ทำไม NISSAN KICKS e-POWER ถึงเป็นรถคู่ใจ ของผู้หญิงยุคใหม่
Lifestyle

ทำไม NISSAN KICKS e-POWER ถึงเป็นรถคู่ใจ ของผู้หญิงยุคใหม่

31 ส.ค. 2021
ทำไม NISSAN KICKS e-POWER ถึงเป็นรถคู่ใจ ของผู้หญิงยุคใหม่
Nissan X ลงทุนเกิร์ล
ใครว่าผู้หญิงขับรถไม่เก่ง ตอนนี้อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่
เพราะปัจจุบัน บริบททางสังคมได้เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว
ประกอบกับ การพัฒนาของเทคโนโลยี ที่เข้ามาเป็นเหมือนตัวช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
อย่างเช่นเทคโนโลยีด้านยนตรกรรม ถ้าเป็นเมื่อก่อน กว่ารถจะเคลื่อนหรือจะหยุด ผู้ขับขี่ก็ต้องเหยียบคลัตช์ ตามด้วยการขยับเกียร์อีกหลายที
แต่ปัจจุบันทุกอย่างกลับง่ายขึ้นอย่างมาก แม้แต่การหันมองกระจกหลังก็อาจไม่จำเป็นแล้ว เพราะเรามีกล้องพร้อมเซนเซอร์ติดอยู่รอบรถ ที่ช่วยให้เราขับขี่ได้อย่างสบายและปลอดภัย
ถึงแม้ว่าการขับรถจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่การจะซื้อรถยนต์สักคัน สำหรับผู้หญิงวัยทำงาน ก็ยังถือเป็นการลงทุนก้อนใหญ่
ดังนั้นถ้าเราอยากจะได้รถคู่ใจสักคัน คงเน้นแต่ที่รูปร่างหน้าตาภายนอกอย่างเดียวไม่ได้ แต่ยังต้องมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ขับขี่ได้ง่ายและปลอดภัยด้วย
แล้วถ้าอยากได้ “รถยนต์คู่ใจ” ตอนนี้มีรุ่นไหนน่าลงทุนบ้าง ?
ถ้าให้พูดถึงเทรนด์รถยนต์ ที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในปัจจุบัน ก็คงจะหนีไม่พ้น “รถยนต์ไฟฟ้า” ซึ่งขึ้นชื่อทั้งเรื่องความนุ่มและความเงียบในการขับขี่ และยังสอดคล้องกับเทรนด์รักษ์โลก ที่ทั่วโลกรณรงค์กันอยู่ตอนนี้ด้วย
แต่ข้อกังวลที่สำคัญก็คือ “การชาร์จไฟฟ้า”
ถ้าที่พักอาศัยของเราไม่มีสถานีชาร์จจะทำอย่างไร
ขับรถไปไกล ๆ จะมีสถานีชาร์จให้บริการหรือไม่
การชาร์จไฟแต่ละครั้ง กินเวลานานแน่ ๆ
นอกจากนั้น ก็น่าจะมีเรื่องของ “ราคา” ที่ยังอาจจะสูงอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
ดังนั้น แม้รู้สึกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะดีแค่ไหน หลาย ๆ คนจึงลังเลอยู่บ้าง
พอเรื่องเป็นแบบนี้ Nissan จึงหาจุดตรงกลาง โดยการนำข้อดีด้านสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้า มาเสริมเข้ากับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบที่เราคุ้นเคย ออกมาเป็น NISSAN KICKS e-POWER
โดยรถยนต์รุ่นนี้ มีการนำเทคโนโลยี e-POWER มาใช้ ประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าแบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่น Nissan LEAF ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ที่ขายดีอันดับต้น ๆ ในโลก ดังนั้นเราจึงจะสัมผัสถึงการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ในแบบรถยนต์ไฟฟ้า 100%
แต่แทนที่จะต้องชาร์จไฟเข้าไป e-POWER กลับใช้ “น้ำมัน” มาขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่
แม้จะฟังดูยาก แต่จริง ๆ แล้วการทำงานกลับไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งยังมีหลายโหมดให้เลือกทดลอง ตามสไตล์การขับรถของแต่ละคน แถมค่าดูแลรักษาก็ไม่แพง เพราะแบตเตอรี่รับประกับถึง 10 ปี
อย่างไรก็ตาม NISSAN KICKS e-POWER ก็ไม่ได้มาเป็นเพียง “ตัวกลาง” ในยุคที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเท่านั้น
เพราะสิ่งที่มาพร้อมกับรถยนต์รุ่นนี้ ยังเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การขับขี่ง่ายสบายและปลอดภัย
เริ่มจาก One-Pedal เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ คือ เป็นคันเร่งเมื่อเหยียบ เป็นเบรกเมื่อเอาเท้าออก ไม่ว่าจะ เร่ง แซง ชะลอ หรือเบรก ก็สามารถทำได้ในแป้นเดียว
ช่วยให้เราไม่ต้องเมื่อยเท้าเหยียบสลับไปมาระหว่างเบรกและคันเร่ง เพราะทันทีที่เราผ่อนคันเร่ง รถยนต์ก็จะหน่วงอัตโนมัติ ในปริมาณมาก-น้อยตามที่เราผ่อน
นอกจากนั้น เรายังสามารถขับขี่ได้อย่างสบายใจ ด้วยระบบเซนเซอร์และกล้องตรวจจับรอบคัน
ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณเตือนขณะขับขี่ เมื่อมีรถคันอื่นมาจากมุมอับสายตา ที่ช่วยเตือนเมื่อพบความเสี่ยงอุบัติเหตุจากด้านหน้ารถ และระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน
รวมถึงการเพิ่มความมั่นใจขณะถอยรถด้วย ระบบตรวจจับวัตถุขณะรถถอยหลัง หรือกล้อง 4 ตัวรอบคัน ช่วยส่องทุกมุมอับ ไม่ต้องกลัวรถโดนขูด
หรือแม้แต่ในรถเอง ก็ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยเตือนด้วยการส่งเสียงและแสดงไฟบนหน้าจอ เพื่อเตือนเมื่อตรวจพบลักษณะการขับขี่ ที่แสดงถึงการขาดสมาธิหรือเหนื่อยล้า
อย่างไรก็ตาม แม้เทคโนโลยีและสมรรถนะจะดีแค่ไหน แต่ถ้ารูปร่างเป็นเหมือนตู้เหล็กเคลื่อนที่ ก็คงไม่มีใครอยากได้
ดังนั้นถ้าอยากได้รถยนต์คู่ใจ ที่แสดงถึงความโมเดิร์นไม่ตกยุค NISSAN KICKS e-POWER ก็เรียกได้ว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
โดยรถรุ่นนี้มาในรูปแบบของ SUV ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ด้านในกลับไม่ได้อึดอัด เพราะการวางเบาะที่ต่ำ ทำให้เหลือพื้นที่ด้านบนโปร่ง
ที่สำคัญยังออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทุกพื้นที่ใช้สอย บรรจุของแบบจัดเต็ม ในขณะที่ผู้โดยสารก็นั่งกันได้แบบสบาย ๆ
ภายนอกออกแบบที่ดูเร้าใจในทุกมุมมอง ตั้งแต่สีภายนอก ที่เป็นแบบ “ทูโทน” เลือกได้ในแบบที่แมตช์และสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของแต่ละคนไฟ LED ที่ดูโฉบเฉี่ยว
ส่วนภายใน ก็มีการออกแบบที่โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยแผงคอนโซลและเบาะหนัง สีทูโทนดำ-ส้ม เพิ่มความมีสไตล์ โดยมาพร้อมกับไฟส่องสว่างตรงที่พักเท้า และ Ambient Light ริมประตูที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 7 สี
ในด้านไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ก็มี Apple CarPlay สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ไม่ให้เราพลาดทุกการสื่อสาร รวมถึงสร้างความบันเทิงตลอดการเดินทาง
และยังเสริมด้วยฟังก์ชันระบบนำทาง ไม่ต้องกลัวหลงทาง และระบบสั่งงานด้วยเสียง ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นตลอดการเดินทาง
ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็น่าจะทำให้ NISSAN KICKS e-POWER เป็นหนึ่งในตัวเลือกของ “รถยนต์คู่ใจ” ที่น่าลงทุนอยู่ไม่น้อย
สำหรับใครที่กำลังมองหารถคันใหม่
ต้องลอง NISSAN KICKS e-POWER กันนะคะ
และมาพิสูจน์ให้คนรอบตัวเห็นไปเลยว่า ผู้หญิงก็สามารถขับรถเก่งได้ มีสไตล์ไม่แพ้กัน..
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ : www.nissan.co.th/vehicles/new-vehicles/kicks.html
Nissan
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.