Business
Rebecca Minkoff แบรนด์แฟชั่นที่สื่อสารด้วย พลังความเป็นหญิง
15 มิ.ย. 2021
Rebecca Minkoff แบรนด์แฟชั่นที่สื่อสารด้วย พลังความเป็นหญิง /โดย ลงทุนเกิร์ล
ตอนเด็ก ๆ ทุกคนเคยมีอาชีพในฝันหรือไม่คะ
แล้วตอนนี้คุณได้ทำตามความฝันเหล่านั้นแล้วหรือยัง
เพราะคงไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้
แล้วตอนนี้คุณได้ทำตามความฝันเหล่านั้นแล้วหรือยัง
เพราะคงไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้
แต่ไม่ใช่สำหรับคุณ Rebecca Minkoff เพราะเธอมีความชื่นชอบในด้านแฟชั่นตั้งแต่เด็ก
และตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย เพื่อทำตามความฝัน
และตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย เพื่อทำตามความฝัน
จนปัจจุบันเธอมีแบรนด์ Rebecca Minkoff ซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ไม่เพียงขายสินค้าแฟชั่น
แต่ยังเป็นแบรนด์ที่สื่อสารออกมา เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนมีพลังในการใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง
แต่ยังเป็นแบรนด์ที่สื่อสารออกมา เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนมีพลังในการใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง
เรื่องราวของ Rebecca Minkoff น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Rebecca Minkoff จะบอกว่ามีมาตั้งแต่คุณ Rebecca Minkoff อายุได้ 8 ปี เลยก็ได้
เพราะเธอมีความชื่นชอบในด้านแฟชั่นตั้งแต่ยังเด็ก
จนเมื่อเธอเติบโตเข้าช่วงมัธยมปลาย เธอก็เริ่มเรียนรู้ด้านแฟชั่น โดยการออกแบบเสื้อผ้าใส่เอง
จนเมื่อเธอเติบโตเข้าช่วงมัธยมปลาย เธอก็เริ่มเรียนรู้ด้านแฟชั่น โดยการออกแบบเสื้อผ้าใส่เอง
พอเรียนจบ ในขณะที่เพื่อน ๆ หลายคนเลือกเรียนต่อมหาวิทยาลัยกัน
เธอกลับมองว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะวิ่งไล่ตามความฝันในด้านแฟชั่นของเธอ
เธอกลับมองว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะวิ่งไล่ตามความฝันในด้านแฟชั่นของเธอ
นั่นทำให้เธอในวัย 18 ปี เริ่มต้นเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัทแฟชั่นแห่งหนึ่ง
ก่อนจะตัดสินใจร่วมงานกับบริษัทนั้นเป็นเวลาอีก 2 ปีครึ่ง
ก่อนจะตัดสินใจร่วมงานกับบริษัทนั้นเป็นเวลาอีก 2 ปีครึ่ง
จนในปี 2001 หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ 9/11 เธอได้ออกแบบเสื้อยืด “I Love New York” ขึ้นมา
ซึ่งเสื้อยืดของเธอ ก็ได้ไปปรากฏในรายการ The Tonight Show
และกลายเป็นที่ฮือฮาในวงการแฟชั่นเพียงชั่วข้ามคืน
ถึงอย่างนั้นชื่อของเธอที่เป็นผู้ออกแบบ กลับยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก
และกลายเป็นที่ฮือฮาในวงการแฟชั่นเพียงชั่วข้ามคืน
ถึงอย่างนั้นชื่อของเธอที่เป็นผู้ออกแบบ กลับยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะเริ่มต้นทำแบรนด์เป็นของตัวเองอย่างเป็นทางการ
คุณ Rebecca Minkoff มักจะทำเสื้อผ้าออกมาในเวลาว่าง และนำไปฝากขายตามร้านค้าต่าง ๆ
คุณ Rebecca Minkoff มักจะทำเสื้อผ้าออกมาในเวลาว่าง และนำไปฝากขายตามร้านค้าต่าง ๆ
ซึ่งในตอนนั้นเงินที่เธอหามาได้ก็ไม่ได้มีมากเพียงพอที่จะให้เธอเริ่มต้นธุรกิจเป็นของตัวเองได้
เธอจึงตัดสินใจที่จะไปกู้เงินจากพ่อของเธอเพื่อมาทำกระเป๋าแบรนด์ของตัวเอง
เธอจึงตัดสินใจที่จะไปกู้เงินจากพ่อของเธอเพื่อมาทำกระเป๋าแบรนด์ของตัวเอง
น่าเสียดายที่พ่อของเธอไม่ได้สนับสนุนในเรื่องนี้ ผิดกับพี่ชายที่พยายามสนับสนุนเธอเต็มที่
และคอยให้เงินสนับสนุนเธอ จนทำให้ทั้งเธอและพี่ชายกลายเป็นหุ้นส่วนกันในที่สุด
และคอยให้เงินสนับสนุนเธอ จนทำให้ทั้งเธอและพี่ชายกลายเป็นหุ้นส่วนกันในที่สุด
ในที่สุด เธอได้ออกแบบกระเป๋า ชื่อรุ่นว่า “Morning After Bag” ในปี 2005
หรือบางคนก็รู้จักในชื่อ M.A.B. ซึ่งกลายเป็นกระเป๋าที่เป็นที่นิยมอย่างมาก
และยังเป็นสินค้า ที่ทำให้คุณ Rebecca Minkoff กลายเป็นที่รู้จักจนถึงปัจจุบัน
หรือบางคนก็รู้จักในชื่อ M.A.B. ซึ่งกลายเป็นกระเป๋าที่เป็นที่นิยมอย่างมาก
และยังเป็นสินค้า ที่ทำให้คุณ Rebecca Minkoff กลายเป็นที่รู้จักจนถึงปัจจุบัน
รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้เธอขยับขยายสินค้ามาสู่หมวดอื่น ๆ
อย่างเสื้อผ้า เครื่องประดับ จนต่อมาก็มีโอกาสได้เปิดตัวคอลเลกชันที่ New York Fashion Week
อย่างเสื้อผ้า เครื่องประดับ จนต่อมาก็มีโอกาสได้เปิดตัวคอลเลกชันที่ New York Fashion Week
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จัก ไม่ใช่แค่เพราะดีไซน์การออกแบบที่ดูสวยงาม ไร้กาลเวลา
แต่เป็นการใช้ “โซเชียลมีเดีย” ของคุณ Rebecca Minkoff ที่ทำให้แบรนด์ของเธอเป็นที่โด่งดัง
แต่เป็นการใช้ “โซเชียลมีเดีย” ของคุณ Rebecca Minkoff ที่ทำให้แบรนด์ของเธอเป็นที่โด่งดัง
ในยุคแรกก่อนที่จะมีโซเชียลมีเดียเหมือนอย่างในปัจจุบัน
ตอนนั้นการสื่อสารที่เธอใช้ คือการสื่อสารผ่านทางนิตยสาร ที่สนใจนำเรื่องราวของเธอไปเขียน
ตอนนั้นการสื่อสารที่เธอใช้ คือการสื่อสารผ่านทางนิตยสาร ที่สนใจนำเรื่องราวของเธอไปเขียน
และพอเริ่มเข้าสู่ยุคโซเชียล เธอก็เริ่มสื่อสารกับผู้บริโภคโดยตรง
เพื่อดูว่าลูกค้าต้องการอะไร อะไรที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของเธอ และพยายามตอบโจทย์เหล่านั้น
เพื่อดูว่าลูกค้าต้องการอะไร อะไรที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของเธอ และพยายามตอบโจทย์เหล่านั้น
จนกระทั่งในปี 2015 คุณ Rebecca Minkoff ได้เปิดหน้าร้านของเธอในย่านซานฟรานซิสโก
โดยร้านของเธอไม่เปิดเป็นร้านธรรมดา ๆ แต่เปิดเป็นร้าน Smart Store
ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของ Rebecca Minkoff และ eBay
ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของ Rebecca Minkoff และ eBay
ลองจินตนาการว่า เราหยิบเสื้อเข้าไปลอง และพบว่ามันเล็กเกินไป เราจะทำอย่างไร
อย่างแรกก็คงเป็นการแหวกผ้าม่านออกมาเพื่อบอกพนักงาน ให้ช่วยไปหยิบไซซ์ที่ใหญ่ขึ้น
หรือไม่ก็ต้องเปลี่ยนเสื้อกลับ และเดินออกไปหยิบเอง ก่อนจะเข้ามาลองใหม่
อย่างแรกก็คงเป็นการแหวกผ้าม่านออกมาเพื่อบอกพนักงาน ให้ช่วยไปหยิบไซซ์ที่ใหญ่ขึ้น
หรือไม่ก็ต้องเปลี่ยนเสื้อกลับ และเดินออกไปหยิบเอง ก่อนจะเข้ามาลองใหม่
แต่ไม่ใช่สำหรับร้านของ Rebecca Minkoff เพราะที่ร้านของเธอนั้น
ลูกค้าสามารถออร์เดอร์ไซซ์เสื้อที่ต้องการลอง ผ่านทางกระจกในห้องลองได้เลย
ลูกค้าสามารถออร์เดอร์ไซซ์เสื้อที่ต้องการลอง ผ่านทางกระจกในห้องลองได้เลย
รวมถึงเราสามารถสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เราอยากออกไปทำในชุดเหล่านั้นผ่านกระจก
เพื่อที่จะเสริมสร้างความมั่นใจในตอนที่เราสวมใส่ชุดเหล่านั้นจริง ๆ
ที่น่าสนใจคือ ลูกค้าสามารถสั่งแชมเปญเข้าไป เพื่อดื่มในห้องแต่งตัวได้อีกด้วย
เพื่อที่จะเสริมสร้างความมั่นใจในตอนที่เราสวมใส่ชุดเหล่านั้นจริง ๆ
ที่น่าสนใจคือ ลูกค้าสามารถสั่งแชมเปญเข้าไป เพื่อดื่มในห้องแต่งตัวได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ ก็ทำให้ชื่อของคุณ Rebecca Minkoff และแบรนด์ กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ซึ่งเธอก็พบว่า ทุกครั้งที่เธอออกไปพูดให้สัมภาษณ์ หรือออกไปพูดตามงานอีเวนต์ต่าง ๆ
สิ่งที่ผู้คนมักจะถามเธอแทบทุกครั้ง คือเธอเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างไร
เธอจึงพยายามมองวิธีที่จะสร้างการรับรู้ และสนับสนุนบริษัทต่าง ๆ ที่ก่อตั้งโดยผู้หญิง
ซึ่งเธอก็พบว่า ทุกครั้งที่เธอออกไปพูดให้สัมภาษณ์ หรือออกไปพูดตามงานอีเวนต์ต่าง ๆ
สิ่งที่ผู้คนมักจะถามเธอแทบทุกครั้ง คือเธอเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างไร
เธอจึงพยายามมองวิธีที่จะสร้างการรับรู้ และสนับสนุนบริษัทต่าง ๆ ที่ก่อตั้งโดยผู้หญิง
จนในที่สุดก็กลายมาเป็น โปรเจกต์ Female Founder Collective
ซึ่งไม่เพียงแค่เกิดขึ้นมาเพื่อแชร์เรื่องราว พูดคุย เกี่ยวกับผู้หญิงเท่านั้น
ซึ่งไม่เพียงแค่เกิดขึ้นมาเพื่อแชร์เรื่องราว พูดคุย เกี่ยวกับผู้หญิงเท่านั้น
แต่คุณ Rebecca Minkoff ยังคิดไปอีกว่า ทำไมไม่ลองทำป้ายที่บอกว่า
สินค้าเหล่านี้มีผู้ก่อตั้งหรือเจ้าของเป็นผู้หญิง เพื่อแสดงถึงความสามารถ
และอีกมุมหนึ่งก็เพื่อให้ ผู้หญิง ได้ช่วยกันสนับสนุนสินค้าของผู้หญิงด้วยกันเอง
สินค้าเหล่านี้มีผู้ก่อตั้งหรือเจ้าของเป็นผู้หญิง เพื่อแสดงถึงความสามารถ
และอีกมุมหนึ่งก็เพื่อให้ ผู้หญิง ได้ช่วยกันสนับสนุนสินค้าของผู้หญิงด้วยกันเอง
นอกจากนี้เธอยังได้ทำพอดแคสต์ขึ้นมาในชื่อรายการ Superwomen with Rebecca Minkoff
ซึ่งเป็นรายการที่จะนำเรื่องราวของผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ มาเผยแพร่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ฟัง
ซึ่งเป็นรายการที่จะนำเรื่องราวของผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ มาเผยแพร่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ฟัง
ทำให้ Rebecca Minkoff ไม่ได้เป็นเพียงแค่แบรนด์แฟชั่น ที่รับฟังความต้องการของลูกค้าเท่านั้น
แต่ยังสื่อสาร พูดคุย กับลูกค้า และเป็นพลังผลักดันให้กับลูกค้าของเธอในเวลาเดียวกัน
ซึ่งการทำแบบนี้ก็ทำให้ Rebecca Minkoff แตกต่างจากแบรนด์แฟชั่นอื่น ๆ ในตลาด
แต่ยังสื่อสาร พูดคุย กับลูกค้า และเป็นพลังผลักดันให้กับลูกค้าของเธอในเวลาเดียวกัน
ซึ่งการทำแบบนี้ก็ทำให้ Rebecca Minkoff แตกต่างจากแบรนด์แฟชั่นอื่น ๆ ในตลาด
อ่านมาถึงตรงนี้ สิ่งที่ทำให้คุณ Rebecca Minkoff ประสบความสำเร็จคงเป็น “ความแตกต่าง”
โดยเธอกล่าวว่า หากสินค้าของเราเหมือนคนอื่น ก็จงเล่าเรื่องของสินค้าให้ต่างจากคนอื่น
รวมถึงการรับฟังเสียงของลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าด้วยสินค้าที่เราทำ
รวมถึงการรับฟังเสียงของลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าด้วยสินค้าที่เราทำ
สำหรับ Rebecca Minkoff จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่แบรนด์แฟชั่น เพื่อความสวยงามเท่านั้น
แต่เป็นแบรนด์ที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้หญิงสนับสนุนกันและกัน
ไม่เพียงแค่ในแง่ธุรกิจ แต่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่กันและกันอีกด้วย..
แต่เป็นแบรนด์ที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้หญิงสนับสนุนกันและกัน
ไม่เพียงแค่ในแง่ธุรกิจ แต่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่กันและกันอีกด้วย..