นักท่องเที่ยวจีน เลือกกระโดดร่ม เที่ยวซาฟารี กินสตรีตฟูด มากกว่าช็อปปิง
Economy

นักท่องเที่ยวจีน เลือกกระโดดร่ม เที่ยวซาฟารี กินสตรีตฟูด มากกว่าช็อปปิง

9 พ.ค. 2025
นักท่องเที่ยวจีน เลือกกระโดดร่ม เที่ยวซาฟารี กินสตรีตฟูด มากกว่าช็อปปิง /โดย ลงทุนเกิร์ล
ในอดีต การที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์ มีไกด์นำทางตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ในเกียวโต, เวนิส, ปารีส
รวมทั้งการซื้อของที่ระลึกจากหอไอเฟล หรือช็อปปิงกระเป๋าแบรนด์หรู คือภาพที่คนทั่วโลกเห็นจนชินตา
แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากกำลังเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยว ที่เน้นการผจญภัยและประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร เช่น ไปส่องสัตว์ในแทนซาเนีย, ว่ายน้ำท่ามกลางแผ่นน้ำแข็งในญี่ปุ่น, ชิมอาหารริมทางในอินเดีย, ล่ากระต่ายและตกปลาน้ำลึกที่นิวซีแลนด์
ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ จากการสำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวจีนถึงเหตุผลที่พวกเขาไปเที่ยวต่างประเทศ
ตัวเลือกอันดับต้น ๆ คือการพักผ่อน ดื่มด่ำวัฒนธรรม ประสบการณ์อาหาร และการผจญภัยทางธรรมชาติ นำการช็อปปิง และประสบการณ์หรูหรา อย่างขาดลอย
เรื่องนี้ส่งผลกระทบอะไรบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แน่นอนว่า ความต้องการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะในชาวจีนเท่านั้น แต่จีนคือประเทศที่มีตลาดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยในปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวชาวจีนใช้จ่ายถึง 7.31 ล้านล้านบาท สำหรับการเดินทาง 146 ล้านครั้งไปต่างประเทศ และในปีนี้คาดว่าจำนวนการเดินทางจะสูงกว่าปี 2019 หรือก่อนที่โควิด-19 ระบาด
พฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงของชาวจีนนี้ จึงส่งผลกระทบในวงกว้างต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และทำให้บริษัทต่าง ๆ เริ่มปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ เช่น
โรงแรม Hilton ที่เพิ่มพนักงานที่สามารถพูดภาษาจีน และอาหารเช้าที่มีเมนูแบบจีน เช่น โจ๊กและบะหมี่ รวมถึงรองรับการชำระเงินผ่านระบบ UnionPay ของจีนบริษัทด้านการท่องเที่ยว Klook ก็ได้เพิ่มกิจกรรมที่เน้นการเดินทางแบบผจญภัย เช่น การตั้งแคมป์ในทะเลทรายในดูไบ การฝึกซามูไรในโตเกียว หรือการทำโคมไฟโมเสกกับช่างฝีมือในไทเป
นอกจากนี้ Fliggy เว็บไซต์จองโรงแรมรายใหญ่ของจีน ยังรายงานถึงการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่ออกเดินทางด้วยตัวเอง โดยพบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนมีการเช่ารถยนต์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าในปีที่แล้ว
ขณะที่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น เวียดนาม ไอซ์แลนด์ และนิวซีแลนด์ เริ่มเห็นว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนเลือกการเดินทางแบบส่วนตัวหรือกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ผ่อนคลายและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และไม่ต้องการให้การท่องเที่ยวของพวกเขาถูกจำกัดด้วยโปรแกรมทัวร์ที่ตายตัว
มาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า
ในวันที่นักท่องเที่ยวชาวจีนหันมาให้ความสำคัญกับ
“ประสบการณ์” มากกว่า “สิ่งของ”
ธุรกิจการท่องเที่ยวจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการใหม่ ๆ
ธุรกิจไหนที่ยังขายแพ็กเกจเที่ยวเดิม ๆ ก็อาจตกขบวนความเปลี่ยนแปลง..
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.