LifestyleHealth & Beauty
ใช้สัตว์ในการทดลองโหดร้ายแค่ไหน และทำไมถึงยังต้องมีอยู่ ?
19 เม.ย. 2021
ใช้สัตว์ในการทดลองโหดร้ายแค่ไหน และทำไมถึงยังต้องมีอยู่ ? /โดย ลงทุนเกิร์ล
ช่วงไม่กี่วันมานี้ หลาย ๆ คนคงมีโอกาสได้เห็น คลิปวิดีโอ “Save Ralph”
แคมเปนรณรงค์ต่อต้านการทดลองในสัตว์ ของ Humane Society International (HSI)
แคมเปนรณรงค์ต่อต้านการทดลองในสัตว์ ของ Humane Society International (HSI)
โดยทุก ๆ ปี จะมีสัตว์ที่ “เสียชีวิต” จากการทดลอง
ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อาหาร และยา สูงถึง 100 ล้านตัว ในสหรัฐอเมริกา
ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อาหาร และยา สูงถึง 100 ล้านตัว ในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งจำนวน 100 ล้านชีวิตนี้ มากยิ่งกว่าประชากรไทยทั้งประเทศเสียอีก
แต่สัตว์เหล่านี้กลับต้องมาจบชีวิตลงในห้องทดลอง
แต่สัตว์เหล่านี้กลับต้องมาจบชีวิตลงในห้องทดลอง
จริง ๆ เรื่องการต่อสู้เพื่อสัตว์ทดลอง ก็มีมานานหลายปีแล้ว
รวมทั้งหลายฝ่ายก็ได้พยายามที่จะนำเสนอทางเลือกใหม่ ๆ ในวงการความงาม
และปัจจุบันมี 40 ประเทศทั่วโลก เลิกสนับสนุนสินค้าที่ผ่านการทดลองเกี่ยวกับสัตว์
รวมทั้งหลายฝ่ายก็ได้พยายามที่จะนำเสนอทางเลือกใหม่ ๆ ในวงการความงาม
และปัจจุบันมี 40 ประเทศทั่วโลก เลิกสนับสนุนสินค้าที่ผ่านการทดลองเกี่ยวกับสัตว์
แต่ทำไมการทดลองในสัตว์ยังไม่หมดไปเสียที ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
การทดลองกับสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย หนู หรือลิง มักเกิดขึ้นเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์
เนื่องจากสัตว์เหล่านี้มีผิวหนังที่ตอบสนองได้ไวและใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด
ซึ่งเวลาพูดถึงการทดลองในสัตว์ ภาพที่เกิดขึ้นก็มักเป็นไปในเชิงโหดร้าย
เนื่องจากสัตว์เหล่านี้มีผิวหนังที่ตอบสนองได้ไวและใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด
ซึ่งเวลาพูดถึงการทดลองในสัตว์ ภาพที่เกิดขึ้นก็มักเป็นไปในเชิงโหดร้าย
อย่างไรก็ตามในมุมมองของนักทดลองบางส่วน
เขาก็ไม่ได้นำสัตว์ทดลองมาทารุณกรรมอย่างโหดร้าย
เพราะพวกเขาก็มีความผูกพันกับสัตว์เหล่านี้ไม่แพ้กัน
เขาก็ไม่ได้นำสัตว์ทดลองมาทารุณกรรมอย่างโหดร้าย
เพราะพวกเขาก็มีความผูกพันกับสัตว์เหล่านี้ไม่แพ้กัน
นอกจากนั้นแต่ละชีวิตที่เสียไป ก็หมายถึงต้นทุนการทดลองที่เกิดขึ้นด้วย
เนื่องจากสัตว์ที่นำมาทดลองไม่ใช่จับสัตว์ที่ไหนมาก็ได้
แต่ต้องมาจากแหล่งเพาะที่เฉพาะเจาะจง
เนื่องจากสัตว์ที่นำมาทดลองไม่ใช่จับสัตว์ที่ไหนมาก็ได้
แต่ต้องมาจากแหล่งเพาะที่เฉพาะเจาะจง
และที่สำคัญ หากไม่ทดลองกับสัตว์แล้ว เราจะทดลองกับอะไร ?
เพราะผลิตภัณฑ์ความงาม รวมถึงอาหาร และยา
หากไม่ได้รับการทดลองมาก่อน จะรู้ได้อย่างไรว่าจะปลอดภัยกับมนุษย์
หากไม่ได้รับการทดลองมาก่อน จะรู้ได้อย่างไรว่าจะปลอดภัยกับมนุษย์
แต่ก็จะมีฝั่งที่โต้ว่า เรายังมีอีกหลายทางเลือกที่ไม่ต้องใช้การทดลองในสัตว์
เพราะในเมื่อการทดลองในสัตว์มีมานานแล้ว
เราจึงมีส่วนผสมมากมายกว่า 1,000 รายการ ที่ได้รับการทดลองแล้วว่าปลอดภัย
ซึ่งสามารถนำมาใช้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สูตรใหม่ ได้โดยไม่ต้องทดลองเพิ่มเติม
เราจึงมีส่วนผสมมากมายกว่า 1,000 รายการ ที่ได้รับการทดลองแล้วว่าปลอดภัย
ซึ่งสามารถนำมาใช้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สูตรใหม่ ได้โดยไม่ต้องทดลองเพิ่มเติม
นอกจากนั้นยังมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
อย่างแบรนด์ Unilever ก็ยกเลิกการทดลองในสัตว์มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 แล้ว
โดยหันมาใช้แบบจำลองผ่านระบบคอมพิวเตอร์ และทำการทดลองโดยการเพาะเลี้ยงเซลล์เข้ามาทดแทน
อย่างแบรนด์ Unilever ก็ยกเลิกการทดลองในสัตว์มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 แล้ว
โดยหันมาใช้แบบจำลองผ่านระบบคอมพิวเตอร์ และทำการทดลองโดยการเพาะเลี้ยงเซลล์เข้ามาทดแทน
หรืออีกทางเลือกหนึ่ง ก็คือ การทดลองกับมนุษย์
ผ่านการอาสาสมัครในการทดลอง ซึ่งจะถูกทดลองผ่านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง อย่างที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเวลส์ (University of Wales)
ผ่านการอาสาสมัครในการทดลอง ซึ่งจะถูกทดลองผ่านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง อย่างที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเวลส์ (University of Wales)
แล้วทำไมบางประเทศยังมีการทดลองในสัตว์ ?
หนึ่งในนั้นก็คือ จีน ซึ่งเป็นประเทศที่ตลาดของอุตสาหกรรมความงาม
ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยเป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยเป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
โดยจีนระบุว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทุกชนิดที่จะจำหน่ายในประเทศ
จะต้องได้รับการทดลองในสัตว์เสียก่อน
จะต้องได้รับการทดลองในสัตว์เสียก่อน
เพราะจีนมองว่าความปลอดภัยของประชาชนสำคัญที่สุด
ดังนั้นสินค้าที่ถูกนำเข้าไปขายในประเทศจีน จะต้องได้รับการการันตีว่าปลอดภัย
โดยมีกฎหมายการทดลองในสัตว์ ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2014
ดังนั้นสินค้าที่ถูกนำเข้าไปขายในประเทศจีน จะต้องได้รับการการันตีว่าปลอดภัย
โดยมีกฎหมายการทดลองในสัตว์ ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2014
นั่นแปลว่า แบรนด์สินค้าที่อยากเข้าไปแย่งเค้กก้อนโตนี้ ก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎ
ทำให้หลาย ๆ แบรนด์ ที่เคยยกเลิกการทดลองในสัตว์ไปแล้ว
ต้องกลับมาใช้วิธีดั้งเดิม เช่น NARS, MAC Cosmetics และ Shiseido
ต้องกลับมาใช้วิธีดั้งเดิม เช่น NARS, MAC Cosmetics และ Shiseido
แต่ก็มีอีกหลายแบรนด์เช่นกัน ที่มั่นคงกับจุดยืน
อย่าง Fenty Beauty และ Drunk Elephant ที่เลือกจะไม่ขายในประเทศจีน
แทนการยอมโดนบังคับให้ต้องทดลองสินค้ากับสัตว์
อย่าง Fenty Beauty และ Drunk Elephant ที่เลือกจะไม่ขายในประเทศจีน
แทนการยอมโดนบังคับให้ต้องทดลองสินค้ากับสัตว์
อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนก็กำลังค่อย ๆ เปิดรับกับเรื่องนี้มากขึ้น
โดยในเดือนพฤษภาคม ปี 2021 ที่กำลังจะถึงนี้
ประเทศจีนจะเริ่มใช้กฎหมายใหม่ ให้สามารถวางขายสินค้าที่ไม่ต้องทดลองในสัตว์ได้
และเริ่มจาก “สินค้าทั่วไป” เช่น ยาสระผม สบู่ ดูแลเล็บ น้ำหอม และเครื่องสำอาง
โดยในเดือนพฤษภาคม ปี 2021 ที่กำลังจะถึงนี้
ประเทศจีนจะเริ่มใช้กฎหมายใหม่ ให้สามารถวางขายสินค้าที่ไม่ต้องทดลองในสัตว์ได้
และเริ่มจาก “สินค้าทั่วไป” เช่น ยาสระผม สบู่ ดูแลเล็บ น้ำหอม และเครื่องสำอาง
ซึ่งสินค้าพวกนี้จะต้องผ่านใบรับรองของ Good Manufacturing Practice (GMP) ที่เป็นหลักเกณฑ์ยืนยันว่ามีมาตรฐานการผลิตที่ดีเสียก่อน
แต่สำหรับ “สินค้าพิเศษ” เช่น สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการชะลอวัย ผิวขาว และรักษาสิว
หรือสินค้าที่ใช้เฉพาะเจาะจงอย่าง ยาย้อมผมและครีมกันแดด
ก็ยังต้องได้รับการทดลองกับสัตว์อยู่ดี
หรือสินค้าที่ใช้เฉพาะเจาะจงอย่าง ยาย้อมผมและครีมกันแดด
ก็ยังต้องได้รับการทดลองกับสัตว์อยู่ดี
แม้การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ จะไม่ได้ทำให้การทดลองในสัตว์หายไปทั้งหมด
แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ดี ในการลดปริมาณการทดลองในสัตว์
แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ดี ในการลดปริมาณการทดลองในสัตว์
ซึ่งสำหรับใครที่อยากให้การทดลองในสัตว์ลดน้อยลง
ก่อนที่จะเลือกซื้อสินค้า ลองพลิกดูสัญลักษณ์ “Cruelty-Free” หรือ “Not Tested on Animals”
ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ที่รับรองว่าสินค้าเหล่านี้ ปราศจากการทดลองกับสัตว์
ก่อนที่จะเลือกซื้อสินค้า ลองพลิกดูสัญลักษณ์ “Cruelty-Free” หรือ “Not Tested on Animals”
ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ที่รับรองว่าสินค้าเหล่านี้ ปราศจากการทดลองกับสัตว์
และถึงแม้ว่าเราจะเป็นเพียงกระบอกเสียงเล็ก ๆ
แต่อาจจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่ช่วยรักษาชีวิตสัตว์ได้อีกมากมาย
แต่อาจจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่ช่วยรักษาชีวิตสัตว์ได้อีกมากมาย
References:
-https://www.livekindly.co/china-animal-testing-imported-co…/
-https://www.businessoffashion.com/…/china-exempts-almost-al…
-https://wwd.com/…/china-animal-testing-beauty-ordinary-pro…/
-https://www.peta.org/…/animals…/animal-experiments-overview/
-https://www.unilever.com/…/…/alternatives-to-animal-testing/
-https://www.the101.world/animal-testing/
-https://www.livekindly.co/china-animal-testing-imported-co…/
-https://www.businessoffashion.com/…/china-exempts-almost-al…
-https://wwd.com/…/china-animal-testing-beauty-ordinary-pro…/
-https://www.peta.org/…/animals…/animal-experiments-overview/
-https://www.unilever.com/…/…/alternatives-to-animal-testing/
-https://www.the101.world/animal-testing/