Pepperidge Farm แบรนด์ขนมระดับโลก ที่เริ่มต้นจากแม่ เมื่อลูกกินขนมปังไม่ได้
Business

Pepperidge Farm แบรนด์ขนมระดับโลก ที่เริ่มต้นจากแม่ เมื่อลูกกินขนมปังไม่ได้

3 มิ.ย. 2025
Pepperidge Farm แบรนด์ขนมระดับโลก ที่เริ่มต้นจากแม่ เมื่อลูกกินขนมปังไม่ได้ /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าพูดถึงขนมในวัยเด็ก ขนม Goldfish หรือแครกเกอร์รูปปลาสีส้ม คงจะเป็นหนึ่งในขนมที่หลายคนชื่นชอบ
และเชื่อหรือไม่ว่าขนมรูปปลานี้ อร่อยถูกอกถูกใจ จนแม้แต่นักบินอวกาศ ยังนำขึ้นไปกินตอนที่ออกไปทำภารกิจนอกโลกอีกด้วย
ซึ่งขนม Goldfish ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต จริง ๆ แล้วก็มีหลายแบรนด์ แต่หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ก็คือ Pepperidge Farm ซึ่งนอกจาก Goldfish แล้ว คุกกี้ของแบรนด์นี้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว Pepperidge Farm ไม่ได้เริ่มต้นจากการทำขนมเหล่านั้นเลย แต่เริ่มต้นมาจากการขายขนมปัง ก่อนจะขยับขยายมาสู่แบรนด์ขนมระดับโลก
Pepperidge Farm ทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโตมาได้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แบรนด์ Pepperidge Farm ก่อตั้งโดยคุณ Margaret Rudkin เดิมทีเธอเคยทำงานเป็นพนักงานธนาคาร และได้พบรักกับสามี ซึ่งเป็นนายหน้าขายหุ้น
ทั้งคู่มีความตั้งใจอยากออกมาใช้ชีวิตในชนบท จึงตัดสินใจซื้อที่ดินแห่งหนึ่ง และตั้งชื่อว่า Pepperidge Farm
แต่แล้วก็เกิด The Great Depression หรือวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ส่งผลให้สามีของคุณ Margaret ไม่สามารถไปทำงานได้
พวกเขาจึงต้องขายทรัพย์สินส่วนใหญ่ รวมถึงขายต้นแอปเปิลและไก่งวง ที่พวกเขาตั้งใจปลูกและเลี้ยงเอาไว้ทำฟาร์ม เพื่อประทังชีวิตของพวกเขา และลูกอีก 3 คน
ถึงแม้จะลำบาก แต่ทั้งคู่ก็ร่วมกันอดทนและสามารถก้าวผ่านอุปสรรคครั้งนั้นมาได้
แต่เรื่องก็ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะลูกชายคนเล็กของคุณ Margaret กลับป่วยเป็นโรคหอบหืด และมีอาการแพ้อาหารจำพวกสารกันบูด หรือสารสังเคราะห์ต่าง ๆ
ทำให้ไม่สามารถกินขนมปังที่วางขายในท้องตลาดทั่วไปได้ เพราะในยุคนั้น ผู้ผลิตส่วนใหญ่หันมาใส่สารเคมีลงในขนมปังมากขึ้น เพื่อให้ขนมปังมีสัมผัสที่นุ่มและอยู่ได้นาน
ทางแพทย์ที่ดูแลลูกชายของคุณ Margaret จึงแนะนำให้ทางบ้านหันมาทำอาหารกินเองมากขึ้น และเรื่องนี้ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Pepperidge Farm
เนื่องจากในวัยเด็กของคุณ Margaret เธอเคยไปอาศัยอยู่กับคุณยาย ซึ่งเป็นคนสอนเธออบขนม ทำให้เธอพอจะมีประสบการณ์ด้านการทำขนมอยู่บ้าง แม้จะไม่ชำนาญนัก
ทั้งนี้ เธอได้เลือกที่จะเริ่มฝึกทำขนมปังแบบโฮลวีต เพราะเธอเชื่อว่าการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ อาจช่วยให้ลูกชายของเธอมีอาการดีขึ้นได้
ซึ่งคุณ Margaret ได้ใช้เวลาฝึกฝนอยู่ 3 ปี กว่าจะได้สูตรขนมปังโฮลวีตที่ลงตัว
โดยขนมปังของเธอนอกจากจะอร่อย ยังมีประโยชน์จากธัญพืชมากมาย ส่งผลให้อาการป่วยของลูกชายค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ
แม้แต่คุณหมอที่รักษาลูกชายยังนำขนมปังของเธอไปแนะนำให้คนไข้คนอื่น จนกลายเป็นขนมปังที่ได้รับความนิยม และทำให้คุณ Margaret ตัดสินใจเริ่มต้นเปิดร้านขายขนมปังโฮลวีตในที่สุด
หลังจากที่โด่งดังแค่เพียงในพื้นที่เล็ก ๆ
ธุรกิจขนมปังของคุณ Margaret ก็ขยับขยายมาวางขายในตัวเมืองนิวยอร์ก โดยมีสามีเป็นคนคอยช่วยส่งของ
คุณ Margaret เองก็ได้ย้ายจากฟาร์ม มาอบขนมในโรงจอดรถเล็ก ๆ ในตัวเมือง ก่อนจะค่อย ๆ ขยายไปผลิตในโรงงานขนาดใหญ่
แต่ในขณะที่ธุรกิจของเธอกำลังเติบโต คุณ Margaret กลับต้องเจอกับยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้การผลิตของเธอต้องหยุดชะงัก เนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบ
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านช่วงที่ยากลำบากมาได้
ในปี 1947 Pepperidge Farm ก็เปิดร้านเบเกอรีของตัวเอง รวมถึงเปิดตัวสินค้าประเภทอื่น ๆ อย่างขนมปังชิ้นเล็ก และขนมไส้สมุนไพรอบ
ต่อมาในช่วงปี 1950 คุณ Margaret ได้มีโอกาสเดินทางไปหลายประเทศ ทำให้ได้พบเจอขนมชนิดใหม่ ๆ ซึ่งเธอเชื่อว่าจะได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน
อย่างการเดินทางไปยังยุโรป ที่ทำให้เธอได้พบกับคุกกี้ช็อกโกแลตชนิดหนึ่ง ซึ่งเธอก็ตัดสินใจซื้อสิทธิ์ในการผลิตและขาย จนทำให้ธุรกิจเติบโต
ความสำเร็จนี้ทำให้ Campbell Soup Company บริษัทอาหารชั้นนำของสหรัฐอเมริกา เข้าซื้อกิจการ Pepperidge Farm และเรื่องนี้ยังทำให้คุณ Margaret เป็นผู้หญิงคนแรก ที่นั่งในคณะกรรมการบริหารของ Campbell อีกด้วย
หลังจากนั้นในปี 1961 คุณ Margaret ก็ได้นำ Goldfish หรือขนมแครกเกอร์รูปปลาสีส้ม ที่เธอได้พบจากการเดินทางไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กลับมาที่สหรัฐอเมริกา
และในปี 1997 แครกเกอร์ Goldfish ได้เปิดตัว Smiley หรือแครกเกอร์รูปปลาที่มีรอยยิ้ม จนทำให้ Goldfish กลายเป็นหนึ่งในขนมไอคอนิกทันที
จากความสำเร็จทั้งหมดของคุณ Margaret ก็ทำให้เธอกลายเป็นบุคคลตัวอย่าง และมีโอกาสได้บรรยายที่มหาวิทยาลัยหลาย ๆ ที่ รวมถึง Harvard University
โดยเมื่อมีคนถามว่า อะไรที่ทำให้บริษัทของเธอประสบความสำเร็จ เธอจะตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง
“สิ่งที่ทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้ขนาดนี้ เป็นเพราะผลิตภัณฑ์จากฟาร์มของ Pepperidge Farm เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก”
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เพียงแค่สินค้าที่มีคุณภาพดีเท่านั้นที่จะขายได้
อีกสิ่งที่ส่งผลให้ Pepperidge Farm ประสบความสำเร็จได้ก็คือคุณ Margaret Rudkin
เนื่องจากวิสัยทัศน์ของเธอ ที่มองเห็นโอกาสตั้งแต่สมัยยังอบขนมปัง รวมถึงการตัดสินใจคัดเลือกขนมประเภทต่าง ๆ ที่จะนำเข้ามาขายภายใต้ชื่อ Pepperidge Farm ก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตมาได้จนทุกวันนี้..
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.