RINTARO ร้านไอศกรีมเจลาโต ที่คิวยังยาวเหยียด แม้ในช่วงโควิด
Food

RINTARO ร้านไอศกรีมเจลาโต ที่คิวยังยาวเหยียด แม้ในช่วงโควิด

22 มิ.ย. 2021
RINTARO ร้านไอศกรีมเจลาโต ที่คิวยังยาวเหยียด แม้ในช่วงโควิด /โดย ลงทุนเกิร์ล
หากใครที่ไปเดินแถวย่านพระโขนง โดยเฉพาะช่วงเย็น ๆ ไปจนถึงช่วง 2-3 ทุ่ม
ลองเดินไปที่ W District ก็จะได้เห็นคนต่อแถวกันยาวเหยียด
ซึ่งแถวทั้งหมดนั้นคือ การต่อคิวเข้าร้าน “RINTARO (รินทาโร)”
และถึงแม้จะเป็นช่วงโควิด ก็ยังมีคนยอมไปรอเป็นชั่วโมง เพื่อให้ได้กินไอศกรีมเจลาโตร้านนี้

เจ้าของ RINTARO คือใคร ?
และมีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างไร ทำไมคนถึงยอมรอคิวขนาดนี้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

RINTARO คือไอศกรีมเจลาโตฝีมือคนญี่ปุ่น ที่มาจากชิบะ นั่นก็คือ คุณชินทาโร่ นากาจิมะ

โดยจุดเริ่มต้นของ RINTARO ไม่ได้เริ่มต้นขึ้นในประเทศไทย
แต่เป็นจังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น และผู้ก่อตั้งก็เป็นพี่ชายของคุณชินทาโร่
ซึ่ง RINTARO สาขาชิบะนั้น เป็นร้านขายอาหารที่มุ่งเน้นการร่วมมือกับเกษตรกรในพื้นที่
เพราะทางร้านอยากอุดหนุนวัตถุดิบจากคนในท้องถิ่นมาปรุงอาหาร

แต่สาเหตุที่ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้เลือกมาทำไอศกรีม ก็เพราะว่าต้องการอุดหนุนเกษตรกรเพิ่มขึ้น
เนื่องจากการทำอาหาร จะใช้วัตถุดิบเพียงแค่เนื้อสัตว์ ผัก แต่การทำไอศกรีมจะทำให้ทางร้านได้ใช้ผลไม้ด้วย

ซึ่งประเด็นการอยากช่วยเหลือเกษตรกรนี้เอง ก็ได้มาเป็นแรงบันดาลใจให้คุณชินทาโร่
อยากจะดำเนินกิจการแบบนี้บ้าง เขาจึงใช้แนวคิดเดียวกับพี่ชาย
โดยจะใช้ผลผลิตที่ปลูกโดยเกษตรกรจากทั้งไทยและญี่ปุ่น

และการที่คุณชินทาโร่ เลือกประเทศไทย ก็เพราะเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว
เขาเริ่มเห็นเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ การทำอาหารโฮมเมด หรือการทำอะไรที่มีความสดใหม่
กำลังเป็นที่นิยมในไทย อีกทั้งในไทยก็ยังไม่ค่อยมีแบรนด์ไอศกรีมของญี่ปุ่นรูปแบบนี้มาเปิด
นอกจากนั้นประเทศไทยยังเต็มไปด้วยผลไม้ที่มีคุณภาพชั้นดี และมีสายพันธุ์ที่หลากหลาย

แต่ในช่วงเริ่มต้น อะไร ๆ ก็ยังไม่สวยหรูนัก ลูกค้าแทบไม่มี
เพราะลูกค้าคนไทยยังไม่ค่อยอินกับรสชาติที่มีส่วนผสมแปลก ๆ แบบนี้เท่าไรนัก
เช่น รสผักชี รสโหระพา หรือรสกามองแบร์ ซึ่งถือว่าเป็นรสชาติที่ค่อนข้างใหม่สำหรับคนไทย

อีกทั้งช่วงแรก คุณชินทาโร่ จะบริหารร้านแบบที่ญี่ปุ่นคือ ไม่ให้ลูกค้าชิมไอศกรีมเลย
แต่สุดท้ายก็เริ่มปรับเปลี่ยน ลองให้ลูกค้าเริ่มชิมไอศกรีมได้ทุกรสชาติ
ทำให้เขาได้พูดคุยกับลูกค้าแต่ละคนมากขึ้น และลูกค้าก็มักจะเปรียบเทียบรสชาติไอศกรีมให้เขาฟัง

และนี่เองที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้คุณชินทาโร่ได้รู้ว่าคนไทยชอบรสชาติอะไร
มีสไตล์การกินเป็นแบบไหน ทำให้เขานำฟีดแบ็กไปปรับปรุงและพัฒนารสชาติ

ซึ่งคนไทยกับคนญี่ปุ่นมีความชอบที่คล้ายคลึงกัน คือชอบรสชาติที่หวานน้อย
ทำให้เขาไม่ได้ทำเจลาโตตามแบบฉบับออริจินัล นั่นก็คือแบบอิตาลี
ที่มีความหนืดและมีความหวาน มากกว่าสูตรที่ RINTARO ทำ

โดยจุดเด่นของเจลาโตจาก RINTARO ก็คือ

1. วัตถุดิบสดใหม่ ไม่ใช้ผลไม้แช่แข็ง หรือสารเคมีในการทำไอศกรีม ทำให้ต้องทำรสชาติไอศกรีมสดใหม่ทุกวัน ประมาณ 14 รส เพราะรสชาติที่ดีที่สุดจะอยู่ได้แค่ 72 ชั่วโมงเท่านั้น

2. จะใช้ผลไม้ตามฤดูกาลของไทย เช่น ช่วงนี้เป็นหน้าของโกโก้ เขาก็จะนำโกโก้จากชุมพร จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ มาเป็นรสชาติไอศกรีม ซึ่งเขาต้องการดึงจุดเด่นของวัตถุดิบ จากเกษตรกรให้ได้มากที่สุด

3. ไม่ผสมน้ำตาลเลย แต่จะดึงความหวานจากวัตถุดิบหรือน้ำผึ้งแทน

4. ใส่ความเป็นโฮมเมดในทุกกระบวนการ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ทาง RINTARO จะทำขึ้นมาเองทั้งหมด
เช่น โคนวอฟเฟิลที่ทำสดให้ลูกค้าดู วัตถุดิบเล็ก ๆ อย่างถั่วแดง โมจิ ก็จะทำเอง

5. เมนูมีความหลากหลาย และแตกต่าง หากทำไอศกรีมรสผลไม้แค่รสเดียว คุณชินทาโร่มองว่ามันก็จะธรรมดาไป
ดังนั้นเมื่อมีวัตถุดิบเป็นผลไม้ เขาก็จะคิดต่อว่า มันผสมเป็นอะไรได้อีก
เช่น นำผลเบอร์รีผสมกับโยเกิร์ต ก็จะได้รสเบอร์รีโยเกิร์ต
หรือชีสกามองแบร์ผสมกับคาราเมลนัต ก็กลายเป็นรสหวาน ขม เค็ม ซึ่งเป็นรสชาติที่ลูกค้าสั่งมากที่สุด

แต่อย่างไรก็ตามไอศกรีมทุกรสชาติ จะมาจากไอเดียของคุณชินทาโร่ทั้งหมด
เพราะเขาเชื่อมั่นในสิ่งที่เขาทำ จากประสบการณ์ของเขาเอง

ดังนั้นสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ จะเป็นสิ่งที่หาได้ยากในท้องตลาด
ซึ่งการที่เขาฟังฟีดแบ็กของลูกค้าเสมอ ก็จะเป็นเรื่องของการนำไปพัฒนาให้ดีขึ้นมากกว่า

ส่วนในช่วงโควิด แม้ทางร้านจะงดให้ลูกค้าชิมรสชาติไอศกรีมแล้ว และให้เข้าไปซื้อได้แค่ทีละ 2 คน
แต่ลูกค้าก็ยังหนาแน่น มานั่งรอคิวกันหน้าร้าน ซึ่งจำนวนก็ดูไม่ได้น้อยลงเลย
เพราะความอร่อยที่หากินที่ไหนได้ยาก และความสดใหม่ของผลไม้ตามฤดูกาลนั่นเอง

และทั้งหมดนี้เองจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าบอกต่อกันแบบปากต่อปาก
ลูกค้าค่อย ๆ เพิ่มขึ้นหลายเท่าจากวันแรก
และจากที่มีสาขาในไทยเพียงสาขาเดียว ที่ W District
มาวันนี้เขาได้ตัดสินใจเปิดสาขา 2 ที่อารีย์ จนเป็นที่พูดถึงในโซเชียลอย่างมากมาย

ไม่น่าเชื่อเลยว่าจากจุดเริ่มต้นที่คิดถึงเกษตรกร จะมาถึงวันที่ RINTARO ได้กลายมาเป็นแบรนด์ไอศกรีมเจลาโต ที่ลูกค้าคิดถึงเป็นอันดับต้น ๆ ในกรุงเทพฯ ไปแล้ว..

References:
https://readthecloud.co/rintaro-ice-cream-bangkok/
https://becommon.co/life/rintaro-bangkok-thailand/
https://adaymagazine.com/rintaro-gelato/
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.