Bite ยาสีฟันแบบเม็ด ที่แก้ปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ /โดย ลงทุนเกิร์ล

รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ บรรจุภัณฑ์นับว่าเป็นขยะอีกประเภทหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาขยะล้นโลก
โดยปริมาณขยะจากบรรจุภัณฑ์นั้นก็มีมากถึง 77.5 ล้านตันเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าวัสดุหลายอันจะสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือย่อยสลายได้ แต่ก็ยังต้องอาศัยเวลาในการกำจัดอยู่ดี

ซึ่งหนึ่งในบรรจุภัณฑ์ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงก็คือ “ยาสีฟัน” ที่ปกติจะมาเป็นแบบหลอดบีบ และยังบรรจุอยู่ในกล่องกระดาษอีกต่างหาก

ทำให้เท่ากับว่าการซื้อยาสีฟัน 1 ครั้งนั้นเราจะมีขยะถึง 2 ชิ้นในคราวเดียว โดยมีการคาดการณ์ว่าหลอดยาสีฟันนั้นถูกทิ้งมากถึง 1,000 ล้านชิ้นต่อปี

และนี่เองก็เป็นจุดเริ่มต้นให้กับบริษัท Bite เริ่มหันมาทำยาสีฟันแบบเม็ด ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมมากกว่ายาสีฟันแบบหลอด

แล้วยาสีฟันแบบเม็ด มีดีกว่ายาสีฟันแบบหลอดอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นของ Bite นั้นมาจากคุณ Lindsay McCormick

โดยเธอมีอาชีพเป็นโปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์ ทำให้เธอต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอต้องมีเซตเครื่องใช้ในห้องน้ำพกติดตัวไว้ตลอด

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกสิ้นเปลืองมากที่สุดก็คือ “ยาสีฟัน”

เพราะสำหรับสบู่ แชมพู หรือโลชันนั้น มันสามารถนำขวดเปล่าไปเติมเป็นแบบรีฟิลได้เรื่อย ๆ แต่ไม่ใช่กับยาสีฟันที่เมื่อใช้จนหมดหลอดแล้ว ก็มีแต่ต้องทิ้งไปเพื่อซื้อหลอดใหม่มาทดแทน

เรื่องนี้ทำให้เธอเริ่มมองหาหนทางอื่น ที่จะช่วยลดขยะพลาสติกลงได้

เธอได้ทดลองทั้งยาสีฟันแบบผง แต่มันก็ใช้งานยาก
ส่วนยาสีฟันแบบเม็ด แม้จะสะดวกขึ้น แต่เท่าที่วางขายในท้องตลาด ก็มีรสชาติที่แย่

จนในที่สุดเธอจึงตัดสินใจที่จะทำมันขึ้นเอง

ที่น่าสนใจคือ เธอไม่ได้มีประสบการณ์ด้านการทำยาสีฟันมาก่อน แต่ก็ได้ไปลงเรียนวิชาเคมี ซื้ออุปกรณ์เครื่องอัดเม็ด รวมทั้งปรึกษากับทันตแพทย์

ก่อนจะเริ่มทดลองทุกอย่างในห้องนั่งเล่นของเธอ จนกลายมาเป็นยาสีฟันแบบอัดเม็ด Bite ที่เปิดตัวในปี 2018

โดยทุนตั้งต้นของคุณ Lindsay McCormick ก็มาจากเงินเก็บจำนวน 197,000 บาท

ในช่วงแรก ๆ นั้นลูกค้าของเธอ คือ คนรอบตัว ทั้งครอบครัวและเพื่อนฝูง

จากนั้นเธอก็ได้ลงวิดีโออธิบายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาสีฟันแบบเม็ดลงในโซเชียลมีเดีย สินค้าของเธอจึงได้รับความสนใจมากขึ้น จนสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 6 ล้านบาทในสัปดาห์เดียว

เมื่อเห็นโอกาสที่ธุรกิจจะเติบโต คุณ Lindsay McCormick จึงลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำ Bite แบบเต็มตัว

อ่านมาถึงตรงนี้อาจเริ่มสงสัยกันแล้วว่า
ยาสีฟันแบบเม็ดของ Bite ต่างจากยาสีฟันแบบเม็ดของยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

อย่างแรกเลยคือ จุดยืนของแบรนด์ที่ทำออกมาแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเป็นแก้ว ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

รวมถึงแพ็กเกจจิงส่วนอื่น ๆ เอง ทั้งซองส่งสินค้า หรือซองใส่สินค้าสำหรับรีฟิล
ก็สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้

นอกจากนี้ตัวเม็ดยาสีฟันเองก็ปราศจากกลูเทน 100% คนทานวีแกนสามารถใช้ได้และไม่มีการทดลองกับสัตว์อีกด้วย

ดังนั้น แม้ว่าในแง่สรรพคุณ Bite จะไม่ได้ต่างจากยาสีฟันเม็ดแบรนด์อื่นสักเท่าไร

แต่ถ้าวัดกันในมุมของเรื่องการรักษ์โลกแล้ว Bite ก็น่าจะได้คะแนนจากเรื่องนี้ไปเต็ม ๆ

แล้วยาสีฟันแบบเม็ดนี้ใช้งานอย่างไร ?

สำหรับวิธีใช้นั้นง่ายมาก เพียงแค่หยิบแล้วเคี้ยว ก่อนที่จะแปรงฟันตามปกติได้เลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำในการแปรงแต่อย่างใด

หลังจากนั้นก็ไม่ต้องบ้วนน้ำหลังแปรงฟันเสร็จ แค่บ้วนฟองที่มีอยู่ในปากออกให้หมดก็เพียงพอแล้ว

ซึ่งจริง ๆ ก็มีงานวิจัยออกมาสนับสนุนว่า “การแปรงฟันแบบแห้ง” นั้น มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าการแปรงฟันด้วยน้ำ แบบที่เราทำกันเป็นปกติด้วย

ปัจจุบัน Bite มีลูกค้ากว่า 100,000 คน และยังมีลูกค้าที่ซื้อสินค้าแบบรายเดือนกับแบรนด์อีกกว่า 20,000 คน

โดยในปี 2019 Bite มีรายได้เกือบ 100 ล้านบาท และมีสินค้าอื่น ๆ อย่างแปรงสีฟันที่ทำจากไม้ ลูกอมดับกลิ่น ไหมขัดฟัน และน้ำยาเคลือบฟันขาวขายอีกด้วย

เรียกว่ายุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าการทำธุรกิจนั้นไม่ได้มีเพียงแค่สินค้าเท่านั้น แต่เรื่องราวของแบรนด์ จุดยืนของแบรนด์ และเป้าหมายของแบรนด์เองก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าได้เช่นกัน..

References:
-https://bitetoothpastebits.com/
-https://www.fastcompany.com/90526016/most-creative-people-2020-lindsay-mccormick
-https://www.forbes.com/sites/meimeifox/2019/12/11/how-bite-is-revolutionizing-toothpaste-and-the-oral-care-industry/?sh=5062e65f656b
-https://www.cnbc.com/2020/03/09/shark-tank-why-bite-toothpaste-bits-turned-down-mark-cuban-deal.html
-https://www.youtube.com/watch?v=HT7jS6sILwQ