ลองจินตนาการว่า ถ้าลูกน้อยของเราผื่นขึ้นร้องไห้ไม่หยุดตอน 4-5 ทุ่ม เราจะทำอย่างไร?
หรืออย่างในช่วงล็อกดาวน์ในปีก่อน หนึ่งในสถานที่ที่สาวๆ หลายคน
อยากให้เปิดบริการมากที่สุด ก็น่าจะเป็น “คลินิกเสริมความงาม”

ซึ่งถึงแม้ว่าจะร้อนใจแค่ไหน กว่าจะเดินทาง กว่าจะรอหมออีกเป็นชั่วโมง
หรือในกรณีหลัง คือต้องรอให้รัฐบาลประกาศผ่อนปรนมาตรการ

นอกจากนั้น โรคผิวหนังยังเป็นสิ่งที่คนมักมองข้าม
อย่างบางครั้งสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นสิว จริงๆ แล้วอาจจะเป็นฝีก็ได้
ซึ่งถ้าฝีเกิดการอักเสบขึ้นมา ก็จะเป็นอันตราย

ดังนั้นการไปพบแพทย์ผิวหนังตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะบรรเทาความรุนแรงของโรคเหล่านี้ได้
และถ้าจะมีช่องทางการพบหมอที่ไม่ลำบาก และทุกคนเข้าถึงได้ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์

พอเรื่องเป็นแบบนี้ พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือคุณหมอผิง จึงได้ก่อตั้ง SkinX แพลตฟอร์มพบหมอผิวหนังออนไลน์แบบครบวงจรขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้

คุณหมอผิงเป็นใคร?

จริงๆ แล้ว หลายคนน่าจะพอคุ้นหน้าคุ้นตาคุณหมอผิงอยู่บ้าง
เพราะเธอโด่งดังในโลกโซเชียลมีเดียอยู่พอตัว และยังเป็นนักเขียนควบคู่ไปด้วย
ซึ่งคุณหมอผิง เป็นแพทย์วุฒิบัตรเวชศาสตร์ชะลอวัยจากสหรัฐอเมริกา
และปัจจุบันยังมีดีกรีเป็นถึงรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิทด้วย

สำหรับบทบาทงานด้านการบริหาร คุณหมอผิงจะเป็นผู้ดูแลในส่วนของ “นวัตกรรม”
อย่างโปรเจกต์แรกที่ทำ คือ แอปพลิเคชัน Samitivej Plus และอีกโปรเจกต์หนึ่งที่ทำก็คือ Samitivej Virtual Hospital
บริการรักษาทางออนไลน์ หรือที่เรียกว่า “Telemedicine”

แม้ว่าในประเทศไทยเราจะยังไม่ค่อยคุ้นกับคำนี้มากนัก
แต่ในต่างประเทศกลับเริ่มใช้กันแพร่หลายมากขึ้นแล้ว
ซึ่ง Telemedicine จะเข้ามาช่วยอุดช่องว่างและข้อจำกัดต่างๆ
และให้ผู้ป่วย สามารถเข้าถึงแพทย์ได้สะดวกขึ้น

ยิ่งเมื่อเกิดการระบาดของโควิด 19 คนก็เริ่มให้ความสนใจและเห็นถึงความสำคัญของ Telemedicine กันมากขึ้นตามไปด้วย

ตอนนั้นเองที่คุณหมอผิง มองว่านอกจากโรคทั่วไป โรคผิวหนังเองก็เป็นปัญหาของหลายคนเช่นกัน
จึงรู้สึกว่า ถ้ามีระบบที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อโรคผิวหนัง ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดี

ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของ SkinX นั่นเอง

แล้ว SkinX คืออะไร?

SkinX คือ แพลตฟอร์มแรกที่เป็นการหาหมอผิวหนังออนไลน์โดยเฉพาะ
ซึ่งเกิดขึ้นมาจากความร่วมมือของ SCB 10X
และดิจิทัล เฮลท์ เวนเจอร์ บริษัทในเครือโรงพยาบาลสมิติเวช

ซึ่งบน SkinX จะมีการรวมเอาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
จากหลายโรงพยาบาลและคลินิกดังๆ ไว้อยู่บนแพลตฟอร์มเดียว

แก้ปัญหาเรื่องการเดินทาง ไปถึงแล้วก็ต้องรอคิว
รวมถึงบ้างครั้งก็ไม่รู้ว่าจะได้รักษากับหมอท่านไหน
รู้ตัวอีกทีก็ต้องควักเงินในกระเป๋าจ่ายค่ายากับค่ารักษาเลย

ซึ่งทั้งหมดนี้ SkinX จะเข้ามาปฏิวัติรูปแบบการหาหมอผิวหนังใหม่ทั้งหมด

เริ่มจากคนไข้สามารถเข้ามาในแพลตฟอร์ม เพื่อดูประวัติและรีวิวของคุณหมอแต่ละท่านได้ก่อน
เมื่อเลือกคุณหมอได้แล้ว จึงค่อยกดขอรับคำปรึกษา ซึ่งจะเป็นวิดีโอคอลคุยกันแบบเรียลไทม์

หลังจากนั้น คุณหมอจะส่งสรุปผลการรักษาให้ ป้องกันคนไข้จำไม่ได้
รวมไปถึงการสั่งยา หรือคำแนะนำว่าจะต้องไปดำเนินการรักษาอย่างไรต่อ

ที่น่าสนใจคือ คนไข้จะเห็นราคายาก่อน และเลือกได้ว่าจะรับยาจากระบบหรือไม่
ซึ่งถ้ารับ ทาง SkinX ก็จะมีบริการส่งยาถึงบ้าน พร้อมกับเภสัชกรที่จะโทรศัพท์แจ้งวิธีการใช้ยา

หรือถ้าในกรณีต้องรักษาต่อ เช่น การเลเซอร์ หรือศัลยกรรม
ก็จะมีรายชื่อและค่าใช้จ่ายของแต่ละคลินิกหรือโรงพยาบาลที่เป็นพาร์ตเนอร์
ให้คนไข้เป็นคนตัดสินใจ ว่าจะเข้ารับบริการหรือไม่ หรือจะเข้ารับบริการที่ไหน

และหลังจากเข้ารับบริการต่างๆ แล้ว จะนัดหมอเพื่อวิดีโอคอลติดตามผล ก็ทำได้เช่นเดียวกัน
เรียกได้ว่าเป็นการเชื่อมต่อระหว่างออนไลน์ และออฟไลน์ ได้อย่างลงตัว

อ่านมาถึงตรงนี้ อาจมีคนที่เริ่มสนใจ
แต่เป็นกังวลว่าโรคผิวหนังตรวจทางไกลจะเชื่อได้หรือไม่?

ปัจจุบันเรื่องนี้ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่คุณหมอผิงเล่าว่าโดยทั่วไปแล้ว จะมีคนไข้ที่ต้องการปรึกษาปัญหาด้านความงามด้วย โดยเฉพาะเรื่องสิว ที่เป็นปัญหาอันดับต้นๆ

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถวินิจฉัยได้จากรูปถ่าย
โดยเราจะต้องถ่ายรูปและส่งมาประกอบตอนที่กรอกประวัติคนไข้อยู่แล้ว
และหากเป็นปัญหาที่ไม่สามารถให้คำปรึกษาทางออนไลน์ได้ ก็จะแนะนำให้คนไข้มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิก

นอกจากนั้นยังมีความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 60 ท่าน
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแพทย์ที่ได้วุฒิบัตรตจวิทยา และมีประสบการณ์ในการรักษา
เพราะยิ่งคุณหมอมีประสบการณ์มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้การรักษาทางไกลแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น

โดยตอนนี้ SkinX ให้บริการครอบคลุมทั้งด้านความสวยความงาม เช่น การศัลยกรรมความงาม เรื่องลดน้ำหนัก และโรคเกี่ยวกับผิวหนังเรื่องผม เรื่องเล็บ และผิวหนังในเด็ก

SkinX เริ่มเปิดให้บริการแล้วในช่วงปลายปี 2020
ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแล้วกว่า 26,000 ครั้ง ซึ่งคนไข้ที่มาใช้บริการส่วนใหญ่พึงพอใจ และมีรีวิวเชิงบวกในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มของวัยรุ่นอย่างทวิตเตอร์

คุณหมอผิงปิดท้ายกับเราว่า แม้ในปัจจุบันตลาดเสริมความงามจะมีการแข่งขันสูง
SkinX ก็มองว่าตัวเองไม่ได้เข้ามาเพื่อแข่งกับใคร

แต่จะมาเป็นตัวกลาง เพื่อเชื่อมระหว่างคุณหมอ และคนไข้ เพิ่มโอกาสให้คนไข้เข้าถึงคุณหมอได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งราคาที่เริ่มต้นเพียง 250 บาท ต่อ 15 นาที
และการให้บริการถึง 23.00 น. ซึ่งในอนาคตก็มีแผนจะเปิดบริการให้ได้ถึง 24 ชั่วโมง

ที่สำคัญยังยึดหลักความโปร่งใสมากที่สุด อย่างการแสดงข้อมูลรายละเอียดทั้งราคา และรีวิว
เพื่อให้คนไข้ สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้

ดังนั้นฝั่งคลินิกหรือคุณหมอก็ต้องบริการให้ดีที่สุดตามไปด้วย
เพื่อเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมให้กับคนไข้ และเข้าถึงคนไข้ได้มากขึ้น

ซึ่งการที่มีคนเข้ามาใช้บริการกับ SkinX จึงไม่ได้ส่งผลดีต่อแพลตฟอร์มเพียงอย่างเดียว
แต่ยังให้ประโยชน์กับแพทย์ คลินิก โรงพยาบาล รวมไปถึงคนไข้อย่างเราๆ ด้วย..