Le Creuset แบรนด์ที่ขาย “หม้อ” ราคาสูงถึงหลักหมื่น /โดย ลงทุนเกิร์ล

เมื่อไม่กี่วันมานี้ บางคนอาจเห็นหม้อเหล็กใบเล็ก ๆ สีฟ้า 
ที่มีลวดลายการ์ตูนประจำชาติญี่ปุ่น อย่างโดราเอมอน แชร์ตามโซเชียลมีเดีย
ซึ่งหม้อเหล็กนี้ เป็นคอลเลกชัน “Le Creuset x Doraemon” 
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการ์ตูนแมวหุ่นยนต์ขวัญใจชาวญี่ปุ่น

แต่ทุกคนรู้หรือไม่คะว่า หม้อเหล็กหนึ่งใบในคอลเลกชันนี้ มีราคาสูงถึง 2 หมื่นบาทเลยทีเดียว

ซึ่งสำหรับกลุ่มคนชอบทำอาหาร ก็คงไม่แปลกใจกับราคานี้
และคงจะรู้จักกับ Le Creuset เป็นอย่างดี เพราะถือเป็นแบรนด์ที่เชฟดัง ๆ ระดับโลกมักเลือกใช้
แถมยังอยู่มายาวนานเกือบศตวรรษอีกด้วย

แบรนด์ Le Creuset น่าสนใจอย่างไร ทำไมถึงตั้งราคาสูงขนาดนี้แล้วยังขายได้? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

Le Creuset คือ แบรนด์เครื่องครัวชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศส อายุ 97 ปี
ที่มีความพรีเมียมและสุดแสนจะประณีต เพราะเป็นงานทำมือเกือบทุกกระบวนการ

โดยสินค้าชื่อดังของแบรนด์นี้ ก็คือ “Cast Iron” หรือ “หม้อเหล็กหล่อ”
ผลิตมาจาก “เหล็กแท้” ตามชื่อ ซึ่งความพิเศษของมันอยู่ที่ ความแข็งแรงและคงทน

และถึงแม้ว่าปัจจุบัน Le Creuset จะมีการพัฒนาและขยายผลิตภัณฑ์เครื่องครัวหลายประเภท 
ตั้งแต่หม้อเหล็กหล่อ สเตนเลส เซรามิก เป็นต้น

แต่หม้อเหล็กหล่อ ก็ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว

และที่น่าสนใจก็คือ หม้อเหล็กหล่อของแบรนด์ Le Creuset ยังเป็นสินค้าที่ปฏิวัติวงการหม้อเหล็กอีกด้วย
เพราะถือเป็นเจ้าแรก ที่สามารถผลิตหม้อเหล็กที่มีสีสันได้

ซึ่งในสมัยนั้น การเคลือบสีให้กับหม้อ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก 
และหม้อส่วนใหญ่มักจะมีเพียงแค่สีดำ หรือไม่ก็สีเทาหม่น ๆ ตามสีของเหล็กเท่านั้น

จนกระทั่ง คุณ Armand Desaegher และคุณ Octave Aubecq 
สองผู้ก่อตั้งแบรนด์ Le Creuset เห็นถึงโอกาสในการพัฒนาสินค้าจากสิ่งที่พวกเขาเชี่ยวชาญ 

โดยคุณ Desaegher เชี่ยวชาญด้านการหล่อเหล็ก
ส่วนคุณ Aubecq ชำนาญด้านการเคลือบสีอีนาเมล

พวกเขาทั้งสองจึงได้นำความสามารถมาผสมผสานกัน 
จนกลายมาเป็น หม้อเหล็กหล่อที่มีสีส้มไล่เฉดเสมือนกับเปลวไฟเป็นชิ้นแรก
โดยหม้อเหล็กตัวนี้ มีชื่อว่า “Flame” และถือว่าเป็นสีซิกเนเชอร์ของแบรนด์อีกด้วย 

และด้วยความแปลกใหม่นี้เอง ที่ทำให้สินค้าของ Le Creuset ได้ถูกส่งไปขายทั่วทั้งทวีปยุโรป จนปัจจุบันมีมากกว่า 90 สาขา ที่วางขายกว่า 60 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยเองก็เช่นกัน

แล้วอะไรที่ทำให้หม้อแบรนด์ Le Creuset ยังเป็นที่นิยมถึงปัจจุบันนี้ ? 

อันดับแรกคือ อายุการใช้งาน ที่อยู่ได้นานถึง 100 ปี 

ซึ่งถ้าเราไม่ทำเจ้าหม้อเหล็กนี้หายเสียก่อน สิ่งที่กล่าวไปข้างต้นก็ไม่เกินความจริงเลย 
เพราะตัวหม้อมีความแข็งแรงและทนทานมาก ๆ จนสามารถส่งต่อรุ่นสู่รุ่นได้เลย 

เพราะวัสดุสำคัญของหม้อมาจาก “เหล็กหล่อ”
ที่ทำให้ตัวหม้อแม้จะมีความหนัก แต่ก็แข็งแรงและยากต่อการบิ่น 

และหม้อของ Le Creuset ยังถูกเคลือบสีด้วย “อีนาเมล” กว่า 3 ชั้น 
ที่นอกจากจะช่วยให้เหล็กดูเรียบเนียนแล้ว 
ยังสามารถทนความเย็นได้ต่ำสุดถึง -20 องศาเซลเซียส และความร้อนสูงสุดถึง 260 องศาเซลเซียส 

ดังนั้น หม้อเหล็กหล่อนี้จึงสามารถทนความร้อนจากการตั้งบนเตาไฟ
และยังกักเก็บความร้อนได้ดี แม้ยกออกมาจากเตาแล้ว

นอกจากนั้น อีกหนึ่งสรรพคุณที่สำคัญของอีนาเมล ยังช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาด  
หม้ออีกด้วย

ข้อสอง คือ เอกลักษณ์

แม้แบรนด์ ​Le Creuset จะอยู่มานานเกือบร้อยปี แต่ดีไซน์ของหม้อก็ไม่ทำให้ดูเก่าไปตามกาลเวลา

ด้วยรูปร่างและสีสันที่สวยงาม จึงทำให้หม้อเหล็กของแบรนด์ Le Creuset สามารถนำไปตั้งโชว์ได้
เวลาที่เราทำอาหารเสร็จ ก็สามารถยกเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารแบบสวย ๆ ได้เลย

ทำให้หม้อเหล็กแต่ละรุ่น มักจะเป็นสินค้าที่ใครหลายคนต่างอยากเก็บไว้เป็นของสะสม
จนถึงขนาดที่สินค้ารุ่นเก่า ๆ บางตัว มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาอีกด้วย 

อย่างสินค้ารุ่นปี 1955 สี Elysées Yellow ที่ถูกยกเลิกการผลิตไปแล้ว
ก็เคยเป็นสินค้าที่มีคนต้องการมาก จนมีมูลค่าสูงถึง 8 แสนบาทจากการประมูลอีกด้วย

อย่างสุดท้ายคือ มาตรฐานในการผลิต 

สินค้าทุกชิ้นของแบรนด์ Le Creuset จะต้องผ่านช่างผู้ชำนาญการถึง 15 คนในการตรวจเช็กความเรียบร้อยเสมอ 
ซึ่งถ้าหม้อชิ้นไหนไม่ตรงตามมาตรฐาน ก็จะถูกกำจัดทิ้งทันที

และทางบริษัทจะไม่นำเหล็กหล่อที่เสีย หรือเจือปนกับวัสดุประเภทอื่น มาหล่อซ้ำใหม่เด็ดขาด 
เพราะจะถือว่าวัสดุเหล่านั้นทำให้สินค้าไร้คุณภาพและไม่มีความคงทน

ซึ่งถึงแม้ว่าปัจจุบัน บริษัท Le Creuset จะเพิ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามา
เพื่อช่วยแบ่งเบาแรงงานในบางกระบวนการผลิต

แต่ขั้นตอนการผลิตหลักอย่าง การหล่อและการตรวจสอบ 
ก็ยังคงเป็นงานฝีมือจากช่าง ที่จะผลิตขึ้นมาแบบชิ้นต่อชิ้น 

และใช้แม่พิมพ์ ที่เป็นขนาดเฉพาะของทางแบรนด์  
ซึ่งที่พิเศษ คือ แม่พิมพ์ตัวนี้ ยังเป็นขนาดที่ถูกใช้มาตั้งแต่ยุคที่เริ่มผลิตหม้อรุ่นแรกอีกด้วย 

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็คงจะทราบถึงคำตอบ
ว่าทำไมแบรนด์ Le Creuset ถึงได้มีราคาสูง และอยู่มาได้ยาวนานขนาดนั้น 

ซึ่งถ้าเทียบกับคุณภาพและความคงทนแล้ว ราคาหมื่นกว่าบาท ก็ถือว่าคุ้มค่า
แต่นอกเหนือจากนั้น ก็คงเป็นความภูมิใจของผู้ซื้อ ที่จะได้ใช้สินค้าจากแบรนด์คุณภาพ
ที่มีประวัติความเป็นมาเกือบร้อยปี..

References:
-https://www.snaptaste.com/le-creuset-x-doraemon/
-http://www.daybedsmag.com/le-creuset-caribbean-blue/
-https://www.lecreuset.com/about-le-cr…/about-le-creuset.html