal.com/1621686/quaker-oats-history-products/