HEXA Shoes แบรนด์รองเท้ารักษ์โลก โดยไม่ทำร้ายสัตว์
FashionBusiness

HEXA Shoes แบรนด์รองเท้ารักษ์โลก โดยไม่ทำร้ายสัตว์

20 เม.ย. 2021
HEXA Shoes แบรนด์รองเท้ารักษ์โลก โดยไม่ทำร้ายสัตว์ /โดย ลงทุนเกิร์ล
เชื่อหรือไม่ว่าในทุก ๆ ปีมีสัตว์กว่า 1,000 ล้านตัวถูกฆ่า เพื่อนำหนังของมันไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องหนัง
โดยในจำนวนนั้นก็มีหนังหลายชิ้นถูกทิ้งไป เพียงเพราะเป็นหนังที่ไม่ตรงกับคุณภาพโรงงาน
และในจำนวนขยะทั้งหมด ก็มีหนังที่ถูกทิ้งเพียง 18% เท่านั้นที่ถูกนำกลับมารีไซเคิลใหม่
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คุณทราย อนุตรา มหัทธนารักษ์ เห็นมาโดยตลอด
เนื่องจากเธอทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องหนังมาก่อน
จนวันหนึ่งรู้สึกว่า สิ่งที่ตนเองทำนั้นเริ่มอิ่มตัว และอยากเปลี่ยนไปทำสินค้าประเภทอื่น
ปัจจุบันคุณทรายจึงเปลี่ยนเส้นทางจากการเป็นเจ้าของโรงงานกระเป๋าหนัง
สู่เจ้าของแบรนด์รองเท้า HEXA Shoes ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่แบรนด์รองเท้าที่ใส่สบาย
แต่เป็นแบรนด์รองเท้าที่เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าสายวีแกนอีกด้วย
ซึ่งวันนี้ลงทุนเกิร์ลมีโอกาสพูดคุยกับคุณทราย ที่ได้ส่งเคสธุรกิจ HEXA Shoes เข้ามาทางเพจ
แล้วเรื่องราวของ HEXA Shoes น่าสนใจอย่างไร ?
และเธอมีกลยุทธ์อะไรในการสร้างแบรนด์ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แรกเริ่มเดิมทีก่อนที่คุณทรายจะเข้าสู่วงการ Footwear
คุณทรายดำเนินธุรกิจเป็นโรงงาน รับผลิตกระเป๋าหนังแบบ OEM จากแบรนด์ต่าง ๆ
ซึ่งสร้างรายได้จำนวนมหาศาล แต่กลับไม่ได้กำไรเท่าที่ควร
เมื่อเทียบกับเวลาและแรงที่เสียไปในทุก ๆ วัน
ประกอบกับที่คุณทรายทำงานอยู่กับหนังสัตว์มาเป็นเวลานาน
ทำให้ทุกครั้งที่เธอต้องเห็นหนังสัตว์ ที่ถูกทิ้งเป็นจำนวนมาก ๆ 
เธอก็จะตระหนักว่า สิ่งที่เธอทิ้งไปนั้น เคยเป็นสิ่งมีชีวิตมาก่อน
ทำให้เธอเริ่มปรับเปลี่ยนการกินของตัวเอง แล้วเดินทางเข้าสู่วงการการรับประทานแบบวีแกน
หรือไม่รับประทานเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลย
นอกจากนั้นด้วยความอิ่มตัวในธุรกิจผลิตกระเป๋าหนัง 
ทำให้คุณทรายคิดอยากจะทำแบรนด์ “รองเท้าส้นสูง” ของตัวเอง
ซึ่งเป็นสินค้าที่คุณทรายประสบปัญหากับการใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
เนื่องจากส้นสูงในท้องตลาดสมัยนั้น มีแต่รองเท้าส้นสูงที่ใส่สวย แต่ใส่แล้วไม่สบาย
จุดนี้เองที่ทำให้คุณทรายมองว่า อยากจะทำรองเท้าส้นสูงที่ใส่สบาย
และยังต้องเป็นรองเท้าที่ไม่ใช้วัสดุจากสัตว์ด้วย
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณทรายจึงเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำรองเท้าอย่างจริงจัง
จนกระทั่งคุณทรายได้บังเอิญพบกับคุณลิซ่า ในอีเวนต์งานหนึ่ง
ซึ่งคุณลิซ่าเองเป็นดีไซเนอร์ให้กับแบรนด์รองเท้า Clarks อยู่แล้ว
และมีความสนใจในแนวคิดของคุณทราย 
ทำให้ในที่สุดทั้งสองท่านก็ตัดสินใจทำงานร่วมกัน
หลังจากนั้นทั้งคุณทรายและคุณลิซ่า ก็มานั่งตกลงกันว่า 
แบรนด์รองเท้าที่ทั้งคู่อยากทำ จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
ซึ่งทั้งคู่ก็สรุปออกมาได้ว่า แบรนด์รองเท้านี้จะต้องเป็นแบรนด์รองเท้าที่ใส่สบาย
ไม่ว่าจะเป็นส่วนของพื้นรองเท้าหรือส้นรองเท้าส้นสูง
จะต้องทำให้คนใส่ ใส่เดินได้ไม่ลำบาก
และที่สำคัญที่สุดก็คือ จะต้องไม่ใช้วัสดุที่มาจากสัตว์เลย 
หลังจากสรุปออกมาได้แล้ว แบรนด์ HEXA Shoes ก็ถือกำเนิดขึ้น
โดยคุณทรายในตอนนั้นก็ตัดสินใจปิดโรงงานผลิตกระเป๋าหนังที่ตนเองทำอยู่ไปทันที และมองหาพาร์ตเนอร์ที่จะเข้ามาร่วมทำแบรนด์กับเธอ ทั้งในด้านวัตถุดิบและการผลิต
ซึ่งในคอลเลกชันแรกของคุณทรายก็ได้พาร์ตเนอร์ในด้านการผลิตเป็นโรงงานในเครือสหพัฒน์ ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของ HEXA Shoes
ส่วนในด้านของวัตถุดิบนั้นคุณทรายก็เลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพดี
ระดับเดียวกับรองเท้าแบรนด์ระดับโลก 
อย่างการเลือกใช้โฟม OrthoLite ECO 
ซึ่งเป็นโฟมคุณภาพเดียวกับที่ใช้ในรองเท้าออกกำลังกาย ที่นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องความนุ่มสบายแล้ว 
ยังใช้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย 
ส่วนหนังที่เลือกใช้ก็เป็นหนังนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น อย่างไมโครไฟเบอร์ ซึ่งให้ผิวสัมผัสเหมือนหนังแท้ แต่สามารถกันน้ำได้ 
โดยในขณะที่คุณทราย และคุณลิซ่าเริ่มพัฒนาแบรนด์ไปด้วยนั้น ก็ได้นำแนวคิดของทั้งคู่
ไปนำเสนอลงบนเว็บไซต์ Kickstarter ซึ่งเป็นเว็บไซต์ Crowdfunding ชื่อดัง
โดยคุณทรายเล่าว่า การนำเสนอแนวคิดผ่าน Kickstarter นั้นไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงินจากการระดมทุน
แต่มองว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ในฐานะแบรนด์รองเท้าที่ใส่สบาย เป็นมิตรกับสัตว์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งแสดงถึงความยั่งยืน
หลังจากที่สินค้าถูกผลิตออกมาสำเร็จ คุณทรายก็ทำการติดต่อเพื่อลงขายในห้างสรรพสินค้าทันที
เพราะคุณทรายมองว่า รองเท้าเป็นสินค้าที่ลูกค้าต้องมาสัมผัสของจริงก่อนจึงตัดสินใจซื้อ
แรก ๆ คุณทรายก็ไม่ได้สื่อสารไปตรง ๆ ว่า HEXA Shoes เป็นรองเท้าวีแกน
แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีลูกค้าชาวต่างชาติติดต่อเข้ามาในโซเชียลมีเดียว่า มีรองเท้าวีแกนสำหรับผู้ชายหรือไม่ 
บางคนก็ถามหาสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่ทำจากวัสดุที่ไม่ใช่หนังสัตว์
และยังมีเจ้าของร้านอาหารวีแกน ที่กลายมาเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์ HEXA Shoes 
ซึ่งได้ช่วยแนะนำกลุ่มคนที่ทานวีแกน ให้มารู้จักแบรนด์รองเท้าของคุณทรายมากขึ้น
พอกลายเป็นแบบนี้ คุณทรายจึงเริ่มเห็นโอกาสในการทำการตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง
จึงได้นำคำว่า “วีแกน” เข้ามาอยู่ในสโลแกนของแบรนด์ 
กลายเป็น “Comfortable Vegan Shoes” 
ซึ่งผลตอบรับที่ได้ก็ยิ่งดีขึ้นเป็นทวีคูณ 
เพราะสื่อจากต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มคนที่อยู่ในวงการวีแกน 
ก็ล้วนเข้ามาสั่งซื้อ และนำเอาสินค้าของคุณทรายไปพูดในสื่อต่าง ๆ จนแบรนด์เริ่มกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น 
คุณทรายเล่าถึงความสำเร็จตรงนี้ว่า
“ในตอนแรกทรายไม่ได้มองถึงกลุ่มวีแกนเลย ทรายเพียงแค่อยากทำแบรนด์รองเท้าที่ใส่สบาย และเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจโลกเพียงแค่นั้น แต่พอมาเจอลูกค้ากลุ่มนี้ ก็รู้สึกว่าบางครั้งคนในท้องตลาดก็จะเป็นคนบอกเราด้วยเหมือนกัน ว่าเราควรสื่อสารไปหาใคร”
นอกจากนั้นที่ผ่านมาคุณทรายยังคอยพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ 
เพื่อให้สินค้าสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น 
รวมถึงการเลือกใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยขึ้น อย่างในคอลเลกชันล่าสุด คุณทรายได้เลือกใช้วัสดุเดียวกับที่ใช้ในการผลิตชุดนักบินอวกาศ 
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายไว้ที่ 37 องศา 
ทำให้เท้าไม่อับจากความร้อน หรือในอากาศหนาวก็จะไม่ได้รู้สึกเย็นเท้าจนเกินไป 
โดยร่วมมือกันกับ OUTLAST Space Technology จากประเทศเยอรมนี 
ซึ่งเมื่อถามถึงการทำแบรนด์ HEXA Shoes กับคุณทราย เธอได้เล่าเอาไว้ว่า
“บทเรียนหนึ่งของการเป็นเจ้าของธุรกิจก็คือ ทำให้เรารู้ว่าเราชอบอะไรกันแน่ บางคนใช้ชีวิตมาทั้งชีวิตยังตอบไม่ได้เลยว่าตัวเองชอบอะไร แต่การทำธุรกิจนี่แหละ ที่ทำให้เราสามารถหาตัวเองจนเจอ และทำให้ตัวตนของเราชัดขึ้นได้” 
เคสของคุณทรายเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเคสที่น่าสนใจ
เพราะในแรกเริ่มคุณทรายเพียงแค่อยากทำรองเท้าส้นสูงที่ใส่สบายและรักษ์โลกเท่านั้น 
แต่วันหนึ่งเธอกลับพบว่าสินค้าของเธอ ก็สามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มวีแกนได้เช่นกัน 
เรียกได้ว่าจริง ๆ แล้ว เรื่องของการทำธุรกิจ
ก็ไม่ใช่เรื่องตายตัวแต่อย่างใด แต่อยู่ที่ว่าเราจะสามารถปรับตัว และนำตัวเองเข้าไปอยู่ในตลาดได้ถูกที่และถูกเวลาหรือไม่เท่านั้นเอง.. 
References: 
-สัมภาษณ์โดยตรงกับคุณอนุตรา มหัทธนารักษ์ เจ้าของแบรนด์ HEXA Shoes
-https://viva.org.uk/materials/hell-for-leather-fact-sheet
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.