เป้าหมายของการทำงานหนัก ก็คงเป็นความหวังที่เราจะมี “เงินก้อน”
แต่รู้หรือไม่ จากรายงานการสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย
25% ของคนสูงอายุไม่มีเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณ
และ 35% ของผู้มีเงินออม ก็มีเงินออมไม่ถึง 200,000 บาท

ด้วยสถิตินี้ ก็น่าจะทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของ “การออม”
แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ เราจะออมเงินด้วยวิธีไหนดี

วิธีแรกที่คนส่วนใหญ่นึกถึง คงเป็น “เงินฝากธนาคาร”
แต่อย่างที่เราเห็น อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ หรือแม้แต่ฝากประจำก็ตาม ส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างต่ำ ไม่ถึง 1%
และอัตราดอกเบี้ยก็มีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นการลงทุนในตลาดทุน
แม้ว่าจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
แต่ในอีกด้านก็มีความเสี่ยงที่เงินต้นจะหายไปด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ก็คือ ช่วงที่โควิด 19 ระบาด
ทำให้เห็นถึงความผันผวนของตลาดทุนได้เป็นอย่างดี
ซึ่งอาจส่งผลให้ผลตอบแทนที่สะสมมานานจากการลงทุน หายไปในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน

หรือแม้แต่คนที่เน้นผลตอบแทนด้วยการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผล ที่คาดว่าจะได้ปันผลแน่นอน
ด้วยสถานการณ์แบบนี้ บริษัทก็อาจเลือกที่จะไม่จ่ายปันผลเหมือนปกติเช่นกัน

สำหรับคนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง
อยากสร้างวินัยด้านการเงิน แบบที่มั่นใจว่าจะได้ผลตอบแทนชัวร์ ๆ

“ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์” ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ คือ ประกันที่ออกแบบมา
เพื่อให้ผู้ถือกรมธรรม์ได้ออมเงินไปด้วย พร้อมกับได้ความคุ้มครองชีวิตด้วย

โดยประกันจะจ่ายเงินคืนตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ในสัญญา
มีทั้งแบบเป็นรายงวด และแบบเป็นก้อนใหญ่ทีเดียวเมื่อครบสัญญา

พูดง่าย ๆ ก็เหมือนการการันตีผลตอบแทนตามที่กรมธรรม์ประกันชีวิตระบุไว้ แม้ว่าในช่วงนั้นเศรษฐกิจมีความผันผวนมากก็ตาม ซึ่งจากสภาพเศรษฐกิจทุกวันนี้ จะหาประกันชีวิตแบบนี้ได้ค่อนข้างยากแล้ว

ในอีกด้านหนึ่ง การที่เราต้องจ่ายเบี้ยประกันเป็นรายเดือนหรือรายปี
ก็เป็นการสร้างวินัยการเก็บเงินให้ผู้ซื้อทางอ้อม

ที่สำคัญคือเมื่อครบกำหนดสัญญา เราก็จะมีเงินก้อนตามฝัน

แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน ผู้ถือกรมธรรม์เสียชีวิตระหว่างสัญญา
ก็จะได้รับ “เงินจากความคุ้มครองชีวิตตามทุนประกันที่ซื้อ” ซึ่งถือเป็นการสร้างหลักประกันให้กับคนข้างหลังอีกด้วย

นอกจากนั้น ถ้าเป็นประกันสะสมทรัพย์ที่มีระยะเวลาการคุ้มครองชีวิต 10 ปีขึ้นไป
เรายังสามารถนำเงินออมที่เก็บในรูปแบบของ “ค่าเบี้ยประกัน”
มาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาทอีกด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าใครเริ่มสนใจที่จะมองหาประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
ตอนนี้ทางทีเอ็มบี ก็มี “ประกันชีวิต คุ้มค่า 15/8”

ประกันชีวิต คุ้มค่า 15/8 คือ ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองชีวิต
พร้อมเงินสะสมก้อนโต เมื่อครบกำหนด 15 ปี โดยที่เราจ่ายเบี้ยประกันแค่ 8 ปี
ซึ่งค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไป ก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด

ในด้านผลตอบแทน ยกตัวอย่าง น.ส.เกิร์ล อายุ 41 ปี ซื้อประกันชีวิต คุ้มค่า 15/8 ด้วยทุนประกัน 200,000 บาท จะมีการจ่ายเงินคืน 10,000 บาท ทุกปี ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ปีที่ 3 - ปีที่ 14 รวม 12 ครั้ง และเมื่อครบกำหนดสัญญาปีที่ 15 รับเงินคืนอีก 380,000 บาท

ส่วนการคุ้มครองชีวิตกรณีเสียชีวิต จะเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันได
สูงสุดถึง 220% ของทุนประกัน สำหรับ น.ส.เกิร์ล จะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 440,000 บาท

เรียกได้ว่า ประกันชีวิต คุ้มค่า 15/8
จะมาตอบโจทย์คุณทุกด้าน ทั้งด้านผลตอบแทนที่มีความแน่นอน
เหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนอนาคต
และด้านความคุ้มครองชีวิต เพื่อเป็นหลักประกันอนาคตให้กับตนเองและคนที่เรารักด้วย

สำหรับคนที่สนใจ ทีเอ็มบี ก็เพิ่มความคุ้มให้อีกเด้ง
เมื่อซื้อประกันชีวิต คุ้มค่า 15/8 ภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้
และชำระเบี้ยประกันตั้งแต่ 300,000 บาทขึ้นไป รับเงินคืนสูงสุด 3% ของเบี้ยประกันปีแรก
หรือถ้าชำระค่าเบี้ยประกันตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป
รับไปเลย iPhone 12 ความจุ 256GB มูลค่า 35,900 บาท จำนวน 1 เครื่อง

ใครที่สนใจแค่เพียงยื่นบัตรประชาชนที่ ทีเอ็มบี ทุกสาขา หรือโทร 1558

รายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม tmbbank.com/fb/15-8_longtungirl

Reference
- รายงานการสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2560, สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเป็นของบริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต และรับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น / ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง