TFEX x ลงทุนเกิร์ล

สาว ๆ เคยตั้งคำถามกับตนเองไหมว่า ทุกวันนี้.. เราพยายามลงทุน และพยายามเก็บออมไปเพื่ออะไร ?
หรือเพราะเราต้องการจะมีชีวิตที่เป็นอิสระทางการเงิน และได้เกษียณออกจากงานเร็ว ๆ

ซึ่งถ้าลองสังเกตในตอนนี้ สาว ๆ หลายคนก็เริ่มมีพฤติกรรมทางการเงิน และการลงทุนที่ต่างไปจากเดิม
หนึ่งในนั้นก็คือ เทรนด์พฤติกรรม FIRE ที่ย่อมาจาก “Financial Independence, Retire Early”

ลักษณะพิเศษของคนกลุ่มนี้คือ ต้องการเป็นอิสระทางการเงิน และเกษียณออกจากงานเร็ว ๆ

พวกเขาจึงให้ความสำคัญในเรื่องการออมเงิน และการลงทุนเป็นอย่างมาก
เพื่อที่จะสร้างเม็ดเงินสะสมให้มากพอ จนมีอิสรภาพทางการเงินให้ได้ในที่สุด

หลายคนคงสงสัยว่า แล้วเครื่องมือการลงทุนอย่าง TFEX เกี่ยวข้องกับเทรนด์ FIRE นี้ อย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ปกติแล้ว คนในเทรนด์ FIRE นิยมเก็บออมเงินให้ได้มากที่สุด
บางคนอาจออมเงินสูงถึง 70% ของรายได้ต่อเดือน เลยทีเดียว

เพราะตั้งเป้าหมายว่า หากมีเงินเก็บมากถึง 30 เท่าของค่าใช้จ่ายรายปี
ก็จะทำให้สามารถเกษียณได้ก่อนกำหนด

แต่ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารในตอนนี้ ก็คงสัมผัสได้ถึงความผันผวนรอบด้านที่กำลังเกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น การปรับขึ้นของราคาน้ำมัน ที่ไม่ได้แพงแค่การเติมน้ำมันรถยนต์ของเรา
แต่ยังส่งผลกระทบไปถึงค่าครองชีพที่แพงขึ้น รวมทั้งราคาอาหารที่แพงขึ้นด้วย

หรือถ้าใครที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ก็น่าจะสังเกตเห็นความผันผวนของตลาดหุ้นไทยที่เกิดขึ้นอยู่ไม่น้อยเลย
ยิ่งในช่วงที่หุ้นกำลังดิ่งลง หากเรามีหุ้นตัวนั้นอยู่ในพอร์ตด้วยต้นทุนที่สูง ก็ต้องขาดทุนอย่างแน่นอน

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ใคร ๆ ก็คงไม่ชอบช่วงเวลาที่มองไปทางไหน ก็สัมผัสได้ถึงความผันผวน
ไม่ว่าจะเป็น ความผันผวนในชีวิตจริง หรือความผันผวนจากการลงทุนในตลาดหุ้นก็ตาม

แต่รู้หรือไม่ว่า ในช่วงเวลาที่หุ้นตก เราก็สามารถบริหารความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรได้เช่นกัน
โดยใช้เครื่องมือการลงทุนที่เรียกว่า Stock Futures หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาหุ้นรายตัว

ด้วยจุดเด่นที่สามารถใช้สร้างผลตอบแทนได้หลากหลาย ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง
อีกทั้งยังใช้เงินลงทุนน้อยกว่า เพราะวางหลักประกันเพียง 5-20% ของมูลค่าสัญญา

แล้วหลักการลงทุนใน Stock Futures เป็นอย่างไร ?

สมมติว่า พอร์ตลงทุนของเรามีหุ้น A ที่มีราคาต้นทุน 50 บาทต่อหุ้น
แต่เรามองว่าหุ้น A มีแนวโน้มที่ราคาจะลดลงมาเหลือ 40 บาทต่อหุ้น
ซึ่งเท่ากับว่า เราจะขาดทุนหุ้น A มากถึง 10 บาทต่อหุ้น

ดังนั้น เราสามารถบริหารความเสี่ยง ของพอร์ตลงทุนในช่วงตลาดหุ้นขาลงนี้
ด้วยการใช้สินค้า Stock Futures ในตลาด TFEX
โดยการขาย (Short) สัญญา Stock Futures ของหุ้น A ซึ่งเหมือนเป็นการล็อกราคาขายไว้ที่ 50 บาทต่อหุ้น

ทีนี้ เมื่อหุ้น A ปรับตัวลดลง มาอยู่ที่ราคาหุ้นละ 40 บาท ตามที่เราคาดการณ์ไว้จริง ๆ
เราก็สามารถปิดสถานะ Short ของสัญญา Stock Futures ดังกล่าวเพื่อทำกำไรได้
ด้วยการซื้อ (Long) Stock Futures ของหุ้น A ในราคา 40 บาทต่อหุ้น

เท่ากับว่า กำไรจากส่วนต่างราคา 10 บาทต่อหุ้น จาก Stock Futures ก็จะช่วยชดเชยผลขาดทุนของหุ้น A ในพอร์ตลงทุนของเรา

เพื่อน ๆ จะเห็นได้ว่า Stock Futures สามารถเป็นเครื่องมือที่ช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับพอร์ตลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาลงได้ และช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน
เพราะกำไรจาก Stock Futures จะมาชดเชยความเสียหายของราคาหุ้นในพอร์ตที่ลดลง นั่นเอง

แล้วจะเกิดอะไรขึ้น.. หากราคาหุ้น A ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ แต่กลับมีราคาสูงขึ้นเป็นหุ้นละ 70 บาท

แน่นอนว่า พอร์ตลงทุนหุ้น A ที่มีต้นทุน 50 บาทต่อหุ้น จะทำกำไร 20 บาทต่อหุ้น

แต่หากเราเปิดสถานะขาย (Short) ใน Stock Futures ล็อกไว้ที่ราคา 50 บาทต่อหุ้น
เราก็จะขาดทุนจากการขึ้นของหุ้น A จำนวน 20 บาทต่อหุ้นแทน
ทำให้ภาพรวมพอร์ตลงทุนของเราก็ถือว่า เท่าทุน
เพราะหักลบระหว่างกำไร 20 บาทจากหุ้น และขาดทุน 20 บาทจาก Stock Futures

ดังนั้น เราจึงควรเลือกใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงให้ถูกตามสถานการณ์
หรืออาจเลือกขายหุ้นในพอร์ต แล้วมาเพิ่มโอกาสทำกำไรจาก Stock Futures ซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนในช่วงตลาดขาลง

สำหรับช่วงตลาดขาขึ้น โดยปกติแล้ว หากมองว่า หุ้นมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ก็ควรเปิดสถานะซื้อ (Long) ใน TFEX

เช่น สัญญา Stock Futures ของหุ้น A ซึ่งใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่าการซื้อหุ้นโดยตรง
และเหมือนเป็นการล็อกราคาซื้อหุ้น A ที่ราคาหุ้นละ 50 บาท แล้วค่อยขาย (Short) ทำกำไรเมื่อถึงเป้าหมายที่ตั้งใจ
เพียงเท่านี้ เราก็สามารถทำกำไรส่วนต่างราคาหุ้น A จาก Stock Futures ได้ไม่ยาก

พอเป็นแบบนี้ ก็เท่ากับว่า เราสามารถบริหารความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนไปพร้อม ๆ กับการเข้าถึงโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในตลาดหุ้นไทย ได้ทั้งช่วงขาขึ้นและขาลง ด้วย Stock Futures นั่นเอง

ส่วนเรื่องที่น่าสนใจถัดมาของ Stock Futures
คือ เรื่อง Leverage ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุน สามารถซื้อขายสินค้าอ้างอิงได้ โดยใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่ามูลค่าทั้งหมดของสินค้า
โดย Stock Futures จะวางหลักประกันเพียง 5-20% ของมูลค่าการลงทุน

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ สมมติว่า เราซื้อหุ้น A ที่มีราคาหุ้นละ 50 บาท จำนวน 1,000 หุ้น
เท่ากับว่า เราต้องใช้เงินทุน จำนวน 50,000 บาท

แต่ถ้าเราซื้อขายสัญญา Stock Futures ของหุ้น A จำนวน 1 สัญญา
(Stock Futures 1 สัญญา เทียบเท่ากับการซื้อขายหุ้นจำนวน 1,000 หุ้น)
โดยวางหลักประกัน 10% ของมูลค่าการลงทุน เท่ากับว่า เราจะใช้เงินลงทุนจริง ๆ เพียง 50,000 x 10% = 5,000 บาท เท่านั้น

ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ Stock Futures ได้รับความสนใจจากนักลงทุนไปไม่น้อย

แล้วเราจะซื้อขายสัญญา Stock Futures ได้อย่างไร ?

ปกติแล้ว หากผู้ลงทุนสนใจที่จะซื้อขาย Stock Futures สามารถเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์กับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ แล้วก็สามารถซื้อขายสัญญาดังกล่าวได้ ผ่านตลาด TFEX

สาว ๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า TFEX นั้นย่อมาจาก Thailand Futures Exchange
จะเป็นศูนย์กลางการซื้อขายอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับตราสารทุน ตราสารหนี้ และสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ รวมถึงสินค้าเกษตร

ซึ่งในส่วนของตราสารทุนที่ใช้อ้างอิง นอกจากจะอ้างอิงหุ้นรายตัวแล้ว
ก็ยังมีอ้างอิงกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ด้วย เช่น SET50 Index Futures ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 ซึ่งคำนวณมาจากหุ้นที่มีขนาดใหญ่ และมีสภาพคล่อง จำนวน 50 ตัวแรกในตลาดหุ้นไทย

ถึงตรงนี้ ก็น่าจะสรุปได้ว่า 4 ข้อหลักที่ถือเป็นประโยชน์ของ Stock Futures นั่นคือ

1. เพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ ทั้งในช่วงที่หุ้นขึ้น และหุ้นลง
2. ใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน
3. ได้ประโยชน์จากการ Leverage เพราะวางหลักประกันเพียง 5-20%
4. สามารถเปิด-ปิดสถานะสัญญาได้ด้วยตนเองในตลาด TFEX

สุดท้ายแล้ว คงไม่มีใครอยากมีชีวิตอยู่ แต่ต้องทำงานไปจนแก่เฒ่า
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ในเทรนด์ FIRE ที่ต้องการเกษียณเร็ว ๆ พลาดไม่ได้แล้ว

ดังนั้น ในช่วงเวลาที่ยังมีแรงทำงาน นอกจากการตั้งใจทำงาน เพื่อเก็บออมเงินให้ได้มาก ๆ
สิ่งที่ลืมไปไม่ได้ก็คือ การนำเงินไปลงทุน..

แต่เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นก็มีความเสี่ยง
การบริหารความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนด้วย Stock Futures จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มองไปทางไหน ก็พบแต่ความผันผวน ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ตลาดหุ้นไทยที่ผันผวนอย่างในตอนนี้..

สำหรับใครที่กำลังสนใจการลงทุนใน TFEX สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://setga.page.link/7nPNPtm9JEmUtTbZ8

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

References
-https://www.longtungirl.com/6914
-https://www.tfex.co.th/th/products/products.html