เรียนรู้วิธีสร้างความโดดเด่นให้สินค้าธรรมดา จากกางเกงบอกเซอร์ Toogton /โดย ลงทุนเกิร์ล

ใครจะไปรู้ว่ากางเกงบอกเซอร์ที่ใส่อยู่ข้างใน 
และไม่ค่อยจะมีใครได้เห็น จะสามารถทำรายได้เดือนละหลักล้านบาท 
วันนี้ลงทุนเกิร์ลได้คุยกับคุณนิรุต แซ่เอี้ยว หรือคุณบูท 
เจ้าของและผู้ก่อตั้งร้าน Toogton ที่อ่านว่า “ทุกตอน” 
ร้านกางเกงบอกเซอร์ที่ส่งเคสธุรกิจมาให้เรา

แล้ว Toogton ขายบอกเซอร์อย่างไรให้ได้เดือนละ 3 ล้าน ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ

Toogton เริ่มต้นการขายในตลาดนัดจตุจักร ที่ถือว่าเป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
แต่เมื่อเจอกับวิกฤติโรคระบาดในปีที่แล้ว 
ทำให้ทางร้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนถึงขั้นรายได้ลดลง 90%

แต่ปัจจุบันร้านนี้กลับสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส 
ก้าวเข้าสู่การขายสินค้าในตลาดออนไลน์ และฟื้นรายได้ให้กลับมาได้เกือบเท่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ถ้าย้อนเวลากลับไปสู่จุดเริ่มต้น 
กว่าที่คุณบูทจะเปิดร้านขายกางเกงบอกเซอร์ที่จตุจักรได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  
เนื่องจากเขาต้องหาเลี้ยงตัวเองสมัยเรียน ทำให้ต้องขายของบนสะพานลอย ตั้งแต่อายุ 19 ปี 

เมื่อเขาเริ่มมีเงินก้อน เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนทำเลการขายของเป็นตลาดนัดจตุจักร

แต่การขายของที่จตุจักรก็ยังคงไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะไม่ใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวจะสามารถเช่าล็อกขายสินค้าในจตุจักรได้
ต้องแย่งกับอีกหลาย ๆ คน เพื่อเช่าที่สักห้องหนึ่ง
รวมทั้งล็อกที่สามารถเช่าได้ ก็อาจเป็นมุมอับที่แทบจะไม่มีคนเดินผ่านเลยด้วยซ้ำ 

ร้านค้าแรกของคุณบูทในตลาดนัดจตุจักร จึงเป็นร้านขายบอกเซอร์แบบรถเข็น
ที่สามารถเข็นไปตามซอยต่าง ๆ ได้

จากนั้นคุณบูทเริ่มทำให้สินค้าของเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น 
จนสามารถหาเงินเพียงพอที่จะเช่าร้านแบบถาวร 
และเริ่มขยับขยายจาก 1 ห้องเช่า สู่ 9 ห้องเช่าในเวลาต่อมา
รวมถึงตั้งชื่อแบรนด์บอกเซอร์ของเขาว่า Toogton 

ซึ่งในตอนนั้นคุณบูทสามารถขายบอกเซอร์ ได้มากถึง 1 แสนตัวต่อเดือนเลยทีเดียว

โดยจุดเด่น 2 อย่าง ที่ทำให้ร้าน Toogton 
สามารถทำยอดขายได้มากขนาดนี้ ก็คือ “ราคา” และ “คุณภาพ”

เพราะสินค้าของ Toogton เป็นราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย 
เริ่มต้นเพียงตัวละ 60 บาทเท่านั้น และหากซื้อสินค้าหลายชิ้นก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก

และถึงแม้ว่าราคาจะไม่ได้สูงมาก แต่คุณภาพก็ไม่ได้น้อยลงเลย
รวมทั้งยังมีสินค้าที่ครอบคลุมทั้งผู้หญิงและผู้ชายอีกด้วย

โดยลูกค้าหลักกว่า 80% ของร้าน Toogton ก็คือ ชาวต่างชาติ
ที่มักมาเดินเที่ยวเล่นอย่างคึกคักในวันหยุด 
รวมถึงมีการส่งสินค้าไปขายที่ประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย 

แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก.. 
เมื่อตลาดนัดจตุจักรถูกประกาศปิดเนื่องจากวิกฤติโรคระบาดเมื่อปีก่อน

คุณบูทจึงต้องปิดหน้าร้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้จำนวนลูกค้าต่างชาติลดลง
รวมถึงไม่สามารถส่งสินค้าออกไปขายต่างประเทศได้ 
ทำให้รายได้ของเขาเหลือเพียง 10% เท่านั้น

แต่คุณบูทก็ไม่ยอมแพ้ หรือทำเพียงแค่รอวันที่ตลาดนัดกลับมาเปิดตามเดิม
เขาจึงมุ่งหน้าสู่การตีตลาดลูกค้าชาวไทย และปรับตัวสู่ตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง

เริ่มแรกคุณบูทแก้ปัญหาโดยการจัดโปรโมชันลดราคาจนแทบไม่เหลือกำไร 
เพราะเขารู้ว่าหากไม่กำจัดสินค้าในสต็อกออกไปให้เร็วที่สุด ร้านของเขาถึงขั้นวิกฤติแน่ ๆ 

ซึ่งนั่นก็สามารถทำให้ยอดขายกลับมาทรงตัว แต่ก็ทำได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น 
เพราะถ้าขายราคาโปรโมชันแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ธุรกิจของคุณบูทก็คงจะอยู่ไม่รอดในระยะยาว

เขาจึงตัดสินใจสร้างแครักเตอร์ใหม่ให้กับร้าน เป็น “หนุ่มมาดกวนอารมณ์ดี” 

เพราะเดิมบอกเซอร์ Toogton ก็มีลวดลายที่น่ารักผสมกับความตลกกวน ๆ อยู่แล้ว
อย่างเช่น ลายหมูยิ้ม ลายปลาทู หรือลายเสือดาว 
ทำให้ตอนที่ขายอยู่ในตลาดนัดจตุจักร ก็ได้รับรอยยิ้มจากลูกค้าไปไม่น้อย

คุณบูทจึงนำตัวสร้างรอยยิ้มเหล่านี้ มาต่อยอดด้วยการนำเสนอที่แปลกใหม่ 

ซึ่งจะเห็นได้ชัดมากกับการพรีเซนต์แบรนด์หน้าเฟซบุ๊ก
ที่มีภาพถ่ายที่ดูสนุกสนานเข้ากันได้ดีกับสินค้าบอกเซอร์ที่มีลวดลายน่ารักกวน ๆ  
และนั่นก็เป็นเหตุผลให้บอกเซอร์ Toogton เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

นอกจากนั้นยังมีโปรโมชันแปลก ๆ ที่คุณบูทคิดขึ้นมา
เพื่อสร้างความตลกให้กับลูกค้าของเขา
เช่น การแถม “ข้าวสาร” พร้อมกับข้อความกวนลงไปด้วย 
ทั้ง ๆ ที่มันไม่เกี่ยวอะไรกับสินค้าของเขาเลย 

ผลกลับกลายเป็นว่านอกจากลูกค้าจดจำแบรนด์ได้แล้ว
ยังสามารถเพิ่มลูกค้าใหม่จากไวรัลบนโซเชียล ที่เกิดจากการแชร์ความประทับใจเหล่านี้อีกด้วย 

ซึ่งคุณบูทได้เล่าว่า จากความพยายามทั้งหมดนี้ 
ก็ทำให้ยอดขายบอกเซอร์ Toogton ในปี 2563 ที่ผ่านมาสูงกว่า 30 ล้านบาทเลยทีเดียว

และถ้าหากย้อนกลับไปดูความเป็นมา ก็คงไม่น่าแปลกใจเท่าไรนัก
เพราะความสำเร็จนี้ต้องผ่านทั้งความสู้ชีวิต และไม่ยอมแพ้ของคุณบูท
รวมถึงยังมีความคิดสร้างสรรค์ที่แต่งเติมลงไปบนสินค้าธรรมดาอย่างบอกเซอร์
ให้มีแครักเตอร์ที่แตกต่างและโดดเด่นไม่เหมือนใคร 

Reference:
-สัมภาษณ์ตรงกับคุณนิรุต แซ่เอี้ยว เจ้าของร้าน Toogton Boxer