Wellness 2026: ปีที่ “สุขภาพ” ไม่ใช่แค่ค่านิยม แต่คือระบบเศรษฐกิจใหม่ของโลก
Uncategorized

Wellness 2026: ปีที่ “สุขภาพ” ไม่ใช่แค่ค่านิยม แต่คือระบบเศรษฐกิจใหม่ของโลก

21 พ.ย. 2025
Wellness 2026: ปีที่ “สุขภาพ” ไม่ใช่แค่ค่านิยม แต่คือระบบเศรษฐกิจใหม่ของโลก
โดย นพ. ตนุพล วิรุฬหการุญ (หมอแอมป์)
ปี 2026: จุดเปลี่ยนจาก “ดูแลสุขภาพส่วนตัว” → “ระบบเศรษฐกิจสุขภาพระดับโลก”
ข้อมูลล่าสุดจากรายงาน Global Wellness Economy Monitor 2025 (GWI) ชี้ชัดว่า…
เศรษฐกิจเวลเนสโลกปี 2026 จะขยายสู่ 7.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 6.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 และจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.6% จนแตะราว 9.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2029 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 7.1% ของ GDP โลก (ปี 2024 อยู่ที่ 6.12%)
นั่นหมายความว่า
“สุขภาพ” ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัวอีกต่อไป แต่คือ “พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ของโลกใบนี้
? เทรนด์ Wellness ปี 2026 ที่ประเทศไทยต้องรู้
1) Wellness Real Estate โตเร็วที่สุดในโลก
ปี 2026 จะพุ่งแตะ 746 พันล้านดอลลาร์ ก่อนจะทะลุ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2029
เติบโตเฉลี่ย 15.2% ต่อปี (สูงกว่าตลาดอสังหาฯ ปกติหลายเท่า)
บ้าน–คอนโด–อาคาร–รีสอร์ตยุคใหม่ต้องออกแบบเพื่อ “สุขภาพผู้คนก่อนสวยงาม” เช่น
• อากาศดี
• แสงดี
• เสียงดี
• นอนดี
• เดินได้ ออกกำลังกายง่าย
• มีพื้นที่สีเขียวและชุมชนเชื่อมโยงกัน
หมอแอมป์เรียกสิ่งนี้ว่า: “บ้านที่รักษาเราได้”
2) Mental Wellness มาแรงไม่หยุด
มูลค่าแตะ 331 พันล้านดอลลาร์ในปี 2026 และเติบโตเฉลี่ย 10.1% ต่อปี
คนทั้งโลกต้องการ
• การนอนดี
• การจัดการความเครียด
• พื้นที่พักใจ
• เครื่องมือฟื้นฟูสมอง
ข้อมูล GWI สะท้อนว่า “คนรุ่นใหม่ทั่วโลกเครียดที่สุดในประวัติศาสตร์”
จึงไม่แปลกที่ Sleep Economy, Aromatherapy, Mindfulness, Sound Healing จะเติบโตแบบก้าวกระโดด
3) แพทย์แผนดั้งเดิมและ T&CM ใกล้แตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์
ปี 2026 คาดการณ์ 756.6 พันล้านดอลลาร์ ก่อนจะทะลุ “ล้านล้าน” ในปี 2029
เติบโตเฉลี่ยถึง 10.8% ต่อปี—หนึ่งในหมวดที่โตรวดเร็วที่สุด
คนกลับมาเชื่อใน “รากวัฒนธรรมสุขภาพของชาติ”
เช่น แพทย์แผนจีน แพทย์อินเดีย (Ayurveda) แพทย์แผนไทย ญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึงสมุนไพรไทย
เพราะผู้คนต้องการสิ่งที่ เป็นธรรมชาติ + ปลอดภัย + ปรับใช้ในชีวิตจริง
4) Wellness Tourism = ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ โตแบบติดปีก
ปี 2026 แตะ 1.078 ล้านล้านดอลลาร์
โตเฉลี่ย 9.1% ต่อปี และเป็นสัดส่วน 17.6% ของการท่องเที่ยวโลก
• ผู้เดินทางต้องการกำลังใจ
• ต้องการพักใจ พักกาย
• ต้องการสถานที่ที่พาเขากลับมาเป็น “ตัวเองที่ดีที่สุด”
ประเทศไทยมีศักยภาพสูงมาก ทั้งแพทย์ บุคลากรอาหารดี–การบริการเป็นเลิศ–ธรรมชาติเด่น
หมอแอมป์ขอเรียกสิ่งนี้ว่า
“Wellness Soft Power ของไทย กับภารกิจ Wellness Hub Thailand”
5) Public Health & Prevention & Preventive Medicine = กลยุทธ์ ROI สูงสุด
-Public Health & Prevention (การป้องกันโรคระดับชาติ)
➤ อัตราเติบโตปี 2024–2029 : 3.3% ต่อปี
เหตุผลที่โตน้อยกว่าเฉลี่ย:
• หลังโควิด จัดสรรงบป้องกันโรคลดลงทั่วโลก
• หลายประเทศลดงบวัคซีน การตรวจคัดกรอง การสื่อสารสุขภาพ
• งบประมาณเคลื่อนกลับสู่ระดับก่อน COVID-19
• หลายรัฐบาล “ตัดงบสาธารณสุขเชิงป้องกัน” เพราะประเมินผลระยะสั้นได้ยาก
แต่แม้โตช้า หมวดนี้เป็น “หมวด ROI สูงสุด”
รายงาน WHO ชี้ว่า
“ลงทุน 1 เหรียญในระบบป้องกันสุขภาพ = ได้กลับมา 35 เหรียญ”
สอดคล้องกับงานวิจัยของ Masters et al., 2017 (Journal of Epidemiology & Community Health, BMJ Group)
ที่พบว่า
“การลงทุนด้านสาธารณสุขให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 14.3 เท่า”
และอาจสูงถึง
• 27.2 เท่า ระดับประเทศ
• 34.2 เท่า ด้านการป้องกันโรค
• 46.5 เท่า ด้านนโยบาย【Masters R et al., 2017】
นั่นหมายถึง…
ประเทศที่ลงทุนสุขภาพก่อน จะเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วกว่าชาติที่เน้นรักษาปลายเหตุ
-Personalized Medicine (การแพทย์เฉพาะบุคคล / เวชศาสตร์แม่นยำ)
➤ อัตราเติบโตปี 2024–2029 : 9.3% ต่อปีหมวดนี้โต เร็วมากกว่า 3 เท่า ของ Public Health เพราะแรงขับเคลื่อนดังนี้:
• การตรวจ DNA / Epigenetics / Telomere / Longevity Biomarkers เพิ่มขึ้นทั่วโลก
• Wearables + AI + Blood Biomarkers → ทำได้ง่ายขึ้น ถูกลง
• คนต้องการ “ตรวจลึก–รู้ก่อน–ป้องกันก่อน”
• คลินิก Longevity / Wellness Clinics กำลังขยายตัวทั่วโลก
• Demand จากผู้ที่ใช้ GLP-1 / Anti-aging Therapy / Hormone Optimization ทำให้ตลาดโตเพิ่ม
“ภาพใหญ่คือ…โลกกำลังเปลี่ยนจาก ‘รักษาเมื่อป่วย’ → ‘ป้องกันก่อนป่วย’
แต่การลงทุนภาครัฐโตช้า (3.3%)
ในขณะที่ประชาชนและภาคเอกชนหันไปลงทุนตรวจลึกแบบ Personalized Medicine ที่โตถึง 9.3% ต่อปี
นี่คือจุดที่ Wellness & Longevity Clinic จะเป็นตัวขับเคลื่อนอนาคตระบบสุขภาพโลก”
6) อาหารสุขภาพ ,แร่ธาตุ วิตามิน , อาหารลดน้ำหนัก 1.36 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2026
มูลค่าปี 2024 = 1.275 ล้านล้านดอลลาร์
คาดการณ์ปี 2026 = 1.364 ล้านล้านดอลลาร์
คาดการณ์ปี 2029 = 1.539 ล้านล้านดอลลาร์
อัตราเติบโตเฉลี่ย 2024–2029 = 3.9% ต่อปี
ทำไมเติบโตแค่ 3.9%?
GWI อธิบายชัด:
1) เงินเฟ้อผลักราคาขึ้น แต่ไม่ได้สะท้อนยอดขายที่แท้จริง
2) การแข่งขันรุนแรง + การตลาดเกินจริง
3) คน 2.6 พันล้านคนทั่วโลก ‘จ่ายไม่ไหว’ สำหรับอาหารสุขภาพ
เทรนด์อาหารสุขภาพปี 2026
1) Gut Health มาแรงที่สุด
ตลาดอาหารที่เกี่ยวกับลำไส้–ไมโครไบโอมโตเร็ว โดยเฉพาะ:
• โปรไบโอติก
• พรีไบโอติก
• Fiber-based food
• Fermented food
• Plant-based “ที่เป็นธรรมชาติจริงๆ”
เพราะคนเชื่อมโยงได้แล้วว่า
“ลำไส้ = ภูมิคุ้มกัน = สมอง = อารมณ์“
2) Brain Food + Mood Food
ปี 2026 โฟกัสใหญ่คือ
• อาหารช่วยสมาธิ
• อาหารลดเครียด
• อาหารส่งเสริมความจำ
• Omega-3
• Antioxidant-rich diet
ตลาดนี้โตเพราะความเครียดโลกสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (ข้อมูลประกอบจาก GWI)
3) GLP-1 Lifestyle & High-Protein Demand
เมื่อผู้คนทั่วโลกใช้ GLP-1 เพื่อลดน้ำหนัก → ความต้องการ
• high-protein food
• nutritionally complete meal
• low-sugar snack
เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
ปี 2026 = ยุคที่โปรตีนคุณภาพสูงและอาหารลดน้ำตาลมาแรงที่สุด
4) “Real Food Movement” กลับมา
หลังจากความสับสนกับอาหารแปรรูปสุขภาพปลอม ๆ
กระแส “Real Food Only” จะกลับมานำตลาด 2026–2029
คืออาหารธรรมชาติ–ใกล้ดั้งเดิมที่สุด
หมอแอมป์เรียกว่า:
“อาหารจริง = ร่างกายจริง = สุขภาพจริง”
5) Sustainable & Ethical Eating
คนรุ่นใหม่สนใจว่าอาหารมาจากไหน
• ปลอดสาร?
• ใครปลูก?
• ยั่งยืนไหม?
• คาร์บอนฟุตพรินต์เป็นอย่างไร?
ตลาดนี้กำลังโตแบบเนิบ ๆ แต่ “ไปยาว” (Long-run megatrend)
6) Nutritional Transparency
กฎหมายหลายประเทศเริ่มบังคับ label แบบ “อ่านง่าย–รู้จริง”
ทำให้ปี 2026 ผู้ผลิตต้องโปร่งใสขึ้น
ผู้บริโภคต้อง “ฉลาดกว่าโฆษณา”
ทั้งนี้ GWI ระบุว่าอาหารสุขภาพจำนวนมาก “ราคาเกินจริงเมื่อเทียบกับคุณประโยชน์”
ปีหน้า Functional Food, Brain Food, Gut Health, Protein-based Diet จะโตแรง
แต่หมอขอย้ำว่า “ต้องดูฉลากให้เป็น”
เพราะของบางอย่างโฆษณาว่าดี อาจไม่ได้ดีในชีวิตจริง
7) Workplace Wellness โตช้า แต่จำเป็นที่สุดในโลกที่กำลังเครียด
โตเพียง 2.2% ต่อปี เพราะหลายบริษัทไม่เชื่อว่า
“ออกกำลังกายในออฟฟิศอย่างเดียวแก้ปัญหาได้”
โลกกำลังขยับไปสู่
• งาน 4 วัน
• สนับสนุนการนอน
• ลดการส่งงานดึก
• สภาพแวดล้อมดี อากาศดี แสงดี
นั่นคือสิ่งที่หมอแอมป์อยากช่วยผลักดันให้เกิดขึ้นในไทย
Wellness Workplace 5.0 = งานดี คนดี ประเทศดี
สรุป Insight
1) Wellness Real Estate คือ Supertrend ทั่วโลก
• เมือง/คอนโด/ออฟฟิศ Healthy = อนาคตของเมือง
• WELL / Fitwel / IWBI โตขึ้น 50 เท่าในช่วง 7 ปี
2) Mental Wellness คือ Mega-Consumer Trend ที่เติบโตเร็วสุด
• Brain health, Sleep economy, Functional drinks, Sound/Music therapy
• Young Gen ทำให้ตลาดนี้โตมหาศาล
3) MENA จะเป็นภูมิภาคที่โตเร็วที่สุดด้าน Wellness Tourism
• UAE, Saudi, Oman มาแรง
• โอกาสมหาศาลสำหรับประเทศไทย
4) ผู้บริโภคต้องการ Healthspan ไม่ใช่แค่ Healthcare
ผู้บริโภคทั่วโลกกำลัง shift จาก “รักษา” → “ป้องกันและเพิ่มคุณภาพชีวิต”
หมอแอมป์สรุป: Wellness 2026 คือ “โครงสร้างใหม่ของโลก”
• Wellness economy = คาดการว่าขนาดเศรษฐกิจมูลค่าถึง 7.9 ล้านล้านดอลลาร์
• บ้าน สุขภาพจิต อาหาร ท่องเที่ยว ป้องกันโรค = เติบโตเร็วที่สุด
• ประเทศที่เพิ่ม Healthspan ของประชาชนได้ → GDP โตเร็วที่สุด
• ผู้คนกำลังวิ่งเข้าหา “ความหมายของชีวิต + สุขภาพที่ยั่งยืน”
“ปี 2026 สุขภาพไม่ใช่แค่ตัวเลือก แต่คือพลังเศรษฐกิจใหม่ของครอบครัว ของธุรกิจ และของประเทศ”
หมออยากชวนให้ทุกคนเริ่มวันนี้ — ไม่ต้องรอวันพรุ่งนี้
นอนดี กินดี ขยับทุกวัน ดูแลใจ และสร้างพลังชีวิตให้ตัวเอง
เพราะทุกวิถีชีวิตของเรา…กำลังเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจสุขภาพของทั้งโลก…หมอแอมป์
REFERENCES
Global Wellness Institute (2025). Global Wellness Economy Monitor 2025. Miami, FL: GWI.Masters, R., Anwar, E., Collins, B., Cookson, R., & Capewell, S. (2017).
Return on investment of public health interventions: a systematic review.
Journal of Epidemiology & Community Health, 71(8), 827–834. (BMJ Publishing Group)World Health Organization (2022).
A Healthy Return: Investment Case for a Sustainably Financed WHO.
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.