Ibérico Ham แฮมชั้นเลิศ ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “Rolls-Royce of Ham” /โดย ลงทุนเกิร์ล

เมื่อพูดถึง “แฮม” หลายคนอาจนึกถึงอาหารแปรรูปที่ไม่มีประโยชน์

แต่ในทางกลับกัน แฮมบางชนิด กลับเป็นอาหารชั้นเลิศ ที่มีคุณค่าทางสารอาหาร และมีราคาสูงกว่าเนื้อวัวเสียอีก

ซึ่งแฮมที่หมายถึง คือ “Ibérico Ham” แฮมขาหมูดำ ที่จะทำให้หลายคน ลืมภาพจำของแฮมปกติ หรือการเป็นอาหารแปรรูปที่ไม่มีประโยชน์ไปเลย

หลายคนอาจสงสัยว่า Ibérico Ham คืออะไร ?
ทำไมถึงถูกเรียกว่า Rolls-Royce of Ham ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

แฮมอิเบริโก (Ibérico Ham) มีอีกชื่อหนึ่งว่า “ฆามอน อิเบริโก” (Jamón Ibérico) หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า “แฮมขาหมูดำ”

ซึ่งเป็นแฮมที่ทำมาจากหมูดำสายพันธุ์อิเบริโก ที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นแฮมชั้นเลิศที่มีรสชาติดีที่สุด

โดยหมูดำที่พูดถึงนี้เป็นสายพันธุ์หายาก และส่วนใหญ่จะถูกเลี้ยงทางฝั่งคาบสมุทรไอบีเรีย ในส่วนของประเทศสเปนและโปรตุเกสเท่านั้น

ซึ่งปกติ แฮมอิเบริโก ก็จะมีการแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของหมู อาหาร และลักษณะการเลี้ยง

ระดับที่แพงสุดคือ “Black Label” ทำมาจากหมูดำสายพันธุ์อิเบริโกแท้ 100% ซึ่งมีสัดส่วนเพียง 6% ในท้องตลาด และมีราคาอยู่ที่ 34,000-150,000 บาทต่อขา

นอกจากสายพันธุ์ อะไรคือความพิเศษของแฮมขาหมูดำ จนทำให้มันกลายเป็นแฮมรสเลิศ ?

ระยะเวลาและสถานที่ในการเลี้ยงดูหมูดำ
เพราะต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย ๆ ถึง 5 ปี กว่าจะครบกระบวนการทั้งหมด โดยแบ่งเป็นระยะเวลาในการเลี้ยงดูจนเติบโตประมาณ 2 ปี และอีก 3 ปีขึ้นไป สำหรับการหมักจนกลายเป็นแฮม

ซึ่งระยะเวลา 2 ปี ในการเลี้ยงดู ก็จะมีกฎในการเลี้ยงหมูดำเหล่านี้ คือจะต้องเลี้ยงหมูดำ 1 ตัว ต่อพื้นที่ประมาณ 12.5 ไร่ เพื่อให้มันมีพื้นที่มากพอที่จะเดินเล่นอย่างมีความสุข และไม่รู้สึกอึดอัด

อีกทั้งหมูดำเหล่านี้ยังถูกเลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ โดยปล่อยให้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ และกินหญ้าอยู่ในทุ่งโล่งแบบเปิดในประเทศสเปน บนเทือกเขาที่อุดมสมบูรณ์

เรื่องอาหาร
นอกจากจะกินหญ้าเป็นอาหารแล้ว หมูดำเหล่านี้จะกินเบอร์รีหลากชนิด, ถั่ว และอาหารหลัก อย่าง ลูกโอ๊กสด ๆ จากต้น ประมาณ 12 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับที่ทำให้แฮมอิเบริโกมีรสชาติดี และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เนื่องจากลูกโอ๊ก มีคุณสมบัติในการเข้าไปเพิ่มชั้นไขมันดีในหมูดำ และทำให้แฮมมีรสชาติหวาน เค็มกลมกล่อม มีกลิ่นหอมนุ่มลิ้น

อีกทั้งลูกโอ๊ก ยังมีกรดโอเลอิกที่ช่วยควบคุมการเผาผลาญ และช่วยลดคอเลสเตอรอล ทำให้หมูดำเหล่านั้น กลายเป็นแฮมที่สุขภาพดีอีกด้วย

ที่น่าสนใจคือ หมูดำที่ถูกเลี้ยงด้วยลูกโอ๊กสด ๆ มีสัดส่วนเพียงแค่ 1% ของประชากรหมูดำทั้งหมดในประเทศสเปนเท่านั้น

การหมัก รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งออก
หลังจากผ่านขั้นตอนการเลี้ยงดูจนครบกำหนด จนได้หมูดำที่มีน้ำหนักตรงตามมาตรฐานแล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการในการหมัก

ซึ่งหมูเหล่านี้ จะถูกตัดแต่งไขมันให้เหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และความชำนาญในการตัดแต่ง เพราะถ้าไม่เชี่ยวชาญมากพอ แฮมอาจจะแข็งหรือแห้งได้

จากนั้น หมูดำที่ตัดแต่งเรียบร้อย จะถูกนำไปหมักด้วยเกลือแต่ละประเภท ตามสูตรของแต่ละแบรนด์ ก่อนจะนำไปเก็บไว้ในห้องรักษาอุณหภูมิอีก 3 ปีเป็นต้นไป ซึ่งถือว่าใช้เวลาในการหมักยาวนานกว่าแฮมปกติ ที่อาจใช้เวลาหมักแค่ประมาณ 3-7 วันเท่านั้น

โดยแฮมอิเบริโกที่สมบูรณ์ ผิวหนังชั้นนอกจะเริ่มกลายเป็นสีเหลืองอ่อน ส่วนเนื้อแฮมด้านใน จะมีสีชมพูเข้มอมแดง พร้อมไขมันสีขาวลายหินอ่อน แทรกอยู่ประมาณ 25-30% ของแฮมเหล่านั้น

และแน่นอนว่า ไขมันเหล่านั้นเป็นไขมันดี เพราะมันคือไขมันชนิดเดียวกันกับที่อยู่ในน้ำมันมะกอก รวมทั้งเยอะมากพอที่ทำให้แฮมอิเบริโก ถูกเรียกว่าเป็น “ต้นมะกอกที่มีขา” เลยทีเดียว

เรียกได้ว่า ด้วยกระบวนการเลี้ยงดู การหมักแบบพิเศษ บวกกับความเป็นหมูสายพันธุ์หายาก ส่งผลให้ราคาของแฮมชนิดนี้ สูงกว่าราคาแฮมทั่วไปในท้องตลาด

ซึ่งที่ Villa Market ซูเปอร์มาร์เก็ตของไทย ก็นำแฮมขาหมูดำแบบสไลซ์ของแบรนด์ 5J Cinco Jotas มาวางขายอยู่ที่ประมาณขีดละ 1,500 บาท

รวมถึงนำแฮมขาหมูดำแบบทั้งขา ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 8-9 กิโลกรัมมาวางขาย ในราคาสูงถึง 100,000 บาท

ต้องยอมรับว่า มันมีราคาที่สูงจนเกือบจะดาวน์รถญี่ปุ่นได้สักคัน จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมแฮมขาหมูดำถึงถูกขนานนามว่าเป็น Rolls-Royce of Ham นั่นเอง

แล้วแฮมขาหมูดำ เหมาะจะทานคู่กับอะไร เพื่อให้ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบ และคุ้มค่ากับราคามากที่สุด ?

ปกติจะนิยมทานจับคู่กับผลไม้ที่มีรสหวาน เช่น องุ่นหรือเมลอน เพื่อให้ได้สัมผัสรสชาติที่กลมกล่อม

หรือจะเป็นมะกอกดอง หรือแตงกวาดอง ก็เป็นของทานเล่นที่ช่วยตัดรสชาติ ในการทานแฮมขาหมูดำได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่า แฮมขาหมูดำ ถูกดูแลด้วยผู้เชี่ยวชาญในทุกกระบวนการ รวมถึงการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน จนกลายเป็นแฮมที่แพงที่สุดในโลก และสามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่าแฮมทั่วไปหลายเท่า

หากใครมีโอกาสได้ลิ้มลอง แนะนำให้นำแฮมขาหมูดำ แปะไว้ที่เพดานปากก่อน จะสัมผัสได้ถึงความนุ่มจนละลายในปากได้เลยทีเดียว..

References :

Robbreport, Insider, Mashed, Cnbc, Villamarket