เหนื่อยกับการทาครีมแล้ว ขอมาสก์หน้าทุกวันได้หรือไม่ /โดย ลงทุนเกิร์ล

ใน 1 วัน เรามีอยู่ 24 ชั่วโมง อยู่ที่ออฟฟิศไปแล้ว 9 ชั่วโมง 
ถ้าบ้านไกลหน่อย อาจใช้เวลาเดินทางอย่างน้อยๆ 3 ชั่วโมง 
และหมดไปกับการนอนหลับอีก 7-8 ชั่วโมง
แปลว่าเราเหลือเวลาอีกเพียงประมาณ 4 ชั่วโมง สำหรับการทำกิจกรรมอื่น

พอเรื่องเป็นแบบนี้ ในหลายๆ ครั้งเราจึงละเลยเวลาที่จะให้เวลากับตัวเอง
อย่างการไม่ยอมไปออกกำลังกาย หรือแม้แต่การบำรุงผิว

โดยเฉพาะผู้หญิงเรา ลองจินตนาการว่า เราต้องทาครีมบำรุงผิวหน้าแบบครบขั้นตอน 
ตามจำนวนครีมที่เรียงเป็นแถวเวลาเราเดินไปซื้อตามเคาน์เตอร์
ตั้งแต่ Toner ไปจนถึง Sleeping Mask รวมๆ แล้วก็อาจมีเกือบ 10 ขั้นตอน

ที่สำคัญในการทาครีมแต่ละขั้น เรายังต้องบรรจงทา นวด ตบเบาๆ ตามแต่ละสูตรของครีมแต่ละตัว และยังต้องรอให้ครีมซึมเข้าผิวก่อน จึงจะสามารถทาครีมชั้นต่อไปได้

สมมติว่า แต่ละขั้นตอนจะใช้เวลาประมาณ 2 นาที
ดังนั้นการทาครีมบำรุงให้ครบขั้นตอน ก็อาจกินเวลาไปเกือบ 20 นาทีแล้ว

ด้วยความยุ่งยากนี้ คงทำให้ผู้หญิงหลายคนเบื่อหน่าย และละเลยการดูแลผิวหน้าไป

อย่างไรก็ตาม จากความเร่งรีบในยุคนี้ จึงเกิดทางเลือกใหม่ที่มาตอบโจทย์
ซึ่งก็คือ “การใช้แผ่นมาสก์หน้า” นั่นเอง
เพราะเพียงแค่แปะแผ่นลงบนหน้า ก็สามารถไปทำอย่างอื่นต่อได้แล้ว
เมื่อครบเวลา 15 นาที ก็ดึงแผ่นมาสก์ออก เป็นอันเสร็จ

คำถามที่ตามมาก็คือ สะดวกแบบนี้
เราสามารถมาสก์หน้าทุกวันแทนการทาครีมเลยได้หรือไม่?

คำตอบคือ เราสามารถมาสก์หน้าทุกวันได้ หากเป็นมาสก์ที่ไม่มีสารที่ผลัดเซลล์ผิว

เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผิวคือ ความชุ่มชื้น 
ผิวที่ขาดความชุ่มชื้น อาจส่งผลให้ผิวแห้ง หรือบางครั้งก็อาจทำให้เกิดความมันส่วนเกิน

ดังนั้นถ้าเราต้องการที่จะมาสก์หน้าทุกวัน 
ก็ควรเลือกมาสก์ที่เน้นไปที่การให้ความชุ่มชื้นเท่านั้น

เนื่องจากถ้าเลือกใช้สูตรที่มีคุณสมบัติการผลัดเซลล์ผิวทุกวัน 
เช่น สูตรกระจ่างใส, สูตร Anti - Aging, หรือสูตรที่มีสารจำพวก ไกลโคลิก AHA และ BHA 
จะทำให้ผิวหน้าของเราผลัดเซลล์ผิวมากเกินไป 
สุดท้ายผิวหน้าเราจะบาง และอาจก่อให้เกิดผิวที่แพ้ง่ายตามมา

นอกจากนี้ถึงแม้การมาสก์หน้าจะสามารถทำได้ทุกวัน สำหรับสูตรที่ให้ความชุ่มชื้น
แต่ในกรณีของคนที่มีผิวหน้าเป็นสิวอักเสบ สิวหนอง หรือสิวที่เห่อขึ้นเยอะมากๆ
อาจจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการมาสก์หน้าทุกวัน

เพราะมาสก์หน้า 1 ครั้ง เทียบเท่ากับ การใช้สารบำรุงหน้าที่เข้มข้นกว่าครีม
ดังนั้นสำหรับคนที่ผิวหน้าไม่แข็งแรงเป็นสิวง่าย ถ้าเจอกับสารบำรุงที่เข้มข้นเกินไป
ก็อาจทำให้สิวเกิดการระคายเคืองมากขึ้น และเลวร้ายถึงขั้นอุดตันมากขึ้น

ทางที่ดีควรรักษาผิวหน้าให้แข็งแรงก่อน จึงเริ่มใช้การมาสก์หน้าบำรุง

นอกจากนั้น สิ่งที่สำคัญอย่างมาก เวลาจะใช้มาสก์
ก็คือ การมาสก์หน้าตามเวลาที่ข้างซองระบุมา 
อย่าคิดว่า มาสก์ทั้งทีก็มาสก์ให้คุ้ม หรือแปะทิ้งไว้จนลืมเวลา

เพราะแผ่นมาสก์หน้าที่อยู่ในซองมีหน้าที่กักเก็บสารบำรุงต่างๆ
ดังนั้นเวลาที่สารเหล่านี้ซึมเข้าผิวไปจนหมด เหลือแค่แผ่นมาสก์
แผ่นมาสก์ที่เหลืออยู่ จะดูดความชุ่มชื้นจากหน้าของเราออกไปแทน

ซึ่งถ้าใครรู้สึกเสียดายว่าครบกำหนดเวลาแล้ว ยังรู้สึกว่าแผ่นมาสก์ยังคงชุ่มฉ่ำอยู่ 
ลงทุนเกิร์ลขอแนะนำว่า ให้นำแผ่นมาสก์ที่ใช้แล้วไปใช้กับส่วนอื่นแทน เช่น คอหรือลำตัวส่วนอื่น

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่คิดจะมาสก์หน้าทุกวันแทนการทาครีม
อีกหนึ่งปัจจัยที่จะลืมไม่ได้เลย ก็คือ “ราคา” ของแผ่นมาสก์

เพราะมาสก์ที่ให้การบำรุงมากๆ ก็มักจะมาพร้อมราคาที่ค่อนข้างสูง
เช่น หากเราใช้แผ่นมาสก์แผ่นละ 50 บาททุกวัน 1 เดือน ก็คิดเป็นเงิน 1,500 บาท 
เทียบราคาแล้วอาจพอๆ กับราคาครีม 1 กระปุก ซึ่งสามารถใช้ได้นานกว่า 1 เดือน

อ่านแล้วก็ลองชั่งน้ำหนักกันดูนะคะ เราเหมาะกับวิธีไหนมากที่สุด
เพราะไม่ว่าจะเลือกทาครีม หรือเลือกมาสก์หน้า
สิ่งที่จะละเลยไม่ได้ ก็คือการให้เวลากับการดูแลตัวเองในทุกวัน

References:
-https://thebeautrium.com/blog/2019-08-22-skincare-101-ep-1
-https://sudsapda.com/beauty/114590.html
-https://th.priceprice.com/…/Glycolic-Acid-vs-Salicylic-Aci…/
-Youtube NUGIRL Dek-D