รู้จัก Billie แบรนด์มีดโกนสำหรับผู้หญิง ที่ไม่ได้สนับสนุนให้ผู้หญิงต้องโกนขน
Health & BeautyBusiness

รู้จัก Billie แบรนด์มีดโกนสำหรับผู้หญิง ที่ไม่ได้สนับสนุนให้ผู้หญิงต้องโกนขน

13 พ.ค. 2021
รู้จัก Billie แบรนด์มีดโกนสำหรับผู้หญิง ที่ไม่ได้สนับสนุนให้ผู้หญิงต้องโกนขน /โดย ลงทุนเกิร์ล
ใครที่เคยเดินซูเปอร์มาร์เกต คงจะต้องเคยเจอกับมีดโกนที่เขียนว่า มีดโกนสำหรับผู้หญิง
ซึ่งไม่ได้มีฟังก์ชันอะไรพิเศษ แค่ต่างจากมีดโกนของผู้ชายตรงที่มันเป็น “สีชมพู”
ที่น่าตกใจคือ เจ้ามีดโกนสีชมพูนี้ มีราคาสูงกว่ามีดโกนที่หน้าตาเหมือนกันแต่คนละสี ถึงเกือบเท่าตัว
และจุดนี้แหละที่ทำให้คุณ Georgina Gooley และคุณ Jason Bravman เกิดคำถามขึ้น
จนก่อตั้งแบรนด์ที่มีชื่อว่า Billie ซึ่งเป็นแบรนด์อุปกรณ์กำจัดขนของผู้หญิง “โดยเฉพาะ”
แล้วแบรนด์ Billie น่าสนใจอย่างไร และทำอย่างไรให้ตัวเองแตกต่างจากมีดโกนแบรนด์อื่น ๆ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แรงบันดาลใจหลักของการก่อตั้งแบรนด์ Billie คือ
ความต้องการให้ผู้หญิงมีอุปกรณ์สำหรับโกนขนที่มีคุณภาพ ในราคาที่สมเหตุสมผล
และไม่ต้องถูกจำกัดอยู่เพียงเพราะ “สี” ที่คนมองว่าเป็นสีของผู้หญิง
ซึ่งก่อนที่คุณ Georgina Gooley และคุณ Jason Bravman จะเริ่มต้นสร้างธุรกิจ พวกเขาก็ได้ตั้งคำถามว่า 
ทำไมลูกค้าต้องใช้สินค้าของพวกเขา ? 
และจะทำอย่างไรให้สินค้าของพวกเขาแตกต่าง ?
พอเรื่องเป็นแบบนี้ พวกเขาจึงเริ่มทำการสำรวจถึงปัญหาของผู้หญิง
ที่มีต่อการกำจัดขนบนร่างกาย ว่าพวกเธอประสบปัญหาอะไรบ้าง
ทำให้พวกเขาพบว่า ตัวการหลักคือ “ปัญหาด้านราคา” และ “ทัศนคติของผู้คน”
ในปัญหาด้านราคา หากลองดูสินค้าที่เป็นมีดโกนหนวดผู้ชายยี่ห้อหนึ่ง 
รุ่นที่ถูกที่สุดมีราคาประมาณ 20 บาทต่อชิ้น 
ในขณะที่สินค้ายี่ห้อเดียวกันแต่มีสีชมพู และเขียนว่าเป็นมีดโกนของผู้หญิง มีราคาประมาณ 30 บาทต่อชิ้น
ด้วยคุณภาพที่เหมือนกัน แต่ต่างกันแค่สี
ทำไมจึงกลายเป็นสินค้าของผู้หญิงได้ทันที แถมยังขายแพงขึ้นอีกด้วย
ฉะนั้นสำหรับสินค้าของ Billie จึงไม่ใช่แค่เพียงมีดโกนธรรมดา
แต่สิ่งที่ลูกค้าจะได้คือ มีดโกนที่มีคุณภาพ สมราคา และความรู้สึกที่ดีเวลาโกนขน
ส่วนต่อมาคือ เรื่องทัศนคติของคนที่มีต่อการโกนขน
รู้หรือไม่ว่า มีดโกนขนของผู้หญิงจริง ๆ แล้วมีมาตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อน
โฆษณามีดโกนสำหรับผู้หญิงตัวแรกถูกปล่อยออกมาในปี 1915 โดย Gillette
โดยเมื่อการแต่งตัวของผู้หญิงเริ่มเปิดเผยและโชว์ผิวกายมากขึ้น
ทำให้มีนักการตลาดมองว่าจุดนี้เป็นช่องว่างในการขายสินค้า 
จนกลายเป็นการปลูกฝังไปว่า การที่ผู้หญิงมีขนตามร่างกาย เป็นสิ่งที่ไม่ดี
รวมถึงค่านิยมอีกหลาย ๆ อย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาจากนักการตลาดหัวใสในสมัยก่อน
ไม่ว่าจะผู้หญิงต้องเป็นสีชมพู ผู้หญิงต้องใส่กระโปรง หรือแม้แต่ค่านิยมความงามต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Billie กลับมองว่า “การโกนขน คือทางเลือกส่วนบุคคล”
ฉะนั้นถึงแม้แบรนด์ของพวกเขาจะขายอุปกรณ์เกี่ยวกับการกำจัดขน 
แต่ก็ไม่ได้พยายามจะสื่อสารว่า ทุกคนต้องโกนขน
ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปว่า แบรนด์ Billie จะออกมาเป็นอย่างไร
คุณ Georgina Gooley และคุณ Jason Bravman ก็เริ่มมองหาผู้ลงทุน ที่จะทำให้ความคิดของพวกเขาเป็นจริง 
โดยหลังจากที่ได้เปิดตัวแบรนด์ พวกเขาก็สามารถระดมทุนได้ถึง 47 ล้านบาท 
แล้วอะไรที่ทำให้มีดโกนของ Billie น่าสนใจกว่าแบรนด์ในท้องตลาด ?
อย่างแรกคือเรื่องคุณสมบัติของตัวมีดโกน ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการจัดแต่งขนสำหรับผู้หญิงมากกว่า
เช่น พื้นหน้าของมีดโกนที่มีขนาดใหญ่กว่า, จำนวนใบมีดที่มีมากกว่า (มีมากสุด 5 ใบ)
และมีการติดหัวสบู่ว่านหางจระเข้แบบ 360 องศา เพื่อให้สามารถโกนขนได้อย่างราบรื่น
รวมถึงสามารถถอดเปลี่ยนหัวใบมีดได้ เมื่อสบู่หมด
นอกจากนี้ Billie ยังมีสินค้าประเภทอื่น ที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดขนให้เลือกใช้อีกด้วย
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ รูปแบบการให้บริการ ที่เป็นโมเดล Subscription
โดยในขั้นตอนแรกแบรนด์จะมีมีดโกนจำนวน 5 สีให้เราเลือกตามความชอบ
จากนั้นจึงเข้าสู่คำถามว่า คุณโกนขนบ่อยแค่ไหน ? เช่น ทุกวัน หรือสัปดาห์ละครั้ง
เพื่อคำนวณว่า เราต้องการใบมีดสำหรับโกนบ่อยแค่ไหน
และส่งสินค้าให้เราตามความเหมาะสม เช่น หากคุณโกนขนทุกวัน แบรนด์ก็จะส่งของให้ทุกเดือน
หรือหากคุณโกนขนเพียงสัปดาห์ละครั้ง แบรนด์จะส่งสินค้าให้ทุก ๆ 3 เดือน 
โดยการขนส่งแต่ละครั้งจะมีราคาประมาณ 280 บาท 
สำหรับครั้งแรก ลูกค้าจะได้รับเซตด้ามมีดโกน และหัวมีดโกนจำนวน 1 กล่อง
จากนั้นในครั้งถัด ๆ ไปก็จะได้รับหัวมีดโกนจำนวน4 หัว ส่งไปให้ในทุก ๆ รอบการขนส่ง
ซึ่งหลังจากที่ Billie เปิดตัวไป ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีทีเดียว
จนทำให้แบรนด์ Billie เกิดไปเข้าตาบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง P&G และมีข่าวการเข้าซื้อในช่วงต้นปี 2020
อย่างไรก็ตามดีลการเข้าซื้อนี้ก็ถูกยกเลิกไป เนื่องจาก FTC หรือคณะกรรมการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มองว่า จะกลายเป็นการผูกขาดสินค้า 
เพราะเดิม P&G ก็มีส่วนแบ่งในตลาดมีดโกนกว่า 60% อยู่แล้ว จากแบรนด์ในเครืออย่าง Gillette
เรียกได้ว่า Billie เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจ 
เพราะแม้จะเป็นสินค้า ที่เหมือนมีเจ้าตลาดครองอยู่แล้ว
แต่ถ้าเราหาช่องว่างของลูกค้าได้ เราก็สามารถแทรกเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้เช่นกัน..
References:
-https://mybillie.com/
-https://www.cfo.com/ma/2021/01/pg-scraps-deal-to-buy-billie-razor-startup/#:~:text=P%26G%20announced%20in%20January%202020,the%20Gillette%20and%20Venus%20brands.
-https://www.cincinnati.com/story/money/2021/01/05/p-g-billie-inc-razor-takeover-off-after-opposition-regulators/4143661001/
-https://www.alleywatch.com/2018/04/billie-raises-6m-to-be-the-dollar-shave-club-for-women/
-https://time.com/5336199/billie-founder-disrupt-shaving-industry/
-https://www.bustle.com/articles/137072-100-years-of-shaving-ads-show-how-weve-been-tricked-into-going-hairless-photos
-https://www.refinery29.com/en-us/2020/06/9867124/georgina-gooley-billie-razors-founder-power-diary
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.