สรุปเหตุการณ์ แชร์ลูกโซ่คริปโท ที่ลือกันว่าหอบเงินแสนล้าน หนีมาที่ไทย
Investment

สรุปเหตุการณ์ แชร์ลูกโซ่คริปโท ที่ลือกันว่าหอบเงินแสนล้าน หนีมาที่ไทย

27 ก.ค. 2022
สรุปเหตุการณ์ แชร์ลูกโซ่คริปโท ที่ลือกันว่าหอบเงินแสนล้าน หนีมาที่ไทย /โดย ลงทุนเกิร์ล
1 ใน 10 รายชื่อของผู้หลบหนี ที่ FBI ต้องการตัวมากที่สุด
มีชื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว ที่ปรากฏอยู่ท่ามกลางฆาตกร และผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่
หญิงสาวคนนั้นชื่อว่า “Ruja Ignatova” หรือคุณรูจา อิกนาโตวา
นักธุรกิจหญิงที่ประกาศตัวเองว่าเป็น “Cryptoqueen” หรือ ราชินีคริปโท
ด้วยการร่วมก่อตั้ง “OneCoin” สกุลเงินดิจิทัลที่เธออ้างว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่า และจะมาแทนที่ Bitcoin
แต่ในเวลาต่อมา OneCoin ได้กลับกลายเป็น “ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์” ของวงการคริปโทเคอร์เรนซี ที่สร้างความเสียหายราว 146,500 ล้านบาท พร้อมกับการหายตัวไปอย่างลึกลับของราชินีคริปโท
แล้ว “คุณรูจา อิกนาโตวา” เธอเป็นใคร มาจากไหน ?
และเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์นี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะสรุปให้ฟัง
คุณรูจา อิกนาโตวา เกิดเมื่อปี 1980 ที่เมืองโซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย
แต่เมื่อเธออายุได้ 10 ปี ทั้งครอบครัวของเธอก็ได้ย้ายไปอาศัยที่เมืองชรัมแบร์ค ประเทศเยอรมนี
จากนั้นเธอก็ได้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ที่ประเทศอังกฤษ
และสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยคอนสตันทซ์ ที่ประเทศเยอรมนี
รวมถึงมีประวัติการทำงานให้กับบริษัท McKinsey & Company ซึ่งเป็น 1 ใน BIG3 แห่งวงการที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลก
แต่แล้วจุดพลิกผันของคุณอิกนาโตวา ก็มาถึงในปี 2014
เมื่อคุณอิกนาโตวา และคุณ Sebastian Greenwood รวมทั้งคุณ Konstantin Ignatov น้องชายของเธอ ได้ร่วมกันสร้างสกุลเงินดิจิทัลที่มีชื่อว่า “OneCoin” ขึ้นมา
สำหรับโมเดลธุรกิจหลัก จะเป็นการขายแพ็กเกจการศึกษา เกี่ยวกับการเทรดสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งผู้ที่ซื้อจะได้รับโทเคนที่สามารถใช้ผลิตเหรียญ OneCoin ด้วย
โดยมีราคาแพ็กเกจตั้งแต่ 100-225,000 ยูโร หรือ 3,800-8,400,000 บาท
ซึ่งยิ่งแพ็กเกจมีราคาแพง โทเคนที่ได้รับ ก็จะยิ่งมีมูลค่าสูงตามไปด้วย
ซึ่งเธออ้างว่า OneCoin ใช้ชำระเงินได้ทุกที่ทั่วโลก สามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินยูโรใน e-Wallet ได้ และรับประกันว่านักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนอย่างมหาศาล “โดยมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีเลย..”
รวมถึงยังก่อตั้งบริษัทลูกขึ้นมา เพื่อให้นักลงทุนสามารถนำเหรียญ OneCoin ไปใช้ซื้อสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ หรือสินค้าแบรนด์หรู
นอกจากนี้เธอยังชูจุดขายว่า OneCoin นั้นจะเข้ามาปฏิวัติวงการ การเงินทั่วโลก ด้วยการทำธุรกรรมที่ “ปลอดภัย, ใช้งานง่าย, รวดเร็ว” อีกทั้งยัง “มีความโปร่งใสและถูกกฎหมายมากที่สุด” อีกด้วย
จากนั้น เธอจึงทำการตลาด และวางตำแหน่ง OneCoin ในฐานะ “Bitcoin Killer” หรือ “เหรียญที่เกิดมาเพื่อฆ่าบิตคอยน์” ตามเป้าหมายของเธอที่ต้องการให้ OneCoin นั้น กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก แทนที่ Bitcoin
อีกทั้งคุณอิกนาโตวา ยังเสนอค่าคอมมิชชันให้กับนักลงทุน ในกรณีที่พวกเขาสามารถโน้มน้าวผู้คนรอบตัว หรือหาสมาชิกใหม่มาซื้อแพ็กเกจการศึกษาใน OneCoin ได้มากขึ้น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา OneCoin ก็เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด
ซึ่งภายในเดือนมิถุนายน ปี 2016 OneCoin ได้กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด รองจาก Bitcoin เท่านั้น
และนับตั้งแต่ก่อตั้ง OneCoin มาเป็นระยะเวลาเพียง 2 ปี
สกุลเงินนี้ สามารถดึงดูดนักลงทุนได้มากกว่า 3 ล้านคน จาก 175 ประเทศทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานทางการในหลาย ๆ ประเทศ เช่น โครเอเชีย, สวีเดน, นอร์เวย์, ลัตเวีย, ฮังการี และอิตาลี ก็เริ่มเตือนนักลงทุนถึงความเสี่ยงไว้ว่า OneCoin อาจอยู่ในรูปแบบของธุรกิจแชร์ลูกโซ่แบบเครือข่าย
แต่ด้วยภาพลักษณ์ของคุณอิกนาโตวา ราชินีคริปโท ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งวุฒิการศึกษา, ประวัติการทำงาน ไปจนถึงบุคลิกภาพที่มีเสน่ห์น่าดึงดูด ด้วยการกล่าวสุนทรพจน์อันน่าประทับใจ ในงานสัมมนามากมาย
นอกจากนี้ เธอยังดูน่าเชื่อถือ จากการเป็นนักธุรกิจหญิงแห่งปีของบัลแกเรียถึง 2 สมัย และเคยมีรูปขึ้นปกนิตยสาร Forbes รวมถึงสามารถใช้ภาษาบัลแกเรีย, เยอรมัน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และรัสเซียได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นผลให้หลาย ๆ คนพูดต่อกันว่าเธอมีไอคิวสูงกว่า 200 เลยทีเดียว
ประกอบกับการที่นักลงทุนหลาย ๆ คน ไม่ได้เข้าใจวิธีการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างถ่องแท้ และเชื่อว่า OneCoin จะเป็นโอกาสครั้งที่ 2 จากการที่พวกเขาเคยพลาดในการซื้อ Bitcoin ที่มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก จึงหลั่งไหลเข้ามาลงทุนกับ OneCoin โดยวาดฝันว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติครั้งใหม่นี้
จนกระทั่ง วันที่ 1 มีนาคม ปี 2016 OneCoin ได้ประกาศว่า ตลาดจะถูกระงับเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อปรับปรุงระบบเกี่ยวกับบล็อกเชน โดยอ้างว่ามีผู้ขุดเหรียญเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อตลาดเปิดอีกครั้ง กลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ
มากไปกว่านั้น ในเดือนมกราคม ปี 2017 ระบบบริการที่เป็นช่องทางเดียว ในการแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินอื่นของ OneCoin ก็ถูกปิดลงอย่างกะทันหัน และยังปฏิเสธคำขอถอนเงินส่วนใหญ่ อีกด้วย
ซึ่งก่อนที่ คุณอิกนาโตวา จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ในเดือนตุลาคม ปี 2017
เธอก็ไม่ได้มาปรากฏตัวในงานสัมมนาของ OneCoin ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ตามกำหนดการที่วางไว้
ตามบันทึกของตำรวจคือ หลังจากเหตุการณ์ในเมืองลิสบอน 2 สัปดาห์ เธอได้ขึ้นเครื่องบินไปยังเมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ และตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่มีใครพบเจอหรือติดต่อเธอได้อีกเลย
ถึงเวลานี้ OneCoin ก็ถูกเปิดเผยแล้วว่าเป็น “Ponzi Scheme” หรือธุรกิจ “แชร์ลูกโซ่” ที่ปลอมตัวเข้ามาในคราบสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเชื่อกันว่าโครงการนี้หลอกลวงเหยื่อนักลงทุนทั่วโลก ไปได้มากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 146,500 ล้านบาท
เห็นได้ชัดจากการที่คุณอิกนาโตวา เสนอค่าคอมมิชชันให้กับนักลงทุน หากพวกเขาสามารถชักชวนผู้คนจำนวนมากขึ้น ให้เข้ามาลงทุนกับ OneCoin รวมถึงการรับประกันว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอแค่นำเงินจากนักลงทุนรายใหม่ มาจ่ายให้กับนักลงทุนรายเก่าไปเรื่อย ๆ เป็นทอด ๆ แบบลูกโซ่
ซึ่งการฉ้อโกงนี้จะสิ้นสุดลง หากไม่มีเงินเพียงพอที่จะหมุนเวียนในระบบ และสร้างผลตอบแทนให้กับคนที่เข้ามาลงทุนไม่ทัน เมื่อถึงจุดนั้นแชร์ลูกโซ่จะล้มลง ส่วนนักลงทุนก็จะสูญเสียเงินไป..
ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือ ในความเป็นจริงแล้ว OneCoin ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเลย
พูดง่าย ๆ ว่ามูลค่าของ OneCoin ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของตลาด แต่ทั้งหมดถูกกำหนดขึ้นโดยบริษัท นั่นเอง
ทั้งนี้ คุณอิกนาโตวา ยังบอกกับสมาชิกครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าจะมีการเสนอขายหุ้นครั้งแรกของบริษัทให้กับสาธารณชน (IPO) เพื่อสร้างกระแสข่าว และรับเงินทุนมากขึ้นจากนักลงทุนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ
ซึ่งทาง FBI รายงานว่า ข้อเสนอขายหุ้นนี้ ถูกเลื่อนออกไปอย่างสม่ำเสมอ และไม่เคยเกิดขึ้นจริงเลย
ท่ามกลางข้อหาเหล่านี้ ส่งผลให้เธอถูกออกหมายจับจากทั้ง FBI และสำนักงานตำรวจสากลแห่งสหภาพยุโรป (Europol) ในรายชื่อผู้ต้องหาที่ต้องการตัวมากที่สุด
ส่วนผู้ร่วมก่อตั้ง OneCoin อีก 2 คน อย่างคุณ Sebastian Greenwood และคุณ Konstantin Ignatov ก็ถูกจับกุมได้ที่ประเทศไทย ในปี 2018 และที่ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส ในปี 2019 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบัน คุณอิกนาโตวา ได้มีสถานะเป็น “บุคคลสูญหาย” โดยเธอหายไปอย่างไร้ร่องรอยมานานเกือบ 5 ปีแล้ว
ซึ่ง FBI ได้ตั้งข้อสงสัยว่าคุณอิกนาโตวา อาจผ่าตัดเสริมความงามและย้อมสีผม เพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์
และเดินทางด้วยหนังสือเดินทางปลอมไปยังบัลแกเรีย, เยอรมนี, รัสเซีย, กรีซ, ยุโรปตะวันออก หรืออาจจะมากบดานอยู่ที่ประเทศไทย ตามที่เป็นข่าว
ที่มากไปกว่านั้นคือ ว่ากันว่า เธอยังหายตัวไปพร้อมกับ Bitcoin จำนวน 230,000 เหรียญ
ซึ่งเป็นสกุลเงินของคู่แข่ง ที่เธอเคยสัญญาไว้ว่าจะฆ่า นั่นเอง..
References:
-https://coinmarketcap.com/alexandria/article/the-onecoin-scam-the-dazzling-story-of-the-biggest-crypto-ponzi-in-history
-https://www.outlookindia.com/business/who-is-missing-cryptoqueen-ruja-ignatova-now-in-fbi-s-most-wanted-list--news-206685
-https://www.businesstoday.in/crypto/story/what-is-the-onecoin-scam-promoted-by-cryptoqueen-ruja-ignatova-340127-2022-07-03
-https://theprint.in/world/who-is-ruja-ignatova-cryptoqueen-now-on-fbi-most-wanted-list-for-duping-investors-of-4bn/1024523/
-https://technext.ng/2022/07/05/all-you-need-know-onecoin-crypto-scam/
-https://markets.businessinsider.com/currencies/news/cryptoqueen-allegedly-started-4-billion-ponzi-scheme-escaped-230000-bitcoin-2021-5-1030443321
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.