Apeel Sciences สตาร์ตอัปสร้าง “เปลือกชั้นที่ 2” ยืดอายุให้ผักผลไม้ 2 เท่า
Business

Apeel Sciences สตาร์ตอัปสร้าง “เปลือกชั้นที่ 2” ยืดอายุให้ผักผลไม้ 2 เท่า

2 มี.ค. 2022
Apeel Sciences สตาร์ตอัปสร้าง “เปลือกชั้นที่ 2” ยืดอายุให้ผักผลไม้ 2 เท่า /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ ในแต่ละปี มีปริมาณการสูญเสียอาหารที่กินได้จำนวน 1.3 พันล้านตัน
เทียบได้กับ ปริมาณ 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตได้ทั่วโลก จะถูกทิ้งให้เป็นขยะอย่างสูญเปล่า
ส่งผลให้ทุกวันนี้ มีบริษัทมากมายพยายามช่วยลดปริมาณ “ขยะอาหาร” ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก
ตั้งแต่ Misfits Market แพลตฟอร์มที่นำผลผลิตรูปร่างไม่สมบูรณ์จากที่เกษตรกรคัดทิ้ง มาขายในราคาถูกลง
หรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่ขายเฉพาะอาหารหมดอายุ อย่าง Wefood, TRJFP และ Sirplus
อีกทั้งยังมีนวัตกรรมอาหารอีกมากมาย เช่น Upcycled Food หรือการนำวัตถุดิบที่จะถูกทิ้ง มาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่างแบรนด์ Wtrmln Wtr ที่นำแตงโมเหลือทิ้ง มาผลิตเป็นน้ำแตงโมสกัดเย็นบรรจุขวด
วันนี้ลงทุนเกิร์ลจึงหยิบ อีกหนึ่งนวัตกรรมที่อาจเรียกว่าเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ของปัญหาขยะอาหาร จากบริษัท Apeel Sciences ที่สามารถทำให้ผักและผลไม้ ที่ปกติจะเน่าเสียง่าย ให้มีอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้นถึง 2 เท่า
ที่น่าสนใจคือ บริษัทที่ว่านี้ยังติด 10 อันดับแรกในรายชื่อ “สุดยอดบริษัทแห่งนวัตกรรม” ประจำปี 2019 จากนิตยสารธุรกิจ Fast Company ร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Grab และ Walt Disney Company อีกด้วย
แล้วนวัตกรรมของ Apeel Sciences จะช่วยยืดอายุผักและผลไม้ ได้อย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Apeel Sciences ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดยคุณ James Rogers นักศึกษาปริญญาเอกด้านวัสดุศาสตร์
โดย Apeel Sciences เป็นบริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีอาหาร จากสหรัฐอเมริกา ที่มุ่งมั่นป้องกัน ไม่ให้อาหารทั่วโลกถูกทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์
แล้วอะไรที่ทำให้เขาก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา ?
ย้อนกลับไปวันหนึ่งขณะที่คุณ James Rogers กำลังฟังพอดแคสต์เกี่ยวกับภาวะอดอยากของคนทั่วโลก ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เขาขับรถกลับบ้าน ผ่านพื้นที่เพาะปลูกอันเขียวชอุ่มในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาพอดี
ภาพที่เห็นจึงสร้างความสงสัยให้เขาว่า
ทำไมคนจำนวนมากถึงหิวโหย ในเมื่อโลกผลิตอาหารได้มากเกินพอที่จะเลี้ยงทุกคน แล้วถ้าคนจำนวนมากหิวโหย ความอุดมสมบูรณ์เหล่านี้จะสูญเปล่ามากเพียงใด ?
ซึ่งคุณ James Rogers มองว่าปัญหาของเรื่องนี้มาจาก การสูญเสียอาหารส่วนเกิน ที่ไม่สามารถแจกจ่ายให้ผู้คนที่ต้องการได้
และปัญหาสำคัญที่ขัดขวางการแจกจ่าย ก็คือ “อายุการเก็บรักษาผลผลิตตามธรรมชาติ”
พอเรื่องเป็นแบบนี้คุณ James Rogers จึงพยายามคิดค้นวิธีป้องกัน ไม่ให้ผักและผลไม้เน่าเสียอย่างรวดเร็ว
โดยเขาเริ่มจากการค้นคว้าเกี่ยวกับ ชีววิทยาของพืช และพบว่าสาเหตุหลักของการเน่าเสียของผลผลิต คือ
“การสูญเสียน้ำและเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน” หรือการที่น้ำระเหยออกและมีออกซิเจนเข้าไปสัมผัส
อีกทั้ง เขายังได้รับแรงบันดาลใจจากวิธีการของอุตสาหกรรมเหล็ก ที่นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างเหล็กกล้าไร้สนิม ซึ่งมีฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิวไว้ เพื่อป้องกันออกซิเจนและความชื้น ตัวการที่ทำให้เกิดสนิม
ดังนั้น คำตอบของเรื่องนี้ก็คงจะเป็น “การเคลือบป้องกันผักและผลไม้” เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำและออกซิเจน ตัวการที่ทำให้เกิดการเน่าเสียของผลผลิต เช่นเดียวกัน
ต่อมาคุณ James Rogers ก็ได้สมัครทุนวิจัยจาก Bill & Melinda Gates Foundation มูลนิธิที่จัดตั้งโดยคุณ Bill Gates และคุณ Melinda อดีตภรรยา
ซึ่งมูลนิธิ ก็ได้มอบเงินราว 3.3 ล้านบาทให้กับเขา
และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Apeel Sciences ที่ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2012 ดำเนินงานวิจัยค้นคว้า และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ จนค้นพบผลิตภัณฑ์ที่สามารถยืดอายุผลผลิตได้สำเร็จ
โดยผลิตภัณฑ์นี้ มีชื่อเรียกว่า “Edipeel” ซึ่งเป็นนวัตกรรมสารเคลือบผักและผลไม้สด
Edipeel เกิดจากการสกัด Lipids และ Glycerolipids ในเปลือก เมล็ด และเนื้อจากผักผลไม้แต่ละชนิด แล้วแปรรูปให้กลายเป็นผง จากนั้นนำไปผสมน้ำ ก่อนนำมาเคลือบผักและผลไม้ชนิดนั้น ตามที่มาของสารสกัดอีกครั้ง
ซึ่งจุดประสงค์ของการเคลือบ Edipeel ก็เพื่อเป็นเกราะป้องกันทางกายภาพ ให้กระบวนการระเหยของน้ำเกิดขึ้นช้าลง และควบคุมปริมาณออกซิเจนที่จะเข้าสู่ผลผลิต
ช่วยให้ผักและผลไม้สุกช้าลง ถนอมรูปลักษณ์ของผลผลิต จนสามารถเพิ่มอายุการเก็บรักษาเป็น 2-3 เท่าในบางกรณี แม้จะไม่ได้แช่เย็นก็ตาม
หากพูดง่าย ๆ คือ สารเคลือบผิวนี้ ทำหน้าที่เปรียบเสมือนเปลือกชั้นที่ 2 ของผักและผลไม้นั่นเอง
ทั้งนี้ Edipeel ยังเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ไม่พึ่งสารเคมี ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีรส จึงปลอดภัยที่จะรับประทาน และปัจจุบันก็ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) เป็นที่เรียบร้อย
ที่น่าสนใจคือ Apeel Sciences ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตร ตั้งแต่เกษตรกรรายย่อย เกษตรกรผู้ปลูกอินทรีย์ในท้องถิ่น รวมถึงผู้ผลิตผลไม้รายใหญ่ ไปจนถึงแบรนด์อาหารและผู้ค้าปลีกอาหารรายใหญ่
ซึ่งเกษตรกรสามารถนำสารเคลือบนี้ไปใช้รักษาคุณภาพผลผลิตของตน หรือผู้ค้าปลีกอาจนำไปใช้ เพื่อยืดอายุผลผลิตบนชั้นวางขายออกไปได้หลายวัน หรือหลายสัปดาห์เลยทีเดียว
โดย Apeel Sciences ได้ร่วมมือกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ เปิดตัวสารเคลือบอาโวคาโด เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกกับสาธารณะ และมีการวางจำหน่าย อาโวคาโดที่ถูกเคลือบสารในเชนร้านขายของชำ เช่น Kroger, Costco และ Harps Food Stores ทั่วสหรัฐอเมริกา
ผลปรากฏว่าเชนร้านขายของชำต่าง ๆ สามารถเพิ่มกำไรจากยอดจำหน่ายอาโวคาโด ได้มากกว่า 50% เนื่องจากตัวสารเคลือบอาโวคาโด ช่วยลดการทิ้งผลผลิตที่เน่าเสีย จนไม่สามารถจำหน่ายได้ นั่นเอง
จากนั้น เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากการเคลือบผิวอาโวคาโด บริษัทก็ได้ขยายนวัตกรรมสารเคลือบผิว ไปยังหมวดผักและผลไม้อื่น ๆ เช่น หน่อไม้ฝรั่ง แตงกวา เลมอน แอปเปิล และส้มแมนดาริน
เรื่องนี้ทำให้ Apeel Sciences เติบโตอย่างรวดเร็วแทน
โดยปัจจุบัน บริษัทสามารถระดมทุนไปได้แล้ว ประมาณ 21,000 ล้านบาท นับตั้งแต่ก่อตั้ง
ซึ่งดึงดูดนักลงทุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ​​ผู้สนับสนุนคนดัง เช่น คุณ Oprah Winfrey และคุณ Katy Perry รวมถึงผู้ลงทุนข้ามชาติรายใหญ่อย่าง กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสิงคโปร์
ไม่เพียงเท่านั้น ในปี 2021 Apeel Sciences ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพอีกขั้น ด้วยการเข้าซื้อกิจการ ImpactVision สตาร์ตอัปที่มีเทคโนโลยี การสร้างภาพไฮเปอร์สเปกตรัม เพื่อทำนายคุณภาพภายในผลไม้ โดยไม่ต้องปอกเปลือกออก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ NASA ใช้ในการตรวจหาสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร
นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่ Apeel Sciences นำเทคโนโลยีที่บอกกรอบเวลาการสุกที่แน่นอน สำหรับผลไม้แต่ละลูก มาประกอบกับนวัตกรรมการยืดอายุผลผลิตเดิมที่มีอยู่แล้ว
ทำให้บริษัทสามารถคัดแยกผลไม้ตามความสุก แล้วคำนวณได้ว่า ผลไม้ลูกนั้น ๆ จะจัดส่งไปสถานที่ต่าง ๆ ได้ไกลเพียงใด ย่อมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสินค้า ลดการสูญเสียผลผลิตได้อย่างมหาศาล
เรียกได้ว่า Apeel Sciences ไม่เพียงต่อกรกับปัญหาขยะอาหาร แต่ยังช่วยให้ทั้งห่วงโซ่อุปทานทำงานได้อย่างกลมกลืน..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.