
Business
ปีนี้ เครื่องประดับหรูยังขายดี แม้ตลาดลักชัวรีซบเซา
19 ก.ค. 2025
ปีนี้ เครื่องประดับหรูยังขายดี แม้ตลาดลักชัวรีซบเซา /โดย ลงทุนเกิร์ล
อย่างที่รู้กันว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจแฟชั่นหรูทั่วโลกต้องเผชิญกับแรงกดดันครั้งใหญ่
ยอดขายที่เคยเติบโตอย่างแข็งแกร่งกลับลดลง โดยเฉพาะในตลาดสำคัญอย่างจีน ที่กำลังชะลอตัวอย่างมาก
สาเหตุหลัก ๆ ก็เพราะ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ, การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากแบรนด์หน้าใหม่ ๆ และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมารัดเข็มขัดลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
แต่หลายคนอาจประหลาดใจ ถ้าบอกว่าปีนี้ ผลการดำเนินงานของ “เครื่องประดับหรู” ยังเติบโตดีอยู่..
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ผลการดำเนินงานของแบรนด์หรู ในไตรมาส 1 ปี 2025
LVMH ผู้นำตลาดที่เป็นเจ้าของแบรนด์หรู Louis Vuitton, Dior และ Tiffany & Co.
รายงานว่ารายได้ของไตรมาสแรก ลดลง 2% โดยธุรกิจไวน์และสุรามียอดขายลดลงมากที่สุดที่ 8% ตามมาด้วยธุรกิจแฟชั่นและเครื่องหนังที่ลดลง 4% มีเพียงธุรกิจนาฬิกาและเครื่องประดับ ธุรกิจเดียวที่มียอดขายเติบโต
Kering เจ้าของแบรนด์หรู เช่น Gucci, Saint Laurent และ Bottega Veneta
รายงานว่ารายได้ของไตรมาสแรก ลดลง 14% ท่ามกลางปัญหาที่ยังคงดำเนินอยู่ของ Gucci ขณะที่ยอดขายของกลุ่มเครื่องประดับอย่างแบรนด์ Pomellato และ Boucheron กลับเพิ่มขึ้น
Richemont เจ้าของแบรนด์หรู เช่น Cartier, Van Cleef & Arpels และ Vacheron Constantin
รายงานว่ารายได้ของไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 6% แม้ยอดขายของกลุ่มนาฬิกาจะลดลง 7% แต่ยอดขายของกลุ่มจิวเวลรีเพิ่มขึ้นถึง 11% ซึ่งนำโดยแบรนด์ Cartier และ Van Cleef & Arpels
นอกจากนี้ ตามผลการวิเคราะห์ข้อมูลบัตรเครดิตของ Citigroup ยังพบว่าผู้บริโภคชาวอเมริกัน กำลังจับจ่ายซื้อเครื่องประดับหรูหราเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ลดการใช้จ่ายในกระเป๋าถือและเสื้อผ้า
โดยการใช้จ่ายในเครื่องประดับหรู เติบโตต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2024 และในเดือนพฤษภาคม การใช้จ่ายในเครื่องประดับหรูเพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ซึ่งเรื่องนี้ นักวิเคราะห์จาก Citigroup มองว่า น่าจะได้รับแรงหนุนจากการที่ผู้บริโภครับรู้ว่าเครื่องประดับสามารถเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าทางการเงินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อราคาทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 25% ตั้งแต่ต้นปีนี้
อีกทั้ง มองว่าเครื่องประดับยังมีคุณค่าทางอารมณ์และจิตใจที่ลึกซึ้ง ทำให้เป็นสินค้าที่มีความหมาย นิยมให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกสำคัญในชีวิต
ในทางกลับกัน แบรนด์กระเป๋าหรูที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงก่อนหน้านี้ ได้มีการเพิ่มราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงโควิด-19 มากถึง 30-40%
โดยที่ผู้บริโภคไม่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากขึ้น ทั้งในด้านฟังก์ชันการใช้งานหรือการออกแบบ ทำให้กระเป๋าหรูเริ่มถูกมองว่าเป็นสินค้าที่มีราคาสูงเกินไปเมื่อเทียบกับคุณค่าที่ได้รับ
เรียกได้ว่า การเติบโตในตลาดเครื่องประดับหรูในปี 2025 เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจในโลกของธุรกิจหรู
สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ที่ไม่เพียงแค่ต้องการสินค้าที่มีความหรูหราเพียงชั่วคราว แต่ยังมองหาคุณค่าระยะยาว ทั้งในแง่มุมการลงทุนที่คุ้มค่าและมูลค่าทางอารมณ์
ไม่แน่ว่าแนวโน้มนี้อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ และเป็นตัวบ่งชี้ถึงทิศทางของตลาดสินค้าหรูที่เราจะได้เห็นในปีต่อ ๆ ไป..
References :
Investing, Nationaljeweler, Cnbc