มีคำกล่าวไว้ว่า “ทุกอาชีพคือการเรียนรู้”
แล้วเชื่อหรือไม่ว่า “อาชีพตัวแทนขายเครื่องกรองน้ำ”
เป็นหนึ่งในอาชีพที่นอกจากมีอะไรหลายอย่างให้ได้เรียนรู้แล้วนั้น
ยังสามารถสร้างรายได้ต่อเดือน ที่เป็นตัวเลขที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง

ลงทุนเกิร์ล ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณภีมชามาภา โช
ผู้จัดการฝ่ายขายด้านสุขภาพ บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จํากัด
จากจุดเริ่มต้น ที่เธอขายเครื่องกรองน้ำ COWAY เป็นอาชีพเสริมรายได้ 10,000 บาทต่อเดือน
ปัจจุบันเธอทำเป็นอาชีพหลัก มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยเกือบ ๆ 2 แสนบาท

คุณภีมชามาภา เล่าให้ฟังว่า แต่เดิมเธอเป็นแม่ค้าขายส่งและปลีกสินค้าแฟชั่นตามตลาดนัดต่าง ๆ
ถึงแม้บางเดือนรายได้จะสูง แต่จุดอ่อนของธุรกิจแฟชั่นก็คือ “เทรนด์ที่มาเร็วไปเร็ว”

หากสินค้าที่มีอยู่ในสต็อกมีดีไซน์ออกแบบเป็นเทรนด์ที่ตกยุคหรือคนไม่นิยมกันแล้ว
ทางออกก็คือการขายสินค้าที่ต่ำกว่าทุนที่ตัวเองได้มา เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในธุรกิจ

แต่แล้วก็มาถึง “จุดเปลี่ยน” ด้วยการที่บ้านเธอเองใช้เครื่องกรองน้ำแบรนด์ COWAY
มานานกว่า 4 ปี พร้อมกับชื่นชอบในรสชาติน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์ 100% จนถึงดีไซน์เครื่องที่ทันสมัย

ซึ่งทำให้คนรู้จักหรือเพื่อนของเธอเมื่อมาเห็นที่บ้านก็สนใจ

ยิ่งเมื่อได้รู้ข้อดีของโมเดลเครื่องกรองน้ำ Subscription ที่จ่ายค่าบริการเริ่มต้น 590 บาทต่อเดือน
ก็สามารถใช้เครื่องกรองน้ำ COWAY พร้อมกับมีพนักงานคอยดูแลเครื่องกรองน้ำเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้น้ำสะอาดตลอดเวลา

ข้อดีต่าง ๆ เหล่านี้ ก็เลยทำให้คนรู้จักและเพื่อนของเธอสนใจใช้บริการของ COWAY
ซึ่งเธอก็แนะนำให้ติดต่อไปยังพนักงานขายของทางบริษัท

แต่แล้วเธอก็เกิดคำถามในใจขึ้นมาว่า..
“ทำไมฉันไม่เป็นตัวแทนขาย เพื่อเป็นอีกช่องทางในการหารายได้”
ทำให้เธอตัดสินใจทำอาชีพนี้ โดยเริ่มต้นทำเป็นอาชีพเสริม โดยเดือนแรกเธอมีรายได้ 10,000 บาท

“ตอนนั้นคือดีใจมาก ไม่ได้คิดขายจริงจัง แต่ก็ได้ผลตอบแทนมากขนาดนี้”

จากอาชีพเสริมแปรเปลี่ยนเป็นอาชีพหลัก เมื่อเธอตัดสินใจทุ่มเทกับบทบาทตัวแทนขายอย่างเต็มตัว
พร้อมกับเข้าฝึกอบรมการเป็นพนักงานขาย

ซึ่งเธอเล่าให้ฟังว่า โคเวย์ให้ความสำคัญกับการอบรมมาก
เพราะไม่ใช่แค่ได้ความรู้ในเรื่องตัวสินค้าและเทคนิคการขายออนไลน์อย่างเดียว
แต่ยังได้เรียนรู้การตลาดในยุคดิจิทัลอีกด้วย

ตรงนี้เองที่เมื่อเธอตัดสินใจทำเป็นอาชีพหลัก ก็เลยสร้างเพจเป็นของตัวเอง
พร้อมกับยิงโฆษณาใน Facebook และโทรคุยกับลูกค้า

เธอบอกว่าลูกค้าหลักของ COWAY คือคนที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรร
เธอเลยใช้ช่องทางออนไลน์เป็นอาวุธหลักในการขาย

ที่น่าสนใจก็คือ เธอรู้สึกภูมิใจกับอาชีพนี้ นับตั้งแต่วันแรกที่เป็นพนักงานขายที่ทำเป็นงานอดิเรก
จนวันนี้เธอทำเป็นอาชีพหลักพร้อมกับก้าวมาสู่ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย

“ต้องบอกว่าอาชีพนี้เปลี่ยนชีวิตเรามาก จากคนที่มีรายได้ไม่แน่นอน
ก็มีรายได้ที่แน่นอน แถมยังมากกว่าเดิม”

เธอยังเล่าต่อว่า การเป็นตัวแทนเครื่องกรองน้ำ COWAY ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงลงทุนด้วยเงินตัวเอง
เพราะสินค้าก็มีให้ขายทันที จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของเราเอง

ยิ่งเวลานี้ การขายเครื่องกรองน้ำ COWAY ง่ายขึ้นกว่าในอดีต
เมื่อทางแบรนด์เริ่มใช้งบโฆษณาทำให้คนไทยรู้จักมากขึ้น
อีกทั้งการใช้พรีเซนเตอร์บอยแบนด์อันดับหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้อย่างวง BTS
ทำให้คนเกิดความรู้สึกดีต่อแบรนด์
เลยทำให้ภาพรวมกราฟยอดขายเครื่องกรองน้ำ COWAY เติบโตอย่างก้าวกระโดด

อย่างไรก็ตาม คุณภีมชามาภา ก็ได้แชร์เทคนิคการสร้างยอดขาย ไว้อย่างน่าสนใจ
“สำคัญสุดคือต้องอธิบายให้ลูกค้ารู้ก่อนเลยว่าเครื่องกรองน้ำแบบ Subscription ตอบโจทย์อย่างไร
ทั้งการประหยัดกว่าซื้อน้ำขวดแบบแพ็ก, การได้น้ำสะอาดบริสุทธิ์ 100% และอื่น ๆ”

“อีกเรื่องที่จำเป็นก็คือความจริงใจ เราต้องให้คำปรึกษาลูกค้าอย่างตรงไปตรงมา
และมอบบริการที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้ามีความสุขกับการได้ใช้สินค้าของ COWAY
จากนั้นลูกค้าก็จะบอกต่อให้คนอื่น ๆ ฟัง แล้วมาเป็นลูกค้ากับเรา”

ที่น่าสนใจ เธอบอกว่าอาชีพนี้ไม่ได้แค่เปลี่ยนความมั่นคงทางการเงินในชีวิตเพียงอย่างเดียว
แต่ได้เปลี่ยนตัวตนของเธอจากคนเดิมให้กลายเป็นคนใหม่

เมื่อคนเดิมเธอก็คือมนุษย์ที่มีโลกส่วนตัวสูง เป็นคนพรีเซนต์นำเสนอสินค้าไม่เก่ง
ปัจจุบันเธอเป็นคนที่ชอบพบปะลูกค้า พรีเซนต์การขายได้อย่างคล่องแคล่ว

โดย ณ วันนี้กับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย ที่เธอเองมีลูกทีมกว่า 170 คน
ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าในจำนวนนี้มีทั้ง นักศึกษา, คนทำงานบริษัท, แม่ค้าในตลาดสด
หรือแม้แต่คนอายุ 60 ปีที่เกษียณจากงานประจำ

เธอเล่าให้ฟังว่า การมีลูกทีมต่างวัยและต่างอาชีพมาเจอกัน ไม่ใช่ปัญหาการทำงาน
เพราะทุกคนในทีมมีเป้าหมายรวมกันเป็นหนึ่ง
คือการสร้างยอดขายเครื่องกรองน้ำ COWAY 1 ล้านเครื่องให้ได้เร็วที่สุด
ซึ่งเวลานี้ทุกคนก็ทำได้ดีเกินคาดและได้ผลตอบแทนค่าคอมมิชชันเป็นที่น่าพอใจ

ยอดขาย 1 ล้านเครื่อง ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
และเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น ทำให้เธอมีการอบรมความรู้ใหม่ ๆ
จนถึงให้ลูกทีมแชร์ประสบการณ์การขายของตัวเองให้คนอื่น ๆ ได้ฟัง
เพื่อนำไปปรับใช้เป็นกลยุทธ์การขายของแต่ละคน
รวมถึงมีการนำผู้เชี่ยวชาญในการยิงสื่อออนไลน์มาสอนให้แก่ลูกทีมอีกด้วย

“ทุกคนในทีมดูตั้งใจและรู้สึกโชคดีที่มาทำงานที่นี่
เพราะขณะที่หลายคนตกงานเพราะโควิด 19 แต่ตัวเองยังมีงานทำ มีรายได้ที่ดี”

สรุปก็คืออาชีพนี้เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในความสำเร็จของธุรกิจ
ขอเพียงแค่มีความมุ่งมั่น พร้อมเรียนรู้

และนี่คือเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีจุดเปลี่ยนชีวิตด้วยคำว่า “กล้าที่จะเรียนรู้”
จากคน.. ที่ไม่เคยทำอาชีพ ตัวแทนการขาย เธอก็ลองเปิดใจหาประสบการณ์ใหม่ ๆ
จากคน.. ที่มีโลกส่วนตัวสูง เธอก็พร้อมปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลง
จากคน.. ที่ไม่เคยทำงานร่วมกับคนอื่น เวลานี้เธอมีลูกทีมที่ต้องให้คำปรึกษา 170 ชีวิต

เรื่องนี้ก็น่าจะทำให้หลายคนได้เรียนรู้ว่า
สุดท้ายแล้วชีวิตเราจะไปในทิศทางไหน คงไม่ใช่โชคชะตาหรือใครเป็นผู้กำหนด
หากแต่ตัวเราเองต่างหากคือผู้กำหนด
และต้องพร้อมที่จะ “กล้าที่จะเปลี่ยน และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา”