Alex Shlaferman ชายผู้เปลี่ยนไอเดียเล็ก ๆ ให้กลายเป็น Gadget ยอดขายนับล้านชิ้น /โดย ลงทุนเกิร์ล

ช่วงนี้บางคนอาจจะเริ่มเห็น Ninja Labs เคสโทรศัพท์ที่ด้านหลังมียางยืด จุของได้ ไอเทมมาแรง ตอบโจทย์สาวชอบพกของจุกจิก แต่ไม่อยากถือกระเป๋าให้เทอะทะ

แม้จะดูเป็น Gadget ที่มีความเป็นผู้หญิงสุด ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า มันถูกคิดค้นโดยนักประดิษฐ์ชาย ชื่อว่า Alex Shlaferman

และ Ninja Labs ไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกของเขาที่แมส ยังมีอีกหลาย Gadget เจ๋ง ๆ ที่เขาคิดค้นมาจากไอเดียเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่กลับสร้างยอดขายให้เขาไม่เล็กเลย

เรื่องราวของคุณ Alex Shlaferman และสิ่งประดิษฐ์ของเขาน่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

คุณ Alex Shlaferman เกิดและเติบโตในย่านบรุกลิน นิวยอร์ก แม้จะอยู่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยเศรษฐี แต่เขากลับบอกว่าเขาเกิดมาในครอบครัวธรรมดา ๆ

ตอนอายุ 11 ปี เขาลองทำดีวีดีสอนมายากลไปขายบนอินเทอร์เน็ต ปรากฏว่ามันขายดี จนทำให้เขาเริ่มมีเงินเก็บก้อนแรกโดยที่พ่อแม่ไม่รู้

พออายุ 15 ปี เขาก็ตามคนรู้จักของพ่อแม่ไปขายของในงานจัดแสดงสินค้า จนได้พบกับผู้ประกอบการที่มีโรงงานผลิตของเล่นที่จีน คุณ Shlaferman ได้ยินก็สนใจ จึงไปพูดคุย ขอความรู้จากคนนั้น

ในที่สุด เมื่ออายุ 16 ปี เขาก็ได้ประดิษฐ์ของเล่นชิ้นแรก คือเครื่องบินบูเมอแรง ชื่อว่า Super Looper และนำมันไปโชว์ในงาน Toy Fair แห่งหนึ่ง

ซึ่งในช่วงปี 2010 นับว่าบูเมอแรงเป็นของเล่นที่ใหม่และน่าสนใจมาก จนสำนักข่าวดังอย่าง CBS News ก็ยังมาถ่ายทำเรื่องราวของเล่นของเขา

พอได้ออกสื่อ ยอดขายก็พุ่งไม่หยุด คุณ Shlaferman เล่าว่าเขาต้องนั่งประกอบบูเมอแรงด้วยมือในห้องนั่งเล่นที่บ้าน แต่มันก็แมสจนสร้างรายได้หลักสิบล้านบาทให้เขาในเวลาไม่กี่ปี

หลังประสบความสำเร็จกับ Super Looper เขาก็ยังประดิษฐ์ของหลายอย่าง เช่น

Pikoo Ring Watch นาฬิกาจิ๋วบนแหวนAerosmall สเปรย์ฉีดผมและดรายแชมพูแบบพกพา (ภายหลังถูกขายให้กับแบรนด์ TRESemmé)

แต่ที่สร้างชื่อเสียงให้เขาแบบสุด ๆ คือ Ninja Wallet การ์ดอเนกประสงค์ ที่ออกจำหน่ายในปี 2013

แม้รูปร่างหน้าตาคล้ายบัตรเครดิต แต่ความพิเศษคือมันเป็นการ์ดที่รวม 19 ฟังก์ชันการใช้งานไว้ในชิ้นเดียว

สามารถใช้เปิดฝาขวด, เปิดกระป๋อง, แกะกล่อง, ใช้แทนไขควง, ขันนอตเล็กไปถึงนอตใหญ่, ใช้แทนประแจ, ถอนตะปู, ใช้เป็นไม้บรรทัดวัดขนาด ไปจนถึงปอกเปลือกส้ม

นับว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ง่าย ๆ แต่ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวันมาก และด้วยขนาดที่เล็กเท่าบัตรเครดิตทำให้คนพกติดตัว จนมันกลายเป็น Gadget เจ๋ง ๆ ในยุคนั้น ที่คนไปทำคลิปรีวิวมากมาย

ยิ่งพอได้วางขายในห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่าง Walmart ก็ได้รับความนิยมมากจนจัดเป็นสินค้าขายดีติดต่อกันหลายปี

จากข้อมูลในเว็บไซต์ Ninja Wallet ขายออกไปแล้วมากกว่า 25 ล้านชิ้นทั่วโลก แถมล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมาก็เพิ่งจะคอลแลบกับ Snoopy ทำลวดลาย Limited Edition และก็ Sold Out ไปเรียบร้อย

หลังจาก Ninja Wallet ขายดีมาก ๆ คุณ Shlaferman ก็ตัดสินใจเปิดโรงงานของตัวเองที่ประเทศจีน เพื่อคุมต้นทุน โดยใช้ความรู้จากคนที่เขาพบที่งานจัดแสดงสินค้า

กลายเป็นว่าจากเด็กที่เคยต้องใช้บัตรเครดิตของพ่อแม่มาทำธุรกิจเล็ก ๆ ในห้องนอน ตอนนี้เป็นเจ้าของโรงงานที่มีพนักงานเกือบ 50 คน ในวัย 20 ปี

หลังจากประสบความสำเร็จในฐานะนักประดิษฐ์ตั้งแต่อายุน้อย เขาก็พักงานประดิษฐ์ไปเกือบสิบปี เพื่อเริ่มต้นเส้นทางเป็นนักดนตรี อยู่ที่ลอสแอนเจลิส

และปล่อยผลงานเพลงภายใต้ชื่อ Franke ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีไม่น้อย โดยทำยอดสตรีมรวมร้อยล้านครั้ง

แต่เพราะความเป็นนักประดิษฐ์ยังอยู่ในสายเลือด เขาก็วนกลับมาทำธุรกิจ ครั้งนี้เขาเปิดตัว Ninja Labs เคสโทรศัพท์แบบด้านหลังมียางยืด จุของได้

เป็น Gadget ที่เขาได้แรงบันดาลใจมาจากหลังจากทำเพลงไปสักพัก เขาก็รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีก็เหมือนเพลงที่ดี มันต้องให้ความรู้สึกที่ใช่ และถูกจริตกับผู้ใช้ทันทีที่ได้สัมผัส

ซึ่งก็ถูกจังหวะ เพราะตอนนี้เป็นช่วงที่สินค้า Lifestyle ของสาว ๆ มาแรง หลังจาก Rhode Lip Case เคสที่ด้านหลังใส่ลิปทินต์ได้ของ Rhode กลายเป็นไอเทมฮิต

และ Ninja Labs ก็สามารถใส่พวกลิปสติก กุญแจรถ AirPods และอื่น ๆ อีกหลายอย่างได้ ก็ยิ่งตอบโจทย์สาว ๆ ที่มีไลฟ์สไตล์เน้นความคล่องตัวเมื่อออกจากบ้าน

ทำให้ตอนนี้มันกลายเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สาว ๆ ตัวแม่ต้องมี และก็กลายเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่แมสของเขาอีกครั้ง

สุดท้ายต้องบอกว่าสินค้าของเขาแต่ละชิ้นที่แมส ไม่ใช่ราคาถูก ๆ

Ninja Wallet การ์ดอเนกประสงค์ ราคา 654 บาทNinja Labs เคสมียางยืดด้านหลัง ราคา 2,520 บาท

แต่เหตุผลที่มันแมส คือการที่คุณ Shlaferman สามารถเปลี่ยนไอเดียเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน ให้กลายเป็น Gadget ที่คนเห็นแล้วว้าว จดจำได้ และอยากได้ จนเรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา

และก็น่าจับตาดูว่า​​ไอเดียเล็ก ๆ ที่เขาจะเปลี่ยนให้มันกลายเป็น Gadget เจ๋ง ๆ ชิ้นต่อไปจะเป็นอะไรกัน..

References :

Business Insider, เว็บไซต์ออนไลน์ของแบรนด์