กว่าจะเป็น คอลเลคชั่นใหม่ของ CHARLES & KEITH ผ่านแนวคิดอะไรบ้าง ?
Fashion

กว่าจะเป็น คอลเลคชั่นใหม่ของ CHARLES & KEITH ผ่านแนวคิดอะไรบ้าง ?

7 มี.ค. 2022
CHARLES & KEITH X ลงทุนเกิร์ล
“สีดำ” ในมุมของ Branding นั้นสื่อถึง ความมั่นใจ ความน่าเชื่อถือ และความสง่างาม
จึงไม่แปลกที่คอลเลคชั่นล่าสุดของ CHARLES & KEITH อย่าง “Spectrum Series” จะเลือกนำ “สีดำ” มาเป็นตัวแทนของความสง่างามและคลาสสิก
โดย Spectrum Series จะมาในคอนเซปต์ที่อยากให้ผู้ใช้ สามารถแสดงความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมั่นใจ
แต่ก็ยังแอบใส่กิมมิกเล็ก ๆ ด้วยลายกราฟฟิกสเปกตรัม หรือก็คือ แถบสีหลากสีสัน เพื่อแสดงถึงความแตกต่างของแต่ละบุคคล
ไม่เพียงแค่เรื่องของ “สี” เท่านั้นที่ CHARLES & KEITH หยิบขึ้นมาให้ความสำคัญในคอลเลคชั่นนี้
แต่ยังรวมไปถึงเรื่อง “รูปทรงของกระเป๋า” ที่ยังถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งาน ที่แตกต่างของแต่ละบุคคล
โดยคอลเลคชั่น Spectrum Series เป็นการนำกระเป๋า “รุ่นไอคอนิก” ของแบรนด์ กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ซึ่งสินค้าในคอลเลคชั่นนี้ จะประกอบด้วย
- Spectrum Series: Chain Handle Crossbody Bag
“กระเป๋าสะพายข้าง” ที่วางขายได้ไม่กี่วันก็ Sold Out ไปแล้วในช่องทางออนไลน์ รวมถึงในหลายสาขา เพราะด้วยการออกแบบที่ให้ความรู้สึกหรูหรา คลาสสิก แถมยังจุของได้เยอะ แต่ไม่ให้ความรู้สึกเทอะทะ และยังมาพร้อมสายโซ่ที่สามารถปรับมาสะพายแบบ Crossbody หรือสะพายไหล่ก็ได้ ซึ่งเหมาะมาก ๆ กับ Everyday Look ถ้าใครที่กำลังเล็งใบนี้อยู่อาจจะต้องรีบนิดหนึ่งนะคะ
- Spectrum Series: Double Chain Handle Tote Bag
“กระเป๋าโท้ท” ที่เกิดมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสาว ๆ วัยทำงานและนักศึกษา ที่มักต้องพกของชิ้นใหญ่ติดตัวตลอด ไม่ว่าจะเป็น แท็บเล็ต, แล็ปท็อปขนาดเล็ก หรือหนังสือเล่มโปรด ก็ใส่ได้สบาย ๆ
และถึงแม้จะเป็นกระเป๋าใบใหญ่ แต่ทาง CHARLES & KEITH ก็ได้ออกแบบให้ดูทันสมัย ตามสไตล์ Working Woman และยังมาพร้อมกับสายสะพายยาว ที่ไม่ใช่แค่สะพายข้างเท่านั้น แต่จะสะพายไหล่ หรือสะพายแบบ Crossbody ก็ได้เหมือนกัน
ซึ่งความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของกระเป๋ารุ่นนี้ คือ ด้านในยังมี “กระเป๋าเพาช์” ให้สำหรับเก็บสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ ให้เป็นระเบียบยิ่งขึ้น หรือจะนำกระเป๋าเพาช์ไปแยกใช้เดี่ยว ๆ ก็เก๋ไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่น่าเก็บน่าสะสมมาก ๆ เพราะเหมือนซื้อ 1 แต่ได้ถึง 2 ใบ แถมยังมีฟังก์ชันที่เน้นการใช้งานแบบจัดเต็มมาทุกดีเทล
- Spectrum Series: Top Zip Card Holder
ไอเทมที่เป็นไฮไลต์ของคอลเลคชั่นนี้อย่าง “กระเป๋าใส่บัตร” ซึ่งเหมาะมากกับคนที่จำเป็นต้องดึงบัตรออกมาใช้อยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น บัตรรถไฟฟ้าและบัตรพนักงาน เพิ่มความสะดวกให้ไม่ต้องไปควานหาบัตรทีละใบในกระเป๋า แถมยังมีช่องซิป สำหรับพกเหรียญ และแบงก์ ได้หมดในใบเดียว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุค Cashless Society ที่เราไม่จำเป็นต้องพกเงินสดเยอะ ๆ อีกต่อไป แต่ก็ยังให้ช่องเล็ก ๆ สำหรับพกเงินสดไว้ติดตัวเผื่อเกิดเหตุจำเป็น ถือเป็น Must Have ไอเทมในยุคนี้เลยก็ว่าได้
- Spectrum Series: Front Flap Long Wallet
“กระเป๋าสตางค์ใบยาว” ที่มาพร้อมสายสะพายไหล่แบบถอดได้
ตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบพกของเยอะ ๆ และชอบความคล่องตัว เพียงสะพายใบนี้ใบเดียวก็ออกไปเดินเล่นชิล ๆ ได้โดยไม่ต้องถือกระเป๋าให้เมื่อยมืออีกต่อไป ที่น่าสนใจคือ หลังจากกระเป๋ารุ่นนี้วางขายไปได้ไม่นาน ก็กลายเป็นหนึ่งในไอเทมที่ได้เสียงตอบรับจากลูกค้าอย่างดีจากลูกค้าทุกเพศทุกวัย จนใกล้จะ Sold Out ทั้ง ๆ ที่เพิ่งวางขายไปได้ไม่นาน
นอกจากเรื่องดีไซน์กระเป๋าจะน่าสนใจแล้ว
อีกหนึ่งเรื่องที่พิเศษไม่แพ้กันก็คือ คอลเลคชั่นนี้จะวางจำหน่าย “เฉพาะประเทศไทย” เท่านั้น
ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นคอลเลคชั่น Spectrum Series ได้ต้องมีการศึกษาทั้งความชอบ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าชาวไทยอยู่ไม่น้อย
เพื่อให้แบรนด์มั่นใจว่าสินค้าที่วางขายจะตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด
รวมถึงยังเป็นการแสดงถึงความใส่ใจของ CHARLES & KEITH ที่มีต่อลูกค้าชาวไทยได้เป็นอย่างดี
เรียกได้ว่า แม้ CHARLES & KEITH จะเป็นแบรนด์จากสิงคโปร์ และมีลูกค้าอยู่ทั่วโลก แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับลูกค้าในแต่ละพื้นที่เช่นกัน
ที่สำคัญ แบรนด์ CHARLES & KEITH ยังขึ้นชื่อในเรื่องของสินค้าคุณภาพ ในราคาสมเหตุสมผล
และยังเป็นแบรนด์ที่มีสไตล์ชัดเจน ในเรื่องการออกแบบสินค้าให้ดูเรียบหรูและคลาสสิก
จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นคนถือกระเป๋าจากแบรนด์ CHARLES & KEITH อยู่ตลอด ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะดีไซน์ที่ดูคลาสสิก จึงสามารถนำกลับมาใช้ได้ตลอดไม่ตกยุค
สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าได้ที่ CHARLES & KEITH ทุกสาขา
แต่ถ้าใครที่ไม่สะดวกเดินทางไปที่ช็อป ก็สามารถสั่งซื้อได้ทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://www.charleskeith.co.th/th ได้เลยนะคะ
ที่สำคัญคือ CHARLES & KEITH ยังได้เตรียมของขวัญไว้ให้กับลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ อย่าง “Lipstick Case” ที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าในไทย และยังเป็นสินค้าสุด Limited Edition ที่ไม่มีวางจำหน่ายแบบปกติ แต่ทางแบรนด์จะมอบให้กับลูกค้าไปเลย “ฟรี ๆ” เมื่อซื้อสินค้าราคาปกติครบ 3,500 บาทขึ้นไป ภายในวันที่ 31 มี.ค. นี้เท่านั้น
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.