ร้านปิ้งย่างข้อสอบ ตอบโจทย์คนชอบ กินเนื้อย่างคนเดียว
FoodBusiness

ร้านปิ้งย่างข้อสอบ ตอบโจทย์คนชอบ กินเนื้อย่างคนเดียว

20 ธ.ค. 2021
ร้านปิ้งย่างข้อสอบ ตอบโจทย์คนชอบ กินเนื้อย่างคนเดียว /โดย ลงทุนเกิร์ล
หลาย ๆ คนคงเคยเจอกับโมเมนต์ที่อยากจะกินเนื้อย่าง แต่คนรอบข้างว่างไม่ตรงกันเสียที แล้วถ้าจะให้ไปนั่งกินคนเดียวก็อาจจะรู้สึกเหงา ๆ โหวง ๆ เพราะส่วนใหญ่การจัดโต๊ะของบรรดาร้านปิ้งย่าง ก็มักจะจัดไว้สำหรับ 2-4 ที่
ดังนั้นหากมีร้านที่ทำปิ้งย่าง สำหรับลูกค้าที่สะดวกกินคนเดียว มีการจัดโต๊ะให้ลูกค้ารู้สึกไม่เคอะเขิน ก็คงตอบโจทย์ Pain Point ข้างต้น และเรียกลูกค้าเข้ามาได้ไม่น้อยอย่างแน่นอน
ดังนั้น เมื่อ Yakiniku LIKE ร้านปิ้งย่างข้อสอบจากญี่ปุ่น มาเปิดสาขาแรกในไทย เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จึงได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่วันแรกที่เปิด
ร้านปิ้งย่างข้อสอบ Yakiniku LIKE มีความน่าสนใจอย่างไร ?
และธุรกิจรูปแบบนี้มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ข้อมูลจาก Yano Research ระบุว่า ในประเทศญี่ปุ่น ตลาดร้านอาหารรูปแบบ Solo Dining หรือร้านอาหารที่รองรับการทานแบบเดี่ยว มีมูลค่ามากถึง 2.3 ล้านล้านบาท
และหนึ่งในร้านอาหาร Solo Dining ยอดฮิต ที่มีคนต่อคิวยาวมาก ๆ ในญี่ปุ่นก็คือ ร้าน Yakiniku LIKE
Yakiniku LIKE เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 หรือก็คือเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา
โดยคุณอาริมุระ โมริฮิสะ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานบริษัท Yakiniku Like Co., Ltd.
ซึ่งคุณอาริมุระเห็นว่าคนรุ่นใหม่ เริ่มมีไลฟ์สไตล์ที่ออกมารับประทานอาหารคนเดียว ไม่อยากรอใคร ในขณะเดียวกันก็ต้องการทานอาหารที่อร่อยและมีความรวดเร็ว
ดังนั้น Yakiniku LIKE จึงทำออกมาในรูปแบบที่เรียกว่า “Fast Casual” หรือร้านอาหารที่ผสมแนวคิดระหว่าง Fast Food และ Casual Dining ซึ่งเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ ที่ต้องการอาหารคุณภาพดี และได้รับความสะดวกรวดเร็วในการบริการ
ซึ่งการทำร้านอาหารในรูปแบบ Fast Casual ของ Yakiniku LIKE คือ มีบริการที่นั่งพร้อมเตาย่างไร้ควันส่วนตัว สำหรับใครที่มาคนเดียว โดยโต๊ะจะมีความเป็นส่วนตัวเหมือนกับการนั่งทำข้อสอบ และจะมีการเสิร์ฟอาหารอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น
ส่วนเมนูเด่นของร้าน ก็จะมีเนื้อคุณภาพยอดนิยมตั้งแต่ เนื้อวากิว เนื้อคารูบิ เนื้อฮารามิ เนื้อไพรม์คารูบิ ลิ้นวัว และเนื้ออื่น ๆ อย่างหมูและไก่ โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งในรูปแบบเป็นชุด หรือเป็นจานเดี่ยว
สำหรับระบบการสั่ง ทางร้านก็ได้ไอเดียมาจากร้านซูชิสายพาน คือสามารถกดสั่งออร์เดอร์ได้จากหน้าจอแท็บเล็ตบนโต๊ะอาหาร รวมถึงชำระเงินได้ด้วยตัวเองที่หน้าเคาน์เตอร์
แล้วธุรกิจรูปแบบนี้มีความน่าสนใจอย่างไร ?
โดยปกติ หากร้านอาหารมีโต๊ะสำหรับ 4 ที่ขึ้นไป มักจะใช้เวลาหมุนเวียนต่อโต๊ะค่อนข้างนาน
เพราะการที่ลูกค้ามากันเป็นกลุ่ม จะใช้เวลาในการสั่งอาหารที่ค่อนข้างเยอะ รออาหารแต่ละเมนู รวมไปถึงการสนทนา จนทำให้การใช้ช่วงเวลาบนโต๊ะอาหารนั้น ยาวนานเพิ่มขึ้นไปอีก อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อโต๊ะ
แต่ร้านอาหารแบบ Yakiniku LIKE ลูกค้าจะใช้เวลาต่อโต๊ะ เฉลี่ยเพียง 30-40 นาทีเท่านั้น ส่งผลให้ลูกค้าคนต่อไปไม่ต้องรอคิวนาน และยังรับลูกค้าในแต่ละวันได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
อีกทั้งการใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อให้ลูกค้าบริการตัวเอง ยังช่วยให้ระบบภายในร้านเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยนอกจากจะช่วยลดต้นทุนค่าแรงงาน จากการจ้างพนักงานแล้ว ทางร้านยังจะได้นำเงินไปลงทุนกับตัวสินค้าคือ เนื้อที่มีคุณภาพ ด้วย
และอีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ในช่วงโควิด 19 ก็มีลูกค้าหลายคนที่อยากกินเนื้อย่าง แต่ไม่สะดวกใจจะแชร์เตากับเพื่อน ดังนั้นการมีโต๊ะปิ้งย่างแยกเดี่ยว จึงตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน
นี่จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ Yakiniku LIKE ไม่ค่อยได้รับผลกระทบในช่วงโควิด 19 เท่าไรนัก เมื่อเทียบกับร้านปิ้งย่างอื่น ๆ ที่ต้องปิดตัวลงมากมายในช่วงโควิด 19
ปัจจุบัน Yakiniku LIKE มีสาขามากกว่า 70 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น และขยายสาขาไปทั่วเอเชีย ตั้งแต่อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์ รวมถึงสาขาใหม่ล่าสุดก็คือ ประเทศไทย โดยตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว นั่นเอง
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ทำให้ Yakiniku LIKE เป็นร้านปิ้งย่างที่เติบโตและขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว คือการที่ผู้ก่อตั้งสังเกตและเข้าใจไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ พร้อมกับสามารถแก้ปัญหาตามยุคตามสถานการณ์ได้ทัน
ทั้งหมดนี้จึงเป็นสาเหตุให้ Yakiniku LIKE เติบโตไปทั่วเอเชียได้ ในเวลาเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้นเอง..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.