Hedy Lamarr ดาราฮอลลีวูด ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีพื้นฐาน WiFi ของที่โลกขาดไม่ได้แล้ว
Business

Hedy Lamarr ดาราฮอลลีวูด ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีพื้นฐาน WiFi ของที่โลกขาดไม่ได้แล้ว

20 พ.ค. 2025
Hedy Lamarr ดาราฮอลลีวูด ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีพื้นฐาน WiFi ของที่โลกขาดไม่ได้แล้ว /โดย ลงทุนเกิร์ล
ใบปัดน้ำฝนรถยนต์, เครื่องล้างจาน, น้ำยาลบคำผิด, หรือฟิลเตอร์กรองกาแฟ
หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า สิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มาจากไอเดียของผู้หญิงเก่งมากมายในอดีต
เช่นเดียวกันกับคุณ “Hedy Lamarr” ผู้คิดค้นระบบการรับ-ส่งวิทยุขั้นสูง ที่ต่อมาถูกนำมาใช้ต่อยอดใน WiFi และ Bluetooth
แม้ว่าเธอจะเป็นหญิงสาวที่ได้รับการยกย่องว่า มีใบหน้าสวยที่สุดคนหนึ่งในช่วงยุคทองของฮอลลีวูด
แต่สังคมในอดีตกลับละเลยที่จะพูดถึงเธอในฐานะ หญิงสาวนักประดิษฐ์ผู้มากความสามารถ
เรื่องราวของคุณ Lamarr ในมุมนักประดิษฐ์จะน่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณ Lamarr มีชื่อเดิมว่า Hedwig Eva Maria Kiesler
เธอเกิดในปีเดียวกับที่โลกเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือปี ค.ศ. 1914 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
เติบโตมาในครอบครัวชาวยิวที่มีฐานะ และมีคุณพ่อที่มักปลูกฝังความรู้ คอยชักชวนพูดคุยเรื่อง กลไกการทำงานภายในของเครื่องจักรต่าง ๆ
จนกระทั่งคุณ Lamarr อายุ 5 ขวบ ความสนใจเรื่องระบบเครื่องจักร ได้พัฒนากลายเป็นงานอดิเรก เธอใช้เวลาไปกับการถอดชิ้นส่วนกล่องดนตรี และประกอบใหม่ เพื่อทำความเข้าใจระบบการทำงานภายใน
เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ด้วยหน้าตาที่สวยโดดเด่น จึงเป็นใบเบิกทางให้เธอได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์ โดยมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกขณะมีอายุ 17 ปี
คุณ Lamarr โลดแล่นอยู่ในวงการภาพยนตร์เยอรมัน และเชโกสโลวาเกียได้ระยะหนึ่ง และจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานออกจากบ้านเกิด เพราะต้องการหนีจากสามีคนแรกซึ่งเป็นพ่อค้าอาวุธ ผู้มีอิทธิพลในออสเตรีย
เธอออกเดินทางไปทั้งปารีส และลอนดอน แต่จังหวะชีวิตก็ทำให้เธอได้พบกับโปรดิวเซอร์จากฝั่งฮอลลีวูด ที่ช่วยให้เธอได้เซ็นสัญญากับสตูดิโอ MGM และเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า Hedy Lamarr
ช่วงชีวิตหลังจากนี้เองที่เธอเริ่มมีบทบาทอย่างมากในวงการฮอลลีวูด จนได้รับฉายาว่าเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดในวงการภาพยนตร์
อย่างไรก็ตามด้วยลักษณะนิสัยของคุ​ณ Lamarr ที่มีตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอยังคงนำงานอดิเรกอย่าง การซ่อมแซม และแยกชิ้นส่วนสิ่งของต่าง ๆ มาสร้างเป็นงานประดิษฐ์ในกองถ่ายภาพยนตร์อยู่เสมอ
อีกทั้งเธอยังเริ่มคบหากับชายที่เป็นทั้งนักประดิษฐ์ นักบิน และนักธุรกิจชื่อดังอย่างคุณ Howard Hughes
ทำให้คุณ Lamarr ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในนั้นคือการเสนอไอเดียเพื่อพัฒนาเครื่องบินที่บินได้เร็วขึ้นกว่าเดิมให้คุณ Hughes ด้วยการออกแบบปีกเครื่องบินที่มีรูปร่างผสมผสานครีบของปลา และปีกของนกที่เร็วที่สุด
ปรากฏว่าไอเดียของเธอประสบความสำเร็จอย่างมาก จนต่อมาได้ขายให้กับกองทัพสหรัฐฯ
แต่ความคิดสร้างสรรค์ของเธอก็ไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะเมื่อโลกเข้าสู่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณ Lamarr ตั้งใจที่จะนำเสนอสิ่งประดิษฐ์เพื่อการสงครามขึ้นมาให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อสู้กับเยอรมนีในขณะนั้น
เธอจึงร่วมกับคุณ George Antheil นักประพันธ์เพลงชื่อดัง และเริ่มคิดค้นระบบ “Frequency Hopping” หรือ การรับ-ส่งวิทยุขั้นสูง
โดยการทำงานของระบบคือ การสื่อสารด้วยคลื่นวิทยุที่ช่วยควบคุมตอร์ปิโดของฝ่ายสัมพันธมิตร ให้สามารถโจมตีเป้าหมายได้ โดยไม่ถูกถอดรหัส หรือถูกสัญญาณรบกวนจนพลาดเป้า
แม้กองทัพเรือสหรัฐฯ จะปฏิเสธไอเดียของเธอในช่วงแรก แต่ภายหลังคอนเซปต์ของ Frequency Hopping ถูกนำมาใช้จริงกับภารกิจทางทหารของสหรัฐฯ และกลายเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีบทบาทอย่างมากในช่วงสงคราม
หลังคิดระบบ Frequency Hopping ขึ้นมาได้ คุณ Lamarr และคุณ Antheil ตัดสินใจจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์นี้ในปี ค.ศ. 1942 แต่จำเป็นต้องถูกเก็บเป็นความลับ เพราะเหตุผลด้านความมั่นคงระดับชาติ ลากยาวจนถึงปี ค.ศ. 1981
ระหว่างที่ไอเดียของทั้งคู่ยังไม่ถูกเปิดเผย ผู้พัฒนาเทคนิคการกระจายสัญญาณประเภทอื่น ๆ อย่าง Direct-Sequence Spread Spectrum หรือการกระจายสเปกตรัมแบบลำดับโดยตรง กลับได้รับการยอมรับเพื่อมาใช้ในระบบ WiFi มากกว่าเทคนิคที่คุณ Lamarr ร่วมคิดค้น
อย่างไรก็ตาม Frequency Hopping ยังคงถูกยอมรับว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลอย่างมากกับระบบการสื่อสารไร้สายที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบันทั้ง WiFi, Bluetooth และ GPS
แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายเพราะขณะที่คุณ Lamarr ยังมีชีวิต ผลงานของเธอไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง และเธอเองก็ไม่ได้รับเงินรางวัลจากสิ่งที่เธอร่วมคิดค้นมาด้วยเช่นกัน
และกว่าการคิดค้นของเธอจะเริ่มเป็นที่พูดถึงก็ล่วงเลยมาจนถึงช่วงทศวรรษที่ 1990
โดยในปี ค.ศ.1997 เธอได้รับรางวัล Pioneer Award จาก Electronic Frontier Foundation ในฐานะผู้คิดค้นหนึ่งในเทคนิคการสื่อสารด้วยคลื่นวิทยุ
และทางพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน (Smithsonian Museum) ได้ประเมินมูลค่าสิทธิบัตรที่ออกให้กับเทคโนโลยี Frequency Hopping ของเธอไว้ที่ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 198 ล้านบาท แต่ก็เกิดขึ้นหลังจากที่คุณ Lamarr เสียชีวิตลงแล้วในปี ค.ศ. 2000
ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องราวของคุณ Lamarr นอกเหนือจากบทบาทดาราสาว ได้เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักประดิษฐ์สุดอัจฉริยะท่านหนึ่ง ที่สร้างคุณค่ายิ่งใหญ่ระดับมนุษยชาติ
ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า การให้คุณค่ากับผู้หญิงไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่มุมมองความงามเพียงด้านเดียวเท่านั้น..
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.