กรณีศึกษา: ทัฟแอนด์ทัมเบิล สตาร์ทอัพสัญชาติอเมริกัน เชื้อสายไทย ที่ทำธุรกิจ Personal Care สำหรับผู้ชาย เจาะตลาดอย่างไรให้สามารถมีลูกค้าอยู่ใน 99 ประเทศทั่วโลก?
Business

กรณีศึกษา: ทัฟแอนด์ทัมเบิล สตาร์ทอัพสัญชาติอเมริกัน เชื้อสายไทย ที่ทำธุรกิจ Personal Care สำหรับผู้ชาย เจาะตลาดอย่างไรให้สามารถมีลูกค้าอยู่ใน 99 ประเทศทั่วโลก?

22 มิ.ย. 2021
พูดถึงธุรกิจ Personal Care คนส่วนใหญ่คงนึกไปถึงตลาดเครื่องสำอางขนาดใหญ่ของผู้หญิง แต่หารู้ไม่ว่าเทรนด์ตลาดทั่วโลกที่เติบโตแรง มาอย่างเงียบ ๆ คือตลาดเครื่องสำอาง Men’s Grooming ของผู้ชาย ผลิตภัณฑ์จำพวกผลิตภัณฑ์แต่งผม, โกนหนวด และ Skin Care ซึ่งจะเติบโตไปแตะที่มูลค่า 2.8 ล้านล้านบาท ในปี 2024 สูงขึ้นถึง 15% ภายใน 4 ปี
โดยที่ประเทศจีนมีการเติบโตมากสุดถึง 13.5% ต่อปี
ตามมาด้วยเกาหลีใต้ 10%
ขณะที่เมืองไทยเรา ไม่น้อยหน้า โตที่ 8%
โดยมูลค่าตลาดรวมของไทยคือ 12,000 ล้านบาท
“ทัฟแอนด์ทัมเบิล” ถูกตั้งและจดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้การก่อตั้งจาก 3 หัวเรือใหญ่ คุณลอรี่ พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ, คุณนาเดีย ดะห์ลัน และอีกหนึ่งหุ้นส่วนในสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบันทิศทางของบริษัทกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็น Startup สาย Personal Care ที่ Global Focused ตีตลาด D2C ออนไลน์ทุกภูมิภาคทั่วโลก
“ผู้บริโภคชายเคยถูกจำกัดตัวเอง ในนิยามผู้ชายแบบดั้งเดิมอยู่ตลอด.. คือถ้าคุณแมนซะอย่าง ต้องไม่สำอางนะ” คุณลอรี่ พงศ์พล Co-Founder จากทัฟแอนด์ทัมเบิลแสดงถึงปัญหา
วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เทรนด์วัยรุ่นชายรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง ประทินผิว-หน้า-ผมแบบไม่ต้องอาย
ทั้งการสั่งของทางออนไลน์ก็ดี สามารถลดความเคอะเขิน ในการซื้อเครื่องสำอางของผู้ชายลงเช่นกัน
มิชชั่นของ ทัฟแอนด์ทัมเบิล จึงต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ ให้ผู้ชายรู้สึกว่าเรื่องสำอาง เป็นเหมือนของเล่นที่คุณเอนจอย หรือเป็น Gadget คูล ๆ ที่เป็น conversation starter สร้างบทสนทนาระหว่างเพื่อนฝูง
ทัฟแอนด์ทัมเบิล จึงใช้ดีไซน์เป็นเครื่องมือ ในการสร้าง Design Language ที่สื่อสารในภาษาเดียวกันกับกลุ่มลูกค้าชาย ทำให้สินค้าของ T&T ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมาย
ทัฟแอนด์ทัมเบิล ได้รับตรา “Amazon Choice” 5 ปีซ้อน เป็นสินค้าขายดีใน Amazon.com ที่ได้ ranking สูงถึง 4.5/5 และอีกหลายผลิตภัณฑ์แต่งผม ที่ได้รับรางวัลการออกแบบจากเวทีชั้นนำทั่วโลก อย่าง Red Dot Design (เยอรมนี), GMark (ญี่ปุ่น)
นอกจากนี้ กลยุทธ์สินค้าในส่วนของนวัตกรรม ทัฟแอนด์ทัมเบิล มี SUBBOX สำหรับการสั่งซื้อในรูปแบบ Subscription เติมสินค้าให้ผู้ใช้อัตโนมัติทุก ๆ 2 เดือน เริ่มต้นจำกัดเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และประเทศไทย
ซึ่งโมเดลนี้สามารถช่วยทำให้แบรนด์เองมี Recurring Revenue รายได้ที่สามารถคาดคะเนล่วงหน้าได้
ทัฟแอนด์ทัมเบิล มีฐานลูกค้าออนไลน์ที่ทำการซื้อทั้งหมดใน 99 ประเทศ ที่จำนวนประเทศเยอะขนาดนี้ เป็นเพราะ T&T เค้าใช้การตลาดแบบ D2C โดยตั้งสหรัฐอเมริกาเป็นจุดศูนย์กลาง ใช้ฐานอินฟลูเอ็นเซอร์หลากเชื้อชาติ ดึงความสนใจกับลูกค้าทั่วโลก โดยทุกการซื้อขายทำได้ตรงที่เว็บไซต์ จัดส่งจากฮับที่สหรัฐอเมริกา และไทยถึงประตูบ้านลูกค้าทั่วโลก
“เราก่อตั้งที่เมืองบรู๊คลินในปี 2013.. ก่อนมาทำออฟฟิศอีกสาขาที่เมืองไทย ลำดับต่อไปคือ เราจะโฟกัสที่ตลาดเอเชียตะวันออก, อเมริกา ก่อนจะรุกรานไปทั่วโลก” คุณนาเดีย ดะห์ลัน CEO & Co-Founder ทัฟแอนด์ทัมเบิลแสดงวิสัยทัศน์
การทำลายกำแพงค่าส่งต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่น้อย เป็นการเปิดประตูตลาดสู่ภูมิภาคใหม่ ๆ อย่างแท้จริง
ขณะนี้ T&T สามารถส่งฟรีให้ลูกค้า 9 ประเทศในแถบเอเชียนำร่องได้แล้ว และกำลังดำเนินต่อไป
และนี่ก็คือเรื่องราวจาก สตาร์ทอัพอย่าง ทัฟแอนด์ทัมเบิล ที่ใช้ดีไซน์ และเทคโนโลยี มา execute ตลาดสินค้าดูแลตัวเองของผู้ชายที่มีอยู่เดิมให้ปัง
ซึ่งประจวบเหมาะกับ segment สินค้าดูแลตัวเองของผู้ชายยังมาแรงต่อเนื่องในตลาดโลก อย่างที่เราได้เห็นแบรนด์อย่าง Dollar Shave Club, Hims สตาร์ทอัพสายผู้ชายดูแลตัวเอง ถูกยักษ์ใหญ่อย่าง Unilever, Oaktree ซื้อไปในมูลค่า หลายหมื่นล้านบาท ตอกย้ำความร้อนแรงของธุรกิจสายนี้ได้เป็นอย่างดี
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.