Karst สมุดโน้ตที่กระดาษ ทำมาจากหิน
Business

Karst สมุดโน้ตที่กระดาษ ทำมาจากหิน

28 พ.ค. 2021
Karst สมุดโน้ตที่กระดาษ ทำมาจากหิน /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ว่า กระดาษแผ่นแรกของโลก ผลิตโดยชาวอียิปต์โบราณ
ซึ่งพวกเขาได้ใช้หญ้า “พาไพรัส” มาทำกระดาษ และตั้งชื่อของกระดาษนี้ตามชื่อของหญ้าที่ใช้
โดยนักประวัติศาสตร์เชื่อว่า มีการใช้กระดาษพาไพรัส มาตั้งแต่เมื่อ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล 
ซึ่งไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ปัจจุบันเราก็ยังคงใช้ วัสดุจากพืชมาทำกระดาษ เป็นหลักอยู่เหมือนเดิม
แต่ไม่ใช่กับแบรนด์ Karst ที่เข้ามาเปลี่ยนวงการผลิตกระดาษไปอย่างสิ้นเชิง
เพราะกระดาษโน้ตของแบรนด์นี้ ทำมาจากวัสดุอย่าง “หิน”
แล้ว Karst มีจุดเริ่มต้นอย่างไร ? 
ทำไมจึงเลือกใช้วัสดุอย่างหินมาทำกระดาษ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของ Karst มาจากคุณ Jon Tse และคุณ Kevin Garcia
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2016 พวกเขาทั้งสองได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ไต้หวัน
และบังเอิญได้พบกับแพ็กเกจอาหารที่ทำมาจากกระดาษซึ่งดูแปลกตา
เนื่องจากมันไม่เหมือนกระดาษเยื่อไม้ทั่วไป แถมเป็นกระดาษที่สามารถกันน้ำได้ด้วย
จนเมื่อลองหาข้อมูลดู ทั้งคู่ก็พบว่า บรรจุภัณฑ์ที่พวกเขาเจอนั้น
เป็นกระดาษที่ทำมาจาก “หิน” นั่นเอง
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ ผู้ก่อตั้งทั้งสองจึงมองเห็นโอกาส
ที่จะนำกระดาษจากหินนี้ มาต่อยอดให้กลายเป็นธุรกิจ 
ถึงแม้พวกเขาจะมีไอเดียแล้ว แต่เมื่อเป็นการทำธุรกิจที่ต้องลงทุน
และยังต้องสำรวจด้วยว่า สินค้าที่พวกเขาคิดนั้น มีตลาดรองรับมากแค่ไหน
เรื่องนี้ทำให้พวกเขานำแพลตฟอร์มสำหรับระดมทุนอย่าง Kickstarter มาใช้ เพื่อมองหากลุ่มลูกค้า
ซึ่งผลตอบรับก็เป็นที่น่าพอใจ เพราะพวกเขาสามารถระดมทุนได้ถึง 3.3 ล้านบาท 
และยังเป็นการตอกย้ำว่า มีกลุ่มผู้บริโภค ที่พร้อมจะซื้อผลิตภัณฑ์ของพวกเขา
จนในปี 2017 พวกเขาก็เปิดตัวแบรนด์สมุดโน้ตด้วยกระดาษจากหิน
แล้วสงสัยหรือไม่คะ ว่าเจ้าหินก้อนแข็ง ๆ นี้ จะนำมาทำให้เป็นกระดาษได้อย่างไร ?
กรรมวิธีในการผลิตนั้น จะเป็นการนำเอาหินมาบดจนกลายเป็นผงละเอียด
โดยพวกเขาใช้หินที่เหลือจากงานก่อสร้าง และเศษหินจากการขุดเหมือง
จากนั้นนำผงหินนี้มาผสมกับเรซินคุณภาพสูงที่ปลอดสารพิษ และนำไปผ่านความร้อน 
ก่อนจะใช้เครื่องจักร ออกแรงกดให้วัสดุเหล่านี้บางและเรียบพอ จนกลายมาเป็นกระดาษ
ซึ่งกระบวนการผลิตแบบนี้ นอกจากจะมีกระบวนการที่น้อยกว่าการผลิตกระดาษจากไม้แล้ว
ยังเป็นกระบวนการที่ ไม่ใช้น้ำในการผลิต ทำให้ลดมลพิษจากการผลิตได้อีกด้วย
ถึงแม้ว่ากระดาษจากหินจะใช้กระบวนการผลิตและทรัพยากรที่น้อยกว่า
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสินค้าที่ออกมา จะเป็นสินค้าที่มีราคาถูก
โดยสมุดโน้ตของพวกเขานั้นมีราคาอยู่ที่เกือบ 800 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูง
เมื่อเทียบกับสมุดโน้ตยี่ห้อทั่ว ๆ ไปตามท้องตลาด 
และเทียบเคียงได้กับแบรนด์สมุดโน้ตพรีเมียมอย่าง Moleskine ได้เลย
แล้ว Karst ทำอย่างไรให้สมุดโน้ตของพวกเขาขายได้ ?
สิ่งแรกที่ทำให้สมุดโน้ตของพวกเขาขายได้ คือ คุณสมบัติกันน้ำของกระดาษ
เพราะสมุดโน้ตทั่ว ๆ ไป หรือแม้แต่ Moleskine เองก็ไม่มีคุณสมบัตินี้
ถึงแม้ว่าโอกาสในการทำน้ำหกใส่สมุดนั้นอาจจะมีน้อย
แต่ถ้ามันบังเอิญเกิดขึ้นจริง ๆ การที่มีกระดาษที่สามารถกันน้ำได้
ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยก็ตาม
นอกจากนี้แบรนด์ Karst ยังวางกลุ่มเป้าหมายไปที่ การเป็นพาร์ตเนอร์กับองค์กรต่าง ๆ 
เพื่อที่จะเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานอุปกรณ์ในสำนักงานแบบเดิมของพนักงานบริษัทอีกด้วย
ต่างจาก Moleskine ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มนักเขียนและศิลปิน
ซึ่งทำให้เห็นว่าถึงแม้ Karst จะเป็นกลุ่มสินค้าที่มีความใกล้เคียงกับ Moleskine 
แต่สมุดโน้ตทั้งสองแบรนด์ ก็มีการวางจุดยืนที่แตกต่างกัน
และท้ายที่สุดก็คือ เรื่องราวที่พวกเขาสื่อสารออกมา
อย่างที่กล่าวไปว่า กระบวนการผลิตของกระดาษจากหินนั้น
สามารถช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า รวมถึงปล่อยมลพิษออกมาน้อยกว่า
ทำให้สอดคล้องกับเทรนด์ในปัจจุบัน ที่ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจโลกกันมากขึ้น
โดยในปี 2019 Karst ทำรายได้ไปทั้งหมด 37 ล้านบาท
ถึงแม้ว่าจะเป็นรายได้ที่ไม่ได้หวือหวา แต่ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่น่าประทับใจของแบรนด์สมุดโน้ต
ที่เพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 4 ปีเท่านั้น
ถึงแม้ว่าการเข้ามาของเทคโนโลยี จะทำให้ผู้คนหันไปใช้เทคโนโลยีอย่าง iPad หรือแท็บเล็ต กันมากขึ้น 
แต่ในขณะเดียวกัน ปริมาณการใช้กระดาษก็กลับยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 
โดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น ปีละ 3-5% ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา
ซึ่งแปลว่า การเข้ามาของเทคโนโลยี ไม่ได้ทำให้การใช้งานกระดาษจดหมดไป
เพราะสำหรับบางคนแล้ว ก็ยังคงโหยหาความรู้สึก
ที่ได้จรดปากกาลงบนผิวกระดาษ ที่เทคโนโลยีไม่อาจทดแทนได้
และนี่ก็อาจจะเป็นโอกาสของ Karst ที่จะทำให้ธุรกิจสมุดโน้ตของพวกเขาเติบโต 
ในยุคดิจิทัลที่คนอื่นกำลังแข่งกันด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.