
Business
“ข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร” ร้านข้าวต้มไฮโซ ในเครือสุพรรณิการ์กรุ๊ป
17 ต.ค. 2024
“ข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร” ร้านข้าวต้มไฮโซ ในเครือสุพรรณิการ์กรุ๊ป /โดย ลงทุนเกิร์ล
ข้าวต้มกุ๊ย คือ อาหารที่คนไทยคุ้นเคย และเป็น Comfort Food ของหลาย ๆ ครอบครัว
เพราะข้าวต้มกุ๊ยไม่ได้มีดีแค่รสชาติที่อร่อย แต่ยังมีเมนูให้เลือกหลากหลาย แถมราคายังสบายกระเป๋า เหมาะกับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้าที่เร่งรีบ หรือมื้อดึกที่หิวโซ
ซึ่งปัจจุบัน มีร้านข้าวต้มกุ๊ยโมเดลใหม่ ที่นำเมนูข้าวต้มกุ๊ยธรรมดา ๆ มายกระดับ จนสามารถขายแพงกว่าราคาปกติหลายเท่า
และหนึ่งในนั้นคือ “ร้านข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร” ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในตอนนี้
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร คือแบรนด์ร้านข้าวต้มกุ๊ยสไตล์ไทย-จีน ที่อยู่ในเครือสุพรรณิการ์กรุ๊ป
เจ้าของร้านอาหารชื่อดังดีกรีมิชลิน อย่าง
ส้มตำเด้อ ร้านอาหารอีสานสมัยใหม่ ที่คงความเป็นอีสานแท้ ๆ เอาไว้ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ ร้านอาหารไทยดั้งเดิม ต้นตำรับจากจังหวัดตราดและจังหวัดขอนแก่น
และข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร เป็นแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดในเครือ ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2021 ภายใต้คอนเซปต์ ข้าวต้มกุ๊ยรสชาติจัดจ้าน สไตล์ข้าวต้มกุ๊ยริมทาง ผสานเมนูสร้างสรรค์และวัตถุดิบคุณภาพ
ต้องบอกว่า ร้านข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร ได้รับฉายาบนโลกออนไลน์ว่าเป็น “ร้านข้าวต้มไฮโซ” เนื่องจากเมนูอาหารในร้านมีราคาสูงกว่าร้านข้าวต้มทั่ว ๆ ไป
ซึ่งที่มาของฉายานี้ ก็มาจากการยกระดับเมนูข้าวต้มธรรมดาให้หรู ดูแพง โดยการรังสรรค์เมนูเดิม ๆ ด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียม เช่น
เมนูเนื้อทอดเผิงโหย่ว เนื้อทอดสไตล์ฮ่องกง ราดน้ำซอสสูตรลับของทางร้านเมนูหมูสับต้มอุเมะ หรือเมนูเกี่ยมบ๊วยที่ใช้บ๊วยดองญี่ปุ่นรสเปรี้ยวอมหวาน แทนบ๊วยจีนเมนูกุ้งอูรักลาโว้ยแช่น้ำปลา ที่ใช้กุ้งแชบ๊วยจากแหล่งทะเลถิ่นลันตาแบบสด ๆ
อีกทั้งยังมีเมนูลิ้นวัววากิวย่าง, ซี่โครงเนื้อวากิวคาลบิ หรือจะเป็นเมนูของหวาน อย่าง เฉาก๊วยกรานิตา ที่หาไม่ได้ตามร้านข้าวต้มกุ๊ยทั่วไป
พูดง่าย ๆ ก็คือ การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง และการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ คือเหตุผลที่ทำให้ร้านข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตรสามารถขายราคาสูงได้ ส่งผลให้ราคาต่อโต๊ะอยู่ที่ราว ๆ หลักพันบาท
นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้ง และบรรยากาศภายในร้านข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร ยังเป็นจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างจากร้านข้าวต้มกุ๊ยทั่ว ๆ ไป
เพราะแต่ละชั้นจะถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Mid-Century ที่มีสีสันที่จัดจ้านไม่ซ้ำใคร และการเลือกวัสดุที่หลากหลายนี้เอง ที่ทำให้บรรยากาศในแต่ละชั้นแตกต่างกัน
แถมบางวันยังมี Live DJ มาเปิดเพลงเคล้าบรรยากาศ และมีบาร์ค็อกเทลที่เสิร์ฟเครื่องดื่มหลากประเภทอีกด้วย
เรียกได้ว่า บรรยากาศในร้านข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร ให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในร้านอาหารดี ๆ หนึ่งร้านนั่นเอง
ปัจจุบัน ร้านข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร มีสาขา 2 แห่งในกรุงเทพฯ คือ สาขาสาทร และสาขาเอกมัย
ซึ่งทั้ง 2 สาขา นับว่าเป็นแหล่งเศรษฐกิจ ที่แม้ค่าเช่าที่จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็แลกมากับการเป็นจุดศูนย์รวม ของคนที่มีกำลังซื้อจำนวนมากด้วยเช่นกัน
ต้องบอกว่า ตอนนี้คอนเซปต์ของร้านข้าวต้มกุ๊ยไฮโซ กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีตัวเลือกค่อนข้างหลากหลาย เช่น ร้านโรงสีโภชนา, ร้าน Lon Lon Local Diner และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ร้านอาหารที่มีคอนเซปต์การยกระดับอาหารไทย ก็เริ่มผุดขึ้นใหม่เรื่อย ๆ ทำให้เรามักจะเห็นอาหารไทยบ้าน ๆ ในรูปแบบพรีเมียมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
Toh-Kim (โต๊ะคิม) ร้านข้าวมันไก่สูตรต้นตำรับไหหนาน จากเครือ iberry GroupZaozen (ซาวเส้น) ร้านอาหารอีสานที่นำเมนูเส้นมาสร้างสรรค์ใหม่ และเลือกได้ว่าจะนำเอาเส้นข้าวปุ้นมาทำอาหารประเภทไหน เช่น ผัด, ตำ หรือทานกับน้ำยาPhedPhed (เผ็ดเผ็ด) ร้านอาหารอีสานและเมนูหาทานยาก กว่า 1,000 เมนู ที่ทำจากวัตถุดิบคุณภาพสูง
แม้ว่าธุรกิจที่ยกระดับอาหารไทย จะดูเหมือนง่าย แต่จริง ๆ แล้ว ถือเป็นธุรกิจ “ปราบเซียน” อยู่ไม่น้อย
เพราะหากร้านเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพธรรมดา ๆ เลือกทำเลของร้านไม่เหมาะสม และมีกลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจน ธุรกิจอาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูง และไม่สามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้
นอกจากนี้ การกำหนดราคาที่สูงเกินไปโดยไม่มีเหตุผลรองรับ อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่คุ้มค่าและหันไปเลือกทานร้านอื่นแทน..