ครั้งหนึ่ง Häagen‑Dazs ก็เคยทำให้มัทฉะขาดตลาด จากไอศกรีมรสชาเขียว
Business

ครั้งหนึ่ง Häagen‑Dazs ก็เคยทำให้มัทฉะขาดตลาด จากไอศกรีมรสชาเขียว

31 ก.ค. 2025
ครั้งหนึ่ง Häagen‑Dazs ก็เคยทำให้มัทฉะขาดตลาด จากไอศกรีมรสชาเขียว /โดย ลงทุนเกิร์ล
จากกระแสรักสุขภาพทั่วโลก บวกกับความนิยมของมัทฉะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายปีมานี้เกิดภาวะขาดแคลนมัทฉะคุณภาพสูง
แต่เชื่อไหมว่า “ปรากฏการณ์มัทฉะขาดตลาด” ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในปี 1996 ญี่ปุ่นก็เคยเผชิญกับเหตุการณ์คล้ายกัน
และจุดเริ่มต้นทั้งหมด มาจากไอศกรีม Häagen‑Dazs..
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในปี 1984
Häagen‑Dazs แบรนด์ไอศกรีมพรีเมียมจากสหรัฐฯ ได้แลนดิงมาถึงญี่ปุ่น และเปิดร้านสาขาแรกในอาโอยามะ กรุงโตเกียว
ซึ่งร้านนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก มีลูกค้าเข้าคิวยาวเหยียดทุกวัน Häagen-Dazs กลายเป็นภาพแทนของไลฟ์สไตล์หรูหราในญี่ปุ่น
จนมาถึงปี 1989 ทีมงาน Häagen-Dazs ญี่ปุ่น ได้เสนอวิธีขยายธุรกิจในตลาดญี่ปุ่น ด้วยการพัฒนาไอศกรีมรส “ชาเขียว” (มัทฉะ) รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น
แต่เมื่อแนวคิดนี้ถูกส่งไปยังสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ก ก็มีคำตอบกลับมาอย่างหนักแน่นว่า “ไม่”
เนื่องจากรสขมของชาเขียว ไม่น่าจะเข้ากับความหวานนุ่มของไอศกรีม Häagen-Dazs ในแบบที่ผู้คนทั่วโลกรู้จัก และไม่มีผู้บริหารระดับสูงคนไหนคิดว่ารสชาตินี้จะขายได้
แต่คำปฏิเสธนี้ก็ไม่ได้หยุดความตั้งใจของทีมญี่ปุ่น พวกเขาจึงเชิญผู้บริหารจากสำนักงานใหญ่ มายังเกียวโต เมืองหลวงเก่าที่มีรากลึกของวัฒนธรรมการชงชาญี่ปุ่น
เพื่อร่วมพิธีชงชาแบบดั้งเดิม ทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ ลิ้มรสมัทฉะแท้ ๆ ที่มีกลิ่นหอม เข้มข้น และอูมามิในแบบที่หาไม่ได้จากชาแปรรูปทั่วไป
หลังใช้เวลากว่า 7 ปี ในที่สุด Häagen-Dazs ญี่ปุ่นก็ได้เปิดตัวไอศกรีมรสชาเขียวในปี 1996 และได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย มียอดขายเป็น 2 เท่าของรสวานิลลา ซึ่งเป็นรสที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ในขณะนั้น
โดย Häagen-Dazs ญี่ปุ่น เผยว่าสาเหตุที่ใช้เวลาพัฒนาไอศกรีมนานถึง 7 ปีก็เพราะว่าเมื่อก่อนขนมหวานรสมัทฉะยังไม่ได้รับความนิยมเท่าในปัจจุบัน
ทีมงานจึงต้องเฟ้นหามัทฉะที่เข้ากันได้ดีกับไอศกรีม จากร้านขายชาทั่วประเทศ ลองผิดลองถูก พัฒนาสูตรต้นแบบมากกว่า 100 แบบ ก่อนจะได้สูตรไอศกรีมที่ลงตัว
และแม้ว่าจะใช้มัทฉะแท้เป็นวัตถุดิบ แต่ Häagen-Dazs ญี่ปุ่น ก็เลือกตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ว่า “Green Tea” แทนที่จะเป็น “Matcha” เพราะต้องการจะรักษาภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์อเมริกันไว้
ที่น่าสนใจคือในปีนั้น หลังจากที่ Häagen-Dazs วางขายไอศกรีมชาเขียว ก็ได้จุดประกายความสนใจในมัทฉะ
ส่งผลให้ความต้องการ “เท็นฉะ” หรือใบชาที่ไว้บดทำมัทฉะ เพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน ราคาของเท็นฉะพุ่งขึ้นเกือบ 150% ภายในปีเดียว
เกษตรกรจำนวนมากหันมาปลูกเท็นฉะ จำนวนโรงงานผลิตผงมัทฉะก็เพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ด
ปรากฏการณ์ครั้งนี้ถูกสื่อญี่ปุ่นขนานนามว่า “Häagen-Dazs Shock” เพราะไม่เคยมีใครคาดคิดว่า ไอศกรีมชาเขียวจะสร้างแรงสั่นสะเทือนขนาดนี้
มาถึงปัจจุบัน รสชาเขียวของ Häagen-Dazs ไม่เพียงประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น แต่กลายเป็นหนึ่งในรสชาติที่ขายดีทั่วโลก
ซึ่ง Häagen-Dazs ญี่ปุ่น ก็ยังไม่หยุดพัฒนา มีการต่อยอดรสชาติชาเขียว เช่น ไอศกรีมรส Green Tea Latte, Cookies & Green Tea และ Green Tea Truffle
ล่าสุดในปีนี้ ก็มีการออกไอศกรีมรสเกียวคุโระ ซึ่งเกียวคุโระถือเป็นชาเกรดสูงสุดที่หายากของญี่ปุ่น
สำหรับใครที่อยากลองก็ต้องรีบหน่อย เพราะตัวนี้เป็นสินค้า Limited Edition เริ่มจำหน่ายแล้วในญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา..
เกร็ดท้ายบทความ
“Crispy Sandwich” หรือ ไอศกรีมแซนด์วิชกรอบที่มาในรูปแบบเวเฟอร์กรอบคู่สองชั้น ด้านในมีไอศกรีมเคลือบด้วยช็อกโกแลตหรือคาราเมล
ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่นเช่นกัน โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 ก่อนจะแพร่หลายไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
References :
Asia.nikkei, Walkerplus, Häagen-Dazs, Zkuwabara, Tkymisfits
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.