Novo Nordisk x ลงทุนเกิร์ล

หากพูดถึงบริษัทยาที่มีผลงานโดดเด่นเรื่องการรักษาโรคเบาหวาน ชื่อแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้น Novo Nordisk

บริษัทสัญชาติเดนมาร์กที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี สามารถต่อยอดการรักษาโรคอ้วน และโรคหายากอื่น ๆ จนขึ้นชื่อว่า เป็นหนึ่งในบริษัทยายักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

แต่รู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทนี้ ไม่ได้มีแค่การพัฒนายาที่ล้ำหน้า แต่ยังมีบทบาทในการขับเคลื่อนให้ผู้คนทั่วโลก “หันมาดูแลสุขภาพแบบองค์รวม”

แล้วเรื่องราวของ Novo Nordisk น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นของ Novo Nordisk ต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1921 โดยคุณออกุส ครอห์ก นักสรีรวิทยารางวัลโนเบล และภรรยาของเขาคุณมารี ซึ่งเป็นแพทย์ที่มีชีวิตอยู่กับโรคเบาหวาน

ทั้งคู่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการค้นพบอินซูลินจากนักวิจัยท่านหนึ่งในแคนาดา จึงตัดสินใจเดินทางไปขออนุญาตนำอินซูลินกลับมาใช้ผลิตยารักษาในเดนมาร์ก

2 ปีต่อมา อินซูลินนั้นถูกใช้รักษาผู้ป่วยได้สำเร็จ ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้งบริษัท Nordisk Insulaboratorium และพัฒนายารักษาโรคจากโปรตีนสำหรับผู้ที่มีโรคเรื้อรังรุนแรง

แต่ในเวลาต่อมา คุณ Harald และ คุณ Thorvald Pedersen อดีตพนักงานสองพี่น้องของบริษัท Nordisk Insulaboratorium ได้แยกตัวออกมาเพื่อก่อตั้งบริษัทของตัวเองในชื่อ Novo Terapeutisk Laboratorium
ส่งผลให้ทั้งสองบริษัทกลายเป็นคู่แข่งที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด

โดยในปี 1981 บริษัท Novo ถือเป็นบริษัทแรกในสแกนดิเนเวีย ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

อย่างไรก็ตามในปี 1989 บริษัททั้งสองได้ควบรวมกิจการกัน กลายเป็น Novo Nordisk A/S อย่างเป็นทางการ และยังเป็นบริษัทยาที่ทรงอิทธิพลระดับโลกมาจนถึงทุกวันนี้

ปัจจุบัน Novo Nordisk เป็นผู้พัฒนายาที่สำคัญในวงการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น

- ยารักษาโรคเบาหวาน Ozempic
- ยารักษาโรคอ้วน Wegovy

อีกทั้งยังเดินหน้าวิจัยโรคเรื้อรังอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ภายใต้หลักการบริหารแบบ Triple Bottom Line ที่คำนึงถึงปัจจัยด้านการเงิน, สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมุ่งเน้นประโยชน์สูงสุดของ “ผู้ป่วย” เป็นหัวใจสำคัญ
พร้อมยึดมั่นในอุดมคติ Novo Nordisk Way หรือการให้ความสำคัญกับการเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยมีการสำรวจความเห็นของพนักงานอยู่เสมอ รวมไปถึงการเปิดกว้างทางความหลากหลาย

โดยบริษัทมีสัดส่วนของพนักงานและผู้บริหารที่เป็นเพศหญิงสูงถึง 60% สะท้อนการให้โอกาสเติบโตในสายงานอย่างเท่าเทียม

ทั้งนี้ Novo Nordisk เป็นบริษัทที่ไม่เพียงแค่เน้นการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมอย่างยั่งยืน

โดยหนึ่งในปัญหาด้านสุขภาพอย่าง “โรคอ้วน” เป็นเรื่องที่ Novo Nordisk มุ่งให้ความสำคัญ และเข้ามามีบทบาทให้ผู้คนได้ตระหนักถึงแนวทางการดูแลสุขภาพ เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า โรคอ้วน เป็นหนึ่งในกลุ่มของโรค NCDs (Non-Communicable Diseases) กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งส่วนมากมีสาเหตุจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิต จนเกิดการสะสมอาการอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม โรคอ้วน มักถูกเข้าใจผิดว่า เกิดจากการกินจุและไม่ออกกำลังกายเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว ยังมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนของบุคคล, ยีน และอื่น ๆ อีกมากมาย

โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุให้โรคอ้วน ส่งผลกระทบต่อประชากรประมาณ 1 ใน 7 คนทั่วโลก และคาดว่าภายในปี 2035 ประชากรโลกครึ่งหนึ่ง มีแนวโน้มเป็นผู้มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน

สำหรับในประเทศไทย มีประชากรกว่า 40% ถูกจัดว่าเป็นผู้มีน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่ง พัฒนาสู่โรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวานประเภท 2, โรคหัวใจ และหลอดเลือด รวมไปถึงโรคไตเรื้อรัง

ซึ่งนอกจากจะเป็นโรคที่พรากชีวิตคนไทยก่อนวัยอันควรแล้ว ยังพรากโอกาสทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล
โดยอาจก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงกว่า 1.2% ของ GDP เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพ และคาดว่าในอนาคตอาจสูงถึง 4.9% หากไม่เร่งแก้ไข

พอเรื่องเป็นแบบนี้ Novo Nordisk จึงเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงการดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวมให้กับผู้คนทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น

- จัดตั้งโครงการ Cities for Better Health เป็นโครงการที่มีการร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ที่มุ่งเน้นการป้องกันโรคเรื้อรังที่รุนแรงในเขตเมือง ซึ่งบริษัทดำเนินการโครงการนี้มาแล้วกว่า 50 เมืองทั่วโลก รวมถึงกำลังดำเนินแผนงานในกรุงเทพฯ

- ร่วมมือกับ UNICEF เพื่อป้องกันโรคอ้วน และน้ำหนักเกินในเด็ก

- เข้าร่วมกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อเพิ่มการเข้าถึงสถานที่ที่มีสุขภาพดี เข้าถึงอาหารที่มีประโยชน์ มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกายภาพ เพื่อบรรลุความเป็นอยู่ที่ดี

- จัดกิจกรรมให้ความรู้ การศึกษา และกิจกรรมการรณรงค์สนับสนุน เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับโรคทั่วโลก

- จัดกิจกรรมทีมปั่นจักรยานมืออาชีพที่มีโรคเบาหวานประเภท 1 โดยมีเป้าหมายสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และเสริมพลังให้คนที่ได้รับผลกระทบจากโรคเบาหวานมีวิถีชีวิตสุขภาพที่ดีขึ้น

อ่านมาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า กว่า 1 ศตวรรษของ Novo Nordisk ไม่เพียงรักษาโรคผ่านยา แต่ยังช่วยสร้างสังคมสุขภาพดีผ่านความรู้ โครงการ และความร่วมมือในระดับนโยบาย
และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมบริษัทนี้ถึง “เปลี่ยนแปลงโลก” ได้มากกว่าที่ใครคาดคิด..

References :
- ข้อมูลจากบริษัท Novo Nordisk ประเทศไทย
- https://www.thaihealth.or.th/เปิดโผ-7-เทรนด์สุขภาพคนไ