SUNNE Voyage เปลี่ยนเรือประมง ให้เป็นธุรกิจล่องเรือหรู
LifestyleBusiness

SUNNE Voyage เปลี่ยนเรือประมง ให้เป็นธุรกิจล่องเรือหรู

13 ม.ค. 2021
SUNNE Voyage เปลี่ยนเรือประมง ให้เป็นธุรกิจล่องเรือหรู /โดย ลงทุนเกิร์ล
ภาพจำของเรือประมง ที่เราคุ้นเคย อาจเป็นตอนที่เราขึ้นเรือข้ามฟากไปเที่ยวยังเกาะต่างๆ
โดยจะเป็นเรือขนาดใหญ่ มีสีฉูดฉาด บ้างก็เป็นสีส้มหรือน้ำเงิน
ที่แล่นและเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
เรือเหล่านี้ ดูผิวเผินอาจไม่สามารถนำมาต่อยอดอะไรได้
นอกจากการเป็นแหล่งรายได้ของชาวประมง ที่เอาไว้ออกหาปลาหรือตกหมึก
หรือเป็นเรือรับ-ส่งผู้โดยสาร
แต่มีอยู่ธุรกิจหนึ่ง ชื่อว่า SUNNE Voyage อ่านว่า ซัน วอยาจ
ได้เปลี่ยนเรือประมงรูปแบบเดิมๆ นี้ ให้กลายเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้
โดย ซัน วอยาจ จะมีแนวคิดในการทำธุรกิจที่น่าสนใจอย่างไร?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
ซัน วอยาจ เกิดจากผู้ก่อตั้ง 5 คน คือ
คุณวินชนะ พฤกษานานนท์, คุณธัญญ์ ภัคพงษ์พันธุ์ชัย,
คุณกิตติธัช สุดประเสริฐ, คุณกัญจน์ สุวรรณสิทธิ์ และคุณนิตยา ชนานุกุล
ซึ่งทุกคนมีทำงานประจำทำอยู่แล้ว แต่ตั้งใจจะทำธุรกิจล่องเรือร่วมกันเป็นธุรกิจเสริม
จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้ เกิดขึ้นจากความสงสัย
ตั้งแต่เด็กผู้ก่อตั้งทุกคนได้เห็นเรือประมง​ และสงสัยมาตลอดว่า
ทำไม​เรือบ้านเราถึงต้องมี​สีฉูดฉาด​ โดยเฉพาะสีเขียว​ สีฟ้า​ หรือสีแดง ​
เมื่อเวลาผ่านไป ธุรกิจท่องเที่ยวในไทยเริ่มเป็นที่นิยม
ก็เริ่มมีคนนำเรือประมงมาดัดแปลงเป็นเรือท่องเที่ยวมากขึ้น​
แต่สิ่งที่ยังขาดคือ ดีไซน์และเอกลักษณ์ของเรือท่องเที่ยว
ที่ไม่ได้ต่างจากเรือประมงสีฉูดฉาดรูปแบบเดิมเท่าไรนัก
นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดธุรกิจล่องเรือ ซัน วอยาจ ขึ้น
โดยจริงๆ แล้ว Pain point ที่ผู้ก่อตั้งทั้ง 5 เชื่อเหมือนกันคือ
ช่างเรือที่มีฝีมือในบ้านเรา ยังมีอีกมาก
เพราะงานไม้บนเรือทุกลำ คืองานทำมือแทบจะทั้งหมดเลยก็ว่าได้

และเรือหลายๆ​ ลำที่แล่นอยู่ ก็มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า​ 50​ ปี​
ดังนั้นช่างเรือ จึงเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทั้งฝีมือและความชำนาญอย่างมาก ​ถึงจะสามารถทำได้​
ความตั้งใจของ ซัน วอยาจ คือการทำให้อาชีพงานฝีมือเหล่านี้มีคุณค่ามากขึ้น​
นำเสนอในแบบที่เข้ากับยุคสมัย อีกทั้งยังสร้างรายได้​
สร้างความภูมิใจให้กับช่างฝีมือ​ และสร้างงานที่มีคุณค่าให้กับสังคมได้ด้วย​
และเมื่อช่างฝีมือเหล่านี้ได้รับการสนับสนุน
จากเรือประมงธรรมดาๆ ที่คนไม่ได้ให้ความสำคัญ
จึงกลายเป็นเรือท่องเที่ยวเรียบหรู ที่ไม่ว่าใครก็อยากมาโดยสาร
ถึงแม้เรือ ซัน วอยาจ จะเปิดตัวได้ไม่นาน
ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว แต่ผลตอบรับก็ถือว่าดีมากๆ
โดยกลุ่มลูกค้าที่เปิดให้มาลองใช้บริการในช่วงแรกคือ กลุ่มเพื่อนๆ และคนรู้จัก
จุดประสงค์เพื่อต้องการเก็บความคิดเห็นจากผู้ใช้จริง และเอามาพัฒนาปรับปรุงต่อ
ก่อนจะเปิดให้บริการกับกลุ่มลูกค้าทั่วไป
ซึ่งเสียงตอบรับจากลูกค้าหลังจากที่ได้มาใช้บริการ คือ
ลูกค้าหลายๆ คนเข้าใจว่า ซัน วอยาจ ต้องการจะสื่อสารอะไร
ได้เห็นบรรยากาศ ความรู้สึก Mood&Tone ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนเรือ ที่แบรนด์อยากให้เป็น
ทำให้ทีมงานรู้สึกภูมิใจกับสิ่งนี้มาก
โดยเรือ ซัน วอยาจ เปิดให้บริการทั้งแบบ Joined Group และ Private Group
ราคาเริ่มต้นตกคนละประมาณ 2,000 บาท
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าเลย สำหรับคนที่อยากสัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่
โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้บริการหลักๆ คือ กลุ่มคนวัยทำงานอายุ 25-35 ปี และมีกลุ่มครอบครัวอยู่บ้าง
และถ้าพิจารณาถึงภาพรวมแล้ว จุดเด่นของ ซัน วอยาจ ก็คือ
1) ดีไซน์
เพราะตัววัสดุของเรือที่เป็นไม้ทั้งหมด เมื่อนำมาดีไซน์และวางคอนเซปต์ใหม่ ทำให้เรือ ซัน วอยาจ มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และคงไม่มีใครคิดว่าจริงๆ แล้วเรือหรูลำนี้ จะมาจากเรือประมง
2) เส้นทางล่องเรือ
ที่เกิดจากการเล็งเห็นช่องทางใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในทะเลภาคตะวันออก
และที่สำคัญคือ ลูกค้าที่ซื้อทริปล่องเรือของ ซัน วอยาจ จะได้สิทธิพิเศษเจ้าเดียวในการมาเล่นน้ำ และดำน้ำที่เกาะมันนอกอีกด้วย
3) ธุรกิจเกิดขึ้นจากแพชชัน
คุณวินชนะ เป็นเจ้าของเกาะมันนอกอยู่แล้ว และรู้จักกับเพื่อนๆ อีก 4 คน
ที่มีไลฟ์สไตล์และแพชชันคล้ายๆ กัน
อยากทำอะไรก็ได้ที่เราชอบ และอยากสนับสนุนอาชีพช่างเรือไทย
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำโปรเจกต์นี้
และค่อยๆ สร้างเรือ ซัน วอยาจ จนเสร็จ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ปี
ยิ่งไปกว่านั้น ซัน วอยาจ แม้จะเริ่มต้นธุรกิจได้ไม่กี่เดือน
แต่ก็มีการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ในระยะสั้น จะมีการปรับของที่ระลึก ให้เหมาะสมกับช่วงเวลา หรือฤดูกาล
เพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับ ซันวอยาจ เช่น แพไม้, แพดเดิลบอร์ด, คายัค
ส่วนระยะยาว ซัน วอยาจ มองถึงการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
ด้วยการเข้าไปถึงชุมชน และนำเอาผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นมาส่งเสริม
รวมถึงการลดปริมาณขยะพลาสติกให้ได้มากที่สุด หรือไม่ใช้เลย
เพื่อเป็นตัวอย่างของการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกนั่นเอง
จากเรื่องราวทั้งหมดของ ซัน วอยาจ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า
แรงบันดาลใจอยู่รอบตัวเราจริงๆ ค่ะ
ขอเพียงช่างสังเกต นำสิ่งที่มีอยู่แล้ว มาปรับนิด ผสมหน่อย
ก็สามารถเกิดเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้แล้ว
และทางซัน วอยาจ ยังฝากข้อคิดเล็กๆ ทิ้งท้ายไว้กับเราว่า
ไม่ว่าแพชชันของเราจะเป็นอะไรก็ตาม
ถ้าเราใส่ใจในทุกรายละเอียดที่เราทำ สิ่งนั้นย่อมได้ผลลัพธ์ที่ดี
แต่เท่านี้ยังอาจไม่พอ เพราะเราไม่สามารถเติบโตได้เพียงลำพัง
ดังนั้นการเผื่อแผ่ความใส่ใจไปถึงกลุ่มคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น
อย่างซัน วอยาจ ที่ได้ให้ความสำคัญกับอาชีพท้องถิ่น ชุมชน และสิ่งแวดล้อม
ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่เพียงแค่ดี แต่จะยั่งยืนอีกด้วย..
Reference:
- สัมภาษณ์โดยตรงกับ ผู้ก่อตั้ง ซัน วอยาจ
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.