Loacker ตำนานขนมเวเฟอร์ เกือบร้อยปี
Business

Loacker ตำนานขนมเวเฟอร์ เกือบร้อยปี

15 ก.ค. 2020
Loacker ตำนานขนมเวเฟอร์ เกือบร้อยปี /โดย ลงทุนเกิร์ล
ขนมเวเฟอร์ ยี่ห้อ Loacker ที่เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ 
มีเบื้องหลังที่น่าสนใจ ไม่แพ้ความอร่อยของขนมชนิดนี้เลยทีเดียว
โดยเฉพาะรูป “ภูเขา” ที่อยู่บนห่อขนม รู้หรือไม่คะว่ามีความหมายอะไรซ่อนอยู่?
ลงทุนเกิร์ลจะมาเฉลยให้ฟังค่ะ
คำว่า “Loacker” มีที่มาจากนามสกุลของชายผู้ก่อตั้ง
ซึ่งก็คือ “Alfons Loacker” นั่นเอง
Loacker เป็นแบรนด์ขนมที่อยู่มานานถึง 95 ปี
เริ่มแรก คุณ Alfons Loacker ซึ่งเป็นช่างทำขนมชาวออสเตรีย
ได้เดินทางมายังอิตาลี และตัดสินเปิดร้านขนมอบเล็กๆ ขึ้น ในเมืองโบลซาโน ซึ่งล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม
เสน่ห์ของร้านขนมอบแห่งนี้ คือ การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ 
และใช้สูตรขนมใหม่ๆ ที่คุณ Alfons Loacker คิดค้นขึ้นมาเอง
แต่ทว่า ร้านขนมที่กำลังไปได้ดี กลับต้องหยุดชะงักลง
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น
ทำให้เขาต้องหยุดกิจการ และรอจนกว่าสงครามจะสิ้นสุด
เมื่อสงครามอันยาวนานจบลง สิ่งที่คุณ Alfons Loacker เหลือติดตัวอยู่
มีเพียงเมล็ดโกโก้ 600 กิโลกรัม
และเงินจำนวน 0 บาท..
แต่ด้วยความรัก และ Passion ที่มีต่อการทำขนม
ทำให้เขากลับมาทำขนม และค่อยๆ เก็บเงินทีละเล็กทีละน้อย
และแล้วความพยายามก็เกิดผล
ในปี 1954 ร้านขนมของเขาเติบโตจนสามารถสร้างอาคารใหม่ 
และเปิดสาขาที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโบลซาโนได้ 
นอกจากนี้เขายังได้ซื้อเครื่องจักร เข้ามาใช้ในการผลิตขนมในร้านอีกด้วย
ซึ่งสำหรับสมัยนั้น สิ่งของเหล่านี้ถือว่ามีราคาสูงมาก 
ต้องเป็นกิจการที่ใหญ่โตจริงๆ ถึงจะมีเงินลงทุน
ในตอนนั้น หลายคนอาจจะคิดว่าธุรกิจขนมอบแห่งนี้ 
คงจะประสบความสำเร็จ จนไม่น่าจะมีจุดที่สูงกว่านี้อีกแล้ว 
แต่เรื่องไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น
เมื่อลูกชายของคุณ Alfons Loacker เข้ามาช่วยงานที่ร้าน
และได้ซื้อเครื่องทำ “เวเฟอร์” มาใช้ที่ร้าน
ผลปรากฏว่า ขนมเวเฟอร์ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ยอดขายของที่ร้านเพิ่มขึ้นถึง 500% 
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็สร้างโรงงานผลิตเวเฟอร์ 
ที่มีกำลังผลิตถึง 40,000 ชิ้นต่อวัน
พอได้ยินคำว่า “โรงงาน” หลายคนอาจเห็นภาพ โรงงานที่สร้างมลพิษ ปล่อยควันดำ น้ำสกปรก และคงจะตั้งอยู่ตามแหล่งอุตสาหกรรมที่เต็มไปด้วยโรงงานอื่นๆ
แต่สำหรับโรงงานของ Loacker กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
โรงงานผลิตเวเฟอร์ของพวกเขา ตั้งอยู่ที่ Auna di Sotto 
ซึ่งเมืองแห่งนี้อยู่ใกล้กับเทือกเขาแอลป์ 
ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ซึ่งมีทั้งอากาศและน้ำที่บริสุทธิ์ 
สาเหตุที่พวกเขาไปตั้งโรงงานอยู่ที่นี่ก็เป็นเพราะ
พวกเขาเชื่อว่า “การผลิตขนมที่ดี” จะต้องอยู่ใน “ธรรมชาติที่ดี”
และโรงงานของ Loacker จะต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมในที่แห่งนั้นด้วย
โดยหัวใจสำคัญของแบรนด์ Loacker ที่ยึดถือมาตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งก็คือ “ความเป็นธรรมชาติ”
แบรนด์ Loacker จึงไม่เพียงแค่เลือกที่ตั้งโรงงานที่ใกล้ชิดธรรมชาติเท่านั้น
แต่พวกเขายังยึดถือเรื่องการใช้วัตถุจากธรรมชาติ 
ไม่ใส่สารกันบูด สีผสมอาหาร และสารแต่งกลิ่น
ในขณะเดียวกัน ขนมของแบรนด์ Loacker ยังใช้น้ำบริสุทธิ์จากภูเขาใกล้ๆ
รวมถึงช็อกโกแลต และนมคุณภาพดี
นอกจากนี้เฮเซลนัตซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลัก 
ยังปลูกในอิตาลี และคั่วในโรงงานของ Loacker เองอีกด้วย
ปัจจุบันแบรนด์ Loacker ส่งออกสินค้าไปมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
โดย 3 ประเทศที่ทำยอดขายให้แก่ Loacker มากที่สุด ได้แก่
1. อิตาลี
2. ซาอุดีอาระเบีย
3. ออสเตรเลีย
แม้ว่าวันนี้แบรนด์ Loacker จะเติบโตจนต้องผลิตสินค้ามากกว่า 900 ล้านชิ้นต่อปี
แต่ขั้นตอนการผลิตขนมบางอย่างยังคงใช้มือในการทำ เช่น การตัดฝักวานิลลา
ส่วนรูป “ภูเขา” ที่อยู่บนห่อขนมของ Loacker ก็คือภูเขา Sciliar 
ซึ่งเป็นสถานที่ใกล้ๆ กับร้านสาขาแรกที่ Loacker ก่อตั้งขึ้นนั่นเอง
เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้
เราอาจไม่แปลกใจแล้วว่า ทำไมแบรนด์ Loacker ถึงอยู่มาได้ยาวนานเกือบร้อยปี
เพราะสำหรับผู้บริโภคแล้ว คงจะไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า 
“รสชาติและคุณภาพของขนม” 
ที่ทำให้เราอยากกลับมาซื้อขนมชิ้นนี้ซ้ำๆ
ชนิดที่ว่า ทานเยอะแค่ไหน ก็ไม่มีเบื่อ..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.