Business
Propfit สตาร์ตอัปสวนกระแสอสังหา ยอดขาย 1,400 ล้านในปีเดียว
5 ก.พ. 2021
ภาพรวมปีนี้ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ถือว่าอาจจะไม่คึกคักเท่าไรนัก
เรื่องแรกก็มาจากผลกระทบของโรคระบาด ที่อาจส่งผลให้เกิดการชะลอตัวฝั่งผู้ซื้อ
เรื่องแรกก็มาจากผลกระทบของโรคระบาด ที่อาจส่งผลให้เกิดการชะลอตัวฝั่งผู้ซื้อ
นอกจากนั้น ยังมีมาตรการควบคุมการกู้เงินเพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ผ่านการกำหนด LTV (Loan To Value) หรือ สัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน
ผ่านการกำหนด LTV (Loan To Value) หรือ สัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
ถ้าบ้านราคา 10 ล้านบาท อัตรา LTV 80% แปลว่า เราจะกู้ได้สูงสุด 8 ล้านบาท
ส่วนเงินอีก 2 ล้านบาท ผู้กู้จะต้องหาจากแหล่งอื่น เพื่อนำไปวางเป็นเงินดาวน์
ถ้าบ้านราคา 10 ล้านบาท อัตรา LTV 80% แปลว่า เราจะกู้ได้สูงสุด 8 ล้านบาท
ส่วนเงินอีก 2 ล้านบาท ผู้กู้จะต้องหาจากแหล่งอื่น เพื่อนำไปวางเป็นเงินดาวน์
โดยจากมาตรการที่บังคับใช้ จะมีการกำหนดให้การกู้เงินซื้อบ้านที่มีมูลค่าสูง และบ้านตั้งแต่หลังที่ 2 เป็นต้นไป ได้ LTV ที่ลดลงเรื่อยๆ
พูดง่ายๆ ก็คือผู้ซื้อ จะต้องหาเงินเพิ่มมากขึ้นเพื่อมาใช้เป็นเงินดาวน์นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ในภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบนี้
กลับมีสตาร์ตอัปน้องใหม่ในวงการ ที่เติบโตจนทำยอดขายแตะ 1,400 ล้านบาทภายใน 1 ปี
กลับมีสตาร์ตอัปน้องใหม่ในวงการ ที่เติบโตจนทำยอดขายแตะ 1,400 ล้านบาทภายใน 1 ปี
ที่น่าสนใจ คือ หนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ก็เป็นผู้หญิงอีกด้วย
เรามาทำความรู้จักกับ Propfit สตาร์ตอัปคนไทย ที่สามารถโตสวนกระแสอสังหาขาลงแบบนี้ได้กันค่ะ
Propfit เป็นแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์
ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยปิดการขายให้กับนายหน้าอสังหาหรือเอเจนต์
ซึ่งถือเป็นตัวละครที่สำคัญในกระบวนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แต่มักจะถูกมองข้ามโดยผู้บริโภค
ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยปิดการขายให้กับนายหน้าอสังหาหรือเอเจนต์
ซึ่งถือเป็นตัวละครที่สำคัญในกระบวนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แต่มักจะถูกมองข้ามโดยผู้บริโภค
ปัญหาที่ Propfit พบก็คือ ผลิตภัณฑ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ มีการจับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันไป
แต่ผลิตภัณฑ์ทุกเซกเมนต์ กลับปะปนกันและกระจัดกระจายอยู่เต็มท้องตลาด
เหล่า “เอเจนต์” จึงยังเหมือนขาดตัวช่วย
ที่จะทำให้พวกเขา ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
แต่ผลิตภัณฑ์ทุกเซกเมนต์ กลับปะปนกันและกระจัดกระจายอยู่เต็มท้องตลาด
เหล่า “เอเจนต์” จึงยังเหมือนขาดตัวช่วย
ที่จะทำให้พวกเขา ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ซึ่งเรื่องพวกนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นสิ่งที่คุณออม ณิชชา จารุกิตต์ธนา ผู้ร่วมก่อตั้งของ Propfit
ได้เล็งเห็นโอกาส หลังจากที่เป็นพนักงานประจำ อยู่ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำมานานกว่า 5 ปี
นั่นก็คือ ช่องโหว่ในขั้นตอนการปิดการขายของฝั่งเอเจนต์
รวมถึงการเข้าถึงลูกค้าของฝั่งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ได้เล็งเห็นโอกาส หลังจากที่เป็นพนักงานประจำ อยู่ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำมานานกว่า 5 ปี
นั่นก็คือ ช่องโหว่ในขั้นตอนการปิดการขายของฝั่งเอเจนต์
รวมถึงการเข้าถึงลูกค้าของฝั่งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
เธอกับผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 ท่าน จึงช่วยกันสร้าง Propfit ขึ้นมา
เพื่อทำให้เกิดเป็น Sale-Driven Real Estate Agent Network
ที่จะช่วยให้ฝั่งเอเจนต์ปิดการขายได้สะดวกรวดเร็วขึ้น รวมถึงเป็นการผลักดันยอดขายให้กับฝั่งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปในตัว
เพื่อทำให้เกิดเป็น Sale-Driven Real Estate Agent Network
ที่จะช่วยให้ฝั่งเอเจนต์ปิดการขายได้สะดวกรวดเร็วขึ้น รวมถึงเป็นการผลักดันยอดขายให้กับฝั่งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปในตัว
จริงๆ แล้ว เดิมที Propfit ต้องการจะเจาะตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสอง
แต่เมื่อทำไปได้สักพัก ก็ตัดสินใจที่จะปรับเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย
เป็นตลาดคอนโดมิเนียมมือหนึ่งภายในเวลาไม่นาน
แต่เมื่อทำไปได้สักพัก ก็ตัดสินใจที่จะปรับเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย
เป็นตลาดคอนโดมิเนียมมือหนึ่งภายในเวลาไม่นาน
จนสามารถทำยอดขายรวม 1,400 ล้านภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี
ความคล่องตัวในการปรับตัวนี้ ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากขนาดขององค์กรที่ยังไม่ใหญ่มาก
โดยปัจจุบัน Propfit มีพนักงานเพียง 7 คนเท่านั้น ซึ่งจำนวนนี้รวมผู้ก่อตั้งอีก 3 คนเข้าไปแล้ว
ซึ่งแม้ว่าคนจะน้อย แต่ก็มีผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าจำนวนคนไม่ได้เป็นส่วนสำคัญแต่อย่างใด
โดยปัจจุบัน Propfit มีพนักงานเพียง 7 คนเท่านั้น ซึ่งจำนวนนี้รวมผู้ก่อตั้งอีก 3 คนเข้าไปแล้ว
ซึ่งแม้ว่าคนจะน้อย แต่ก็มีผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าจำนวนคนไม่ได้เป็นส่วนสำคัญแต่อย่างใด
แล้วระบบการทำงานของแพลตฟอร์ม Propfit เป็นอย่างไร?
เริ่มแรก Propfit จะเตรียมสต็อกสินค้าให้กับ เอเจนต์ที่ต้องการเป็น “Co-broke” กับแพลตฟอร์ม
ซึ่ง Co-broke สามารถดึงสต็อกเหล่านี้ไปขายให้กับลูกค้าได้ทันที
โดยที่ระบบจะคอยสนับสนุนตลอดกระบวนการขาย จนกระทั่งสามารถปิดการขายได้ ผ่านเครื่องมือต่างๆ
โดยที่ระบบจะคอยสนับสนุนตลอดกระบวนการขาย จนกระทั่งสามารถปิดการขายได้ ผ่านเครื่องมือต่างๆ
- Lead Generation ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีทั้งการติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่ได้อยู่เสมอ
ทำให้ ได้รายชื่อของลูกค้าที่สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์อย่างแท้จริง โดยที่เอเจนต์ไม่ต้องลำบากทำการตลาดเอง
ทำให้ ได้รายชื่อของลูกค้าที่สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์อย่างแท้จริง โดยที่เอเจนต์ไม่ต้องลำบากทำการตลาดเอง
- Stocks & Agents Matching หรือระบบการจับคู่ Co-broke และสต็อกบนแพลตฟอร์ม
ผ่านการติดตามผลอย่างใกล้ชิดว่า ใครมีความเชี่ยวชาญในการขายทำเลไหน
ทำให้สามารถจัดสรรงานตามความถนัด เพิ่มยอดขายของตัวเอเจนต์ และยอดขายรวมของแต่ละโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผ่านการติดตามผลอย่างใกล้ชิดว่า ใครมีความเชี่ยวชาญในการขายทำเลไหน
ทำให้สามารถจัดสรรงานตามความถนัด เพิ่มยอดขายของตัวเอเจนต์ และยอดขายรวมของแต่ละโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- CRM Backbone ระบบการบริหารทีม Co-broke
ซึ่งจะมาช่วยติดตามผลการทำงาน รวมถึงทำให้ทีม Propfit สามารถช่วยเหลือเอเจนต์ในระบบได้อย่างทันท่วงที
ซึ่งจะมาช่วยติดตามผลการทำงาน รวมถึงทำให้ทีม Propfit สามารถช่วยเหลือเอเจนต์ในระบบได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนั้นยังมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Data-driven Marketing
หรือการตลาดที่ใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน
มาช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการใช้เครื่องมือต่างๆ ให้กับทีม Co-broke อีกด้วย
หรือการตลาดที่ใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน
มาช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการใช้เครื่องมือต่างๆ ให้กับทีม Co-broke อีกด้วย
ซึ่งเมื่อ Co-broke สามารถปิดการขายได้สำเร็จ ก็จะได้รับส่วนแบ่งจากการขาย
ด้วยระบบลักษณะนี้ ยังทำให้ Propfit เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ประกอบการขนาดย่อม-กลาง
ที่มองหาวิธีการขายในรูปแบบใหม่ๆ แต่ไม่ต้องการมีต้นทุนคงที่สำหรับทีมขาย
โดยเฉพาะในสภาพตลาดที่มีความผกผัน การดำเนินธุรกิจที่สามารถยืดหยุ่นได้ ก็เป็นเรื่องที่ตอบโจทย์
ที่มองหาวิธีการขายในรูปแบบใหม่ๆ แต่ไม่ต้องการมีต้นทุนคงที่สำหรับทีมขาย
โดยเฉพาะในสภาพตลาดที่มีความผกผัน การดำเนินธุรกิจที่สามารถยืดหยุ่นได้ ก็เป็นเรื่องที่ตอบโจทย์
ปัจจุบัน Propfit มี Co-broke ที่ลงทะเบียนและยัง Active อยู่ในระบบมากถึง 700 คน
รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากพาร์ตเนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ๆ จำนวนมาก
เช่น AP, Ananda, SC Asset, Pruksa และแสนสิริ
รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากพาร์ตเนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ๆ จำนวนมาก
เช่น AP, Ananda, SC Asset, Pruksa และแสนสิริ
ซึ่งในปีหน้า Propfit ก็ตั้งเป้าว่าจะโตอย่างก้าวกระโดด
และทำยอดขายให้ไปถึง 2,500 ล้านบาท
และทำยอดขายให้ไปถึง 2,500 ล้านบาท
เรียกได้ว่า Propfit เป็นสตาร์ตอัปน้องใหม่ที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นสำหรับตัวแทนขายหรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
Propfit ก็ถือเป็นอีกหนึ่งพาร์ตเนอร์ที่น่าสนใจในเวลานี้..
Propfit ก็ถือเป็นอีกหนึ่งพาร์ตเนอร์ที่น่าสนใจในเวลานี้..