Getty Images บริษัทลิขสิทธิ์รูปภาพแสนล้าน ที่ถูกฟ้องร้องเสียเอง
Business

Getty Images บริษัทลิขสิทธิ์รูปภาพแสนล้าน ที่ถูกฟ้องร้องเสียเอง

1 ก.พ. 2022
Getty Images บริษัทลิขสิทธิ์รูปภาพแสนล้าน ที่ถูกฟ้องร้องเสียเอง /โดย ลงทุนเกิร์ล
หากใครเป็นสายเสพข่าวดาราเซเลบริตีจากต่างประเทศ น่าจะต้องเคยเห็นลายน้ำ Getty Images บนรูปของเหล่าคนดังแน่นอน เพราะบริษัทนี้เป็นมหาอำนาจด้านธุรกิจลิขสิทธิ์รูปภาพชั้นนำของโลก
แต่รู้หรือไม่ว่า แม้ Getty Images จะเป็นบริษัทที่ขายลิขสิทธิ์รูปภาพ ทว่ากลับเคยถูกฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เสียเอง
ทำไม Getty Images ถึงถูกฟ้องร้อง ?
และกว่าที่ Getty Images จะกลายเป็นบริษัทลิขสิทธิ์รูปภาพชั้นนำต้องผ่านอะไรมาบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ธุรกิจที่ Getty Images เปรียบเสมือน “คลังรูปภาพ” ที่รวบรวมรูปภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะถ่ายเอง หรือซื้อภาพถ่ายมาจากช่างภาพมืออาชีพ เพื่อนำภาพเหล่านี้มาขายลิขสิทธิ์ให้กับคนทั่วไป หรือบริษัทที่ต้องการนำภาพไปใช้
ปัจจุบัน Getty Images ได้รับการประเมินมูลค่าบริษัทสูงถึง 1.6 แสนล้านบาท เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มากกว่า 60 ล้านรูปภาพ และฟุตเทจรวมมากกว่า 30,000 ชั่วโมง
ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ก็คือคุณ Mark Getty และคุณ Jonathan Klein ที่เดิมที ทั้งคู่ไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจลิขสิทธิ์ภาพมาก่อนเลย แต่เพราะเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจ จากการสังเกตว่าคนยุคนั้นเริ่มหันมาให้ความสนใจการเล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
ธุรกิจลิขสิทธิ์ภาพบนโลกออนไลน์จึงได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1995 หรือ 26 ปีที่แล้ว
ซึ่งการที่จะเป็นผู้นำในวงการลิขสิทธิ์ภาพได้ ก็ควรจะมีรูปภาพจำนวนมากไว้ให้บริการลูกค้า ดังนั้น Getty Images จึงได้ซื้อบริษัทรูปภาพหลายแห่ง มาเสริมกำลังให้อาณาจักรของตัวเอง
โดยอาศัยเงินสนับสนุนเกือบ 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 890 ล้านบาท จากสมาชิกในครอบครัว Getty ตั้งแต่ตอนเริ่มก่อตั้งธุรกิจ
สำหรับใครที่ไม่รู้จักตระกูล Getty
ครอบครัวนี้คือมหาเศรษฐี ที่ร่ำรวยจากธุรกิจบ่อน้ำมัน ซึ่งในอดีตคุณ Jean Paul Getty หัวหน้าครอบครัวเคยครองตำแหน่งคนรวยที่สุดในโลก มาแล้วหลายสมัย
รวยจนถึงขั้นหลานชายในตระกูลเคยถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ แต่คุณ Jean Paul Getty กลับไม่ยอมจ่ายเงินสักแดงเดียว เนื่องจากมองว่าหากจ่ายค่าไถ่ให้หลาน 1 คนไปแล้ว ก็มีโอกาสที่หลานอีก 14 คนของตระกูล จะถูกลักพาตัวไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การที่คุณ Mark Getty เป็นหนึ่งในรุ่นหลานของตระกูลใหญ่ ก็ทำให้ Getty Images มีกำลังทรัพย์มากพอ ที่จะซื้อบริษัทรูปภาพชั้นนำของโลกมาครอบครอง
เริ่มจาก Tony Stone Images บริษัทที่ถือลิขสิทธิ์ภาพร่วมสมัยชั้นนำของโลก ที่ถูกเข้าซื้อตั้งแต่ปีแรกที่ก่อตั้ง
ตามด้วยการเข้าซื้อ Hulton Deutsch บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพจดหมายเหตุที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น The Hulton Getty
ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเอง Getty Images ก็สามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ และหลังจากนั้นก็เข้าซื้ออีกหลายบริษัทเพื่อขยายอำนาจ เช่น PhotoDisc, Liaison Agency และ Energy Film Library
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็ดูเหมือนว่า Getty Images ได้กลายเป็นบริษัทมหาอำนาจในธุรกิจคลังภาพไปเรียบร้อย
ต่อมาในปี 2008 บริษัทก็ถูก Hellman & Friedman บริษัทด้านการลงทุน เข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่า 7.9 หมื่นล้านบาท และทำให้ Getty Images กลับไปเป็นบริษัทเอกชนตามเดิม
ก่อนจะเปลี่ยนมาอยู่ในมือของ The Carlyle Group ที่ซื้อกิจการต่อไปในมูลค่า 1.1 แสนล้านบาท ใน 4 ปีถัดมา
อย่างไรก็ตาม ในปี 2018 ครอบครัว Getty ก็ได้กลับมาครอบครองบริษัท Getty Images อีกครั้ง โดยการซื้อคืนมาในมูลค่า 1 แสนล้านบาท รวมถึงมีแผนจะพาบริษัทเข้าตลาดหุ้น New York Stock Exchange เร็ว ๆ นี้ ด้วยมูลค่า 1.6 แสนล้านบาท
และในปีเดียวกันนี้เอง บริษัทยังได้เข้าซื้อ Unsplash บริษัทลิขสิทธิ์รูปภาพยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ทำให้ปัจจุบันมีลิขสิทธิ์รูปภาพมากกว่า 350 ล้านรูปไว้ในครอบครอง ซึ่งทำกำไรให้บริษัทเป็นจำนวนมหาศาล
แล้วผลประกอบการของ Getty Images เป็นอย่างไร ?
ปี 2018 มีรายได้ 2.9 หมื่นล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 2.8 หมื่นล้านบาท
ปี 2020 มีรายได้ 2.7 หมื่นล้านบาท
โดยโมเดลธุรกิจของ Getty Images จะเป็นแบบ “Freemium” ที่ภาพบางส่วนสามารถหยิบไปใช้ได้ฟรี ๆ แต่หากอยากได้ภาพที่มีความพรีเมียมก็ต้องจ่ายเงินเพื่อสมัครสมาชิก
เมื่อธุรกิจหลักของ Getty Images คือการขายลิขสิทธิ์รูปภาพ ดังนั้นจึงไม่แปลก ที่บ่อยครั้งเราจะเห็นการดำเนินคดี เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์รูปภาพบนเว็บไซต์
ดังนั้นหากนำรูปภาพบนเว็บไซต์ของ Getty Images ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตก็ต้องจ่ายเงินค่าปรับ
อย่างไรก็ตาม ก็มีบางกรณีที่ Getty Images โดนฟ้องกลับเช่นกัน
อย่างในปี 2016 ช่างภาพที่ชื่อคุณ Carol Highsmith ได้รับจดหมายแจ้งเตือนค่าปรับเป็นจำนวนเงินเกือบ 40,000 บาท เหตุเพราะเธอนำรูปจากเว็บไซต์ Getty Images ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
หากเป็นกรณีปกติทั่วไป คุณ Highsmith ก็คงต้องยอมจ่ายค่าเสียหายเพื่อจบปัญหา แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะภาพที่ Getty Images อ้างว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นั้น กลับเป็นภาพที่คุณ Highsmith ถ่ายเองกับมือ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1988 คุณ Highsmith ได้นำรูปภาพของเธอมาบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์ Library of Congress เพื่อให้คนทั่วไปสามารถนำภาพนี้ไปใช้ได้ฟรี ๆ แต่ในปี 2016 เธอกลับพบว่ารูปภาพเหล่านี้ถูกนำมาขายบนเว็บไซต์ Getty Images
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ คุณ Highsmith จึงฟ้อง Getty Images กลับเป็นจำนวนเงินมากกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ในข้อหาทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียง และยังนำรูปของเธอเกือบ 19,000 รูป ไปทำการค้าอย่างไม่ชอบธรรม
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาคดีความนี้กลับถูกยกฟ้องไป เนื่องจากศาลเห็นว่าเป็นการกระทำผิดโดยไม่เจตนา
รวมทั้งคุณ Highsmith ได้มอบรูปภาพนี้ให้เป็น “สิทธิสาธารณะ” ไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกล่าวอ้างการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้
แต่การที่ Getty Images พยายามอ้างความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์รูปภาพสาธารณะ ก็ทำลายภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัทอย่างมาก นอกจากนั้นยังทำให้ลูกค้าบางคน เคลือบแคลงใจว่าเขาควรจ่ายค่ารูปภาพเหล่านี้หรือไม่ ? หรือรูปภาพที่เขาซื้อเคยเป็นของใครมาก่อน
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
แม้ธุรกิจลิขสิทธิ์รูปภาพของคุณ Mark Getty จะไม่ได้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเท่าธุรกิจน้ำมันของตระกูล แต่ท่ามกลางเหล่าญาติกว่า 14 คน เขาก็ถือว่าเป็นหนึ่งในทายาทที่สร้างอาชีพที่มั่นคง และที่สำคัญยังหลุดพ้นจากวงจรของยาเสพติดอีกด้วย
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.