
Business
ธุรกิจแอปพลิเคชันหาคู่ ยังทำให้ผู้คนอยากปัดขวาต่อ หรือลบแอปทิ้ง ?
24 ก.ย. 2024
ธุรกิจแอปพลิเคชันหาคู่ ยังทำให้ผู้คนอยากปัดขวาต่อ หรือลบแอปทิ้ง ? /โดย ลงทุนเกิร์ล
งานวิจัยพบว่า “ความเหงา” มีอันตรายเทียบเท่าการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน
Tinder, Hinge และ Bumble จึงมาแรงอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และดันราคาหุ้นของบริษัทสูงเป็นประวัติการณ์
แต่ความเป็นจริงในวันนี้..
ดูเหมือนว่าแอปหาคู่ กำลังเสื่อมมนต์ขลัง
ดูเหมือนว่าแอปหาคู่ กำลังเสื่อมมนต์ขลัง
-บริษัท Match Group (MTCH) เจ้าของ Tinder, Hinge
ปัจจุบันราคาหุ้นลดลงราว 80% จากจุดสูงสุดในปี 2021
ปัจจุบันราคาหุ้นลดลงราว 80% จากจุดสูงสุดในปี 2021
-บริษัท Bumble (BMBL) เจ้าของ Bumble
ปัจจุบันราคาลดลงราว 92% จากจุดสูงสุดในปี 2021
ปัจจุบันราคาลดลงราว 92% จากจุดสูงสุดในปี 2021
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจแอปหาคู่ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในปี 2019 ที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงพีกของการตกหลุมรักการปัดหน้าจอ ในปีนั้นมียอดดาวน์โหลดแอปหาคู่ทั่วโลก 287.4 ล้านครั้ง
ปี 2020 มียอดดาวน์โหลด 287 ล้านครั้งปี 2021 มียอดดาวน์โหลด 260.7 ล้านครั้งปี 2022 มียอดดาวน์โหลด 256.2 ล้านครั้งปี 2023 มียอดดาวน์โหลด 237.1 ล้านครั้ง
แถมไตรมาสล่าสุด ยังมีรายงานว่า Tinder แอปหาคู่ที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในโลก ก็มีจำนวนผู้ใช้งานแบบเสียเงิน ลดลงติดต่อกันถึง 7 ไตรมาส
แล้วทำไมคนโสดถึงถอดใจจากแอปหาคู่มากขึ้นเรื่อย ๆ ?
คนโสดรู้สึกหมดไฟจากแอปหาคู่
Forbes Health พบว่าผู้คนจำนวนมากเกิด “Dating App Burnout” หรือภาวะที่ผู้คนรู้สึกเบื่อหน่าย หมดไฟจากการใช้แอปหาคู่ สาเหตุหลักเกิดจากการที่ผู้ใช้งานไม่สามารถหาคนที่เข้ากันได้ดีกับตัวเอง
ตามมาด้วยอีกหลายปัจจัย เช่น
ความรู้สึกผิดหวัง เมื่อพบว่าตัวจริงไม่ตรงปกการถูกปฏิเสธบ่อยครั้ง ทำให้รู้สึกท้อแท้ เสียความมั่นใจการปัดซ้ายปัดขวา หรือบทสนทนาซ้ำ ๆ กับหลาย ๆ คน โดยไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์ ทำให้รู้สึกเสียเวลาเปล่า
และหลายคนก็ยังมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในการใช้งาน เช่น
Ghosting ความสัมพันธ์แบบอยู่ดี ๆ ก็หายไลน์ไม่ตอบCatfishing การแอบอ้างว่าเป็นคนอื่นมาคุยLove Bombing การทุ่มเทความรักอย่างหนักหน่วงให้กับอีกฝ่าย ในช่วงแรกที่รู้จักกัน เพื่อบงการความสัมพันธ์
แคมเปญโฆษณาที่ไม่ประสบความสำเร็จ
ยกตัวอย่าง Bumble แอปหาคู่ที่ถูกกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง จนบริษัทต้องออกมาขอโทษ
หลังออกแคมเปญโฆษณา นำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่สาบานตนว่าจะเลิกเดต และบวชเป็นแม่ชี แต่สุดท้ายไปหลงรักหนุ่มคนสวนในโบสถ์แทน
ซึ่งในโฆษณามีสโลแกนว่า “คุณต้องไม่ละทิ้งการออกเดตแล้วบวชเป็นแม่ชี” และ “คุณรู้ดีว่าการถือพรหมจรรย์ไม่ใช่คำตอบ”
แม้ Bumble จะมีจุดประสงค์สื่อเนื้อหาแคมเปญแบบติดตลก แต่ผู้คนมองว่าโฆษณาชิ้นนี้เป็นการล้อเลียนความเป็นโสด, แม่ชี และการถือพรหมจรรย์
รวมถึง Hinge แอปหาคู่ที่มีแคมเปญว่า “ออกแบบมาเพื่อให้ลบทิ้ง” สื่อถึงจุดมุ่งหมายของการหาคู่ที่ประสบความสำเร็จ จนแอปหาคู่ไม่จำเป็นอีกต่อไป
ซึ่ง Hinge ได้ตอกย้ำแคมเปญนี้มาหลายปี จนเริ่มไม่ได้ผลกับผู้ที่ใช้งานมานาน แถมบางคนยังบอกว่าที่ลบแอปทิ้ง ไม่ใช่เพราะพวกเขาพบรัก แต่เพราะแอปนี้ไม่ได้ผลสำหรับพวกเขาต่างหาก
ค่านิยมที่เปลี่ยนไปของ Gen Z
ในปี 2023 ผู้ใช้งานแอปหาคู่ในสหรัฐฯ มีเพียง 26% เท่านั้นที่มีอายุระหว่าง 18-29 ปี หรือที่เป็นคนรุ่น Gen Z
ขณะที่ผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-49 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นมิลเลนเนียล คิดเป็น 61% ของฐานผู้ใช้งาน
หรือพูดง่าย ๆ ว่าแอปหาคู่ไม่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่เท่าเมื่อก่อนแล้ว เพราะคนรุ่นใหม่มองว่าแอปหาคู่มุ่งเน้นแต่การสร้างรายได้จากบริการสมาชิกพรีเมียม
ทำให้ละเลยประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้จริง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง คนผิวสี คนอ้วน และผู้พิการ ที่มักจะถูกคุกคามบนแอป จนตัดสินใจลบแอปทิ้งตั้งแต่เดือนแรก
นอกจากนี้ แอปหาคู่ Hinge ยังรายงานว่า คนรุ่น Gen Z อย่างน้อย 95% ที่ใช้งาน Hinge กลัวการถูกปฏิเสธ และมีความเขินอายเป็นข้อกังวลอันดับต้น ๆ ของพวกเขา
แต่ในทางกลับกัน คนรุ่น Gen Z พยายามสร้างความสัมพันธ์จากการพบปะกันจริง ๆ พูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกัน มากกว่าการเริ่มต้นความสัมพันธ์ผ่านแอปหาคู่
โดยคนรุ่น Gen Z หันไปหาคู่เดตจากการแนะนำผ่านเพื่อน, กลุ่มกิจกรรม หรือโซเชียลมีเดียอื่น ๆ แทน
อย่างไรก็ตาม บริษัทแอปหาคู่ก็ไม่ได้นิ่งเฉย และเริ่มปรับกลยุทธ์เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานมากขึ้น
เช่น ปีที่ผ่านมา Tinder มุ่งเป้าที่กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย ในสหรัฐฯ จึงเสนอแผนสมาชิกระยะสั้น เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานที่ไม่รีบร้อนจะผูกมัดด้านความสัมพันธ์
หรือจะเป็นการนำเครื่องมือ AI เข้ามาช่วย โดยกำลังสร้างแช็ตบอตที่ช่วยในการสร้างบทสนทนา สร้างโปรไฟล์ ไปจนถึงให้คำแนะนำในการจีบกัน
ซึ่งทั้งหมดก็เป็นความท้าทายของธุรกิจแอปหาคู่ในวันนี้
จึงเป็นที่น่าติดตามว่า แอปพลิเคชันหาคู่เหล่านี้จะสามารถทำให้ผู้คนกลับมาตกหลุมรักการปัดจอได้อีกหรือไม่
หรือผู้ใช้งานจะหมดรัก จนลบแอปทิ้งไปอย่างถาวรกันแน่..
References:
-https://www.wsj.com/articles/dating-apps-once-ran-on-novelty-for-some-users-the-fun-is-over-4c673b4e
-https://edition.cnn.com/2024/02/14/business/dating-apps-2024-hinge-tinder-dg/index.html
-https://www.businessofapps.com/data/dating-app-market/
-https://time.com/6836033/gen-z-ditching-dating-apps/
-https://www.forbes.com/health/dating/dating-app-fatigue/
-https://www.cbsnews.com/news/whitney-herd-bumble-ceo-dating-apps/
-https://www.wsj.com/articles/dating-apps-once-ran-on-novelty-for-some-users-the-fun-is-over-4c673b4e
-https://edition.cnn.com/2024/02/14/business/dating-apps-2024-hinge-tinder-dg/index.html
-https://www.businessofapps.com/data/dating-app-market/
-https://time.com/6836033/gen-z-ditching-dating-apps/
-https://www.forbes.com/health/dating/dating-app-fatigue/
-https://www.cbsnews.com/news/whitney-herd-bumble-ceo-dating-apps/
Tag:ธุรกิจแอปหาคู่