“Boring” แบรนด์นมโอ๊ต ชื่อดูน่าเบื่อ แต่ขายดีจนเกลี้ยงเชลฟ์ /โดย ลงทุนเกิร์ล

รู้หรือไม่ว่า Boring แบรนด์นมโอ๊ตจากนิวซีแลนด์ เพิ่งออกทำตลาดเมื่อปี 2021 และได้เริ่มวางขาย ช่วงที่นิวซีแลนด์ ประกาศล็อกดาวน์ได้เพียง 2 วัน 

แม้จะเปิดตัวช่วงโควิด-19 แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางความมาแรงของ Boring Oat Milk ได้ และยังสามารถแซงขึ้นเป็น นมโอ๊ตที่ขายดีที่สุดในประเทศ ภายในเวลาเพียงปีเดียว

แล้ว Boring ทำได้อย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

เรื่องราวของ Boring เริ่มจากคุณ Morgan Maw ผู้หญิงที่หลงใหลในข้าวโอ๊ต และเชื่อว่ามันจะเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคและสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมได้จริง

ซึ่งเธอคุ้นเคยกับข้าวโอ๊ตมาตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นพืชท้องถิ่นที่ปลูกง่าย ใช้น้ำน้อย และมีอยู่ทั่วไปในนิวซีแลนด์ จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอได้ไปเที่ยวสกอตแลนด์ และได้เห็นว่าข้าวโอ๊ตสามารถนำมาทำผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย 

เทียบกับคนนิวซีแลนด์ที่มักนำข้าวโอ๊ต มาทำอาหารเพียง 2 เมนู คือถ้าไม่นำมาต้มเป็นข้าวต้ม ก็เติมนม กินเป็นซีเรียล ประสบการณ์นั้นทำให้เธอเกิดแรงบันดาลใจอยากสร้างธุรกิจจากข้าวโอ๊ต 

คุณ Morgan จึงเริ่มจากการทำเค้กข้าวโอ๊ตขายอยู่ 3 ปี แต่สุดท้ายเธอก็พบว่ามันยังไม่ตอบโจทย์ เพราะใช้วัตถุดิบได้น้อยเกินไป

เธอจึงหันมามองหาผลิตภัณฑ์จากข้าวโอ๊ต ที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างที่เธอคาดหวัง และคำตอบนั้นคือ “นมโอ๊ต”

คุณ Morgan ใช้เวลาถึง 3 ปี ในการวิจัย พัฒนา เพื่อให้ได้นมโอ๊ตที่เพอร์เฟกต์ที่สุด รวมไปถึงได้วางแผนการตลาด และทำแบรนด์ให้เป็นที่น่าจดจำ

ซึ่งก็ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่เธอหมกมุ่นกับเจ้านมโอ๊ตแสนน่าเบื่อนั้น ไม่สูญเปล่า เพราะเมื่อ Boring ออกสู่ตลาด ก็ทำยอดขายสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า ขายดีจนผลิตแทบไม่ทัน

และต่อมาในปี 2022 Boring สามารถขายนมโอ๊ตไปได้กว่า 2.2 ล้านขวดในนิวซีแลนด์ กลายเป็นแบรนด์นมโอ๊ตที่ขายดีที่สุดบนเชลฟ์ซูเปอร์มาร์เก็ต ครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 25%

ถ้ามาลองวิเคราะห์แล้ว พบว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้ Boring Oat Milk สามารถชนะใจชาวกีวี

1. เปิดตัวในจังหวะที่ใช่

Boring ถือเป็นแบรนด์นมโอ๊ตแบรนด์เดียวของนิวซีแลนด์ที่ผลิตในประเทศตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนแบรนด์อื่น ๆ จะส่งข้าวโอ๊ตที่ปลูกในนิวซีแลนด์ข้ามโลกไปยังสวีเดนเพื่อแปรรูป ก่อนที่จะกลับมาจำหน่ายเป็นนมที่นี่

พอ Boring เปิดตัวในช่วงที่นิวซีแลนด์ประกาศล็อกดาวน์จากโควิด-19 ซึ่งมองเผิน ๆ ดูเหมือนเป็นช่วงที่ไม่เหมาะสม แต่จริง ๆ แล้ว มันเป็น Timing ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้

เพราะแบรนด์นมโอ๊ตอื่น ๆ ไม่สามารถส่งสินค้าเข้านิวซีแลนด์ได้ ผลก็คือ Boring กลายเป็นนมโอ๊ตแบรนด์เดียวบนเชลฟ์โดยไร้คู่แข่ง ลูกค้าที่ดื่มนมโอ๊ตอยู่แล้วก็ตัดสินใจไม่ยากที่จะซื้อ Boring ไปลิ้มลองแทน

2. ให้ความสำคัญกับขั้นตอนการ R&D

เคล็ดลับที่ทำให้นมโอ๊ตของ Boring ทั้งอร่อย เข้มข้น และหวานจากธรรมชาติ คือกระบวนการผลิตที่เติมเอนไซม์ธรรมชาติลงไป เพื่อย่อยแป้งในข้าวโอ๊ตให้กลายเป็นน้ำตาล จึงได้รสหวานนุ่มนวลโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลเพิ่ม 

พร้อมทั้งเติมน้ำมันดอกทานตะวัน เพื่อเพิ่มความมันและเนื้อสัมผัสที่คล้ายนมวัว

และสูตรสำหรับบาริสตา ทาง Boring จะใส่น้ำมันดอกทานตะวันมากกว่า และเติมสารละลายจากธรรมชาติ ที่มีค่า pH เป็นด่าง ให้เหมาะกับการชงกาแฟ ตีฟองขึ้นง่าย และไม่แยกชั้นเมื่อโดนความร้อน 

3. สร้างแบรนด์จากความธรรมดา ให้กลายเป็นเอกลักษณ์

ชื่อ Boring มาจากแนวคิดของคุณ Morgan ที่มองว่านมโอ๊ตคือ “วัตถุดิบตัวประกอบ” ในเมนูอาหาร มันไม่ได้ต้องดูน่าตื่นเต้น เพราะหน้าที่ของมันคือ “ทำให้สิ่งอื่นอร่อยขึ้น” และนั่นคือเสน่ห์ของความธรรมดา

ส่วนนมโอ๊ตของเธอนั้น ก็เป็นแค่นมโอ๊ต “ธรรมดา ๆ” เรียบง่าย แถมยังปลูกและผลิตในประเทศ เป็นแค่นมโอ๊ตที่แสนจะ “น่าเบื่อ” หรือ “Boring Oat Milk” นั่นเอง

ส่วนธีม คุณ Morgan ได้ทำงานร่วมกับเอเจนซี โดยอยากให้แบรนด์ดูธรรมดา ตามชื่อแบรนด์ แต่ก็ต้องโดดเด่นมีเอกลักษณ์ และสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้

ทำให้ Boring มีเพียง 2 องค์ประกอบ คือ 

- สีพื้นหลังที่ไม่ฉูดฉาด 

- ฟอนต์ตรง ๆ ที่อ่านง่าย 

แต่เมื่อวางบนเชลฟ์ในซูเปอร์มาร์เก็ต ที่เต็มไปด้วยแพ็กเกจสีสด Boring ถึงจะดูเรียบ แต่ก็เตะตา อย่างที่คุณ Morgan ตั้งใจไว้

สุดท้ายแล้ว “Boring” ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า บางครั้งความธรรมดา ก็อาจเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาที่สุดก็ได้ 

และแม้ชื่อแบรนด์จะฟังดูน่าเบื่อ แต่ความสำเร็จของ Boring Oat Milk นั้น “ไม่น่าเบื่อ” เลยจริง ๆ..

References :

- Boringmilk, Stuff, Thedenizen, Thespinoff, Nzherald