“บริการกอด” โมเดลธุรกิจเยียวยาจิตใจ ที่สร้างรายได้ หลักพันต่อชั่วโมง /โดย ลงทุนเกิร์ล

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Line, Facebook และ Instagram ช่วยเชื่อมเรา กับคนที่อยู่ไกล ให้เหมือนใกล้
แต่อย่าลืมว่า แพลตฟอร์มเหล่านี้ ก็ไม่สามารถให้สัมผัสทางกายภาพ แบบในชีวิตจริงได้

ประกอบกับสภาพสังคมปัจจุบัน ที่สร้างความกดดันอย่างหนัก จนทำให้หลายคน พยายามหาวิธีเยียวยาจิตใจตัวเอง ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งหนึ่งในธุรกิจเยียวยาจิตใจ ที่กำลังได้รับความนิยมในหลายประเทศ ก็คือ “บริการกอด” โดยนักกอดมืออาชีพ ที่อาจสร้างรายได้ให้กับนักกอดมืออาชีพ หลักพันบาทต่อชั่วโมง หรืออาจสร้างรายได้ หลักล้านบาทต่อปี

รวมไปถึง การกอด ก็ยังสามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจ ไปเป็น คาเฟ และคอร์สเรียนได้อีกด้วย

แล้วโมเดลของ ธุรกิจบริการกอด น่าสนใจอย่างไร ?
และการกอด ทำให้เกิด โมเดลธุรกิจแบบใหม่อย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ธุรกิจบริการกอด โดยนักกอดมืออาชีพ หรือ Professional Cuddler เป็นธุรกิจที่เริ่มได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2000

ซึ่งมีเป้าหมาย เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการสัมผัส สำหรับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มคนที่เกิดความเครียด จากประสบการณ์ร้าย ๆ อย่าง ถูกทารุณกรรม หรือล่วงละเมิดทางเพศ ไปจนถึงผู้ที่มีอาการออทิสติก

โดยสัมผัสจากการกอด จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเคมีต่าง ๆ เช่น สารเซโรโทนิน และสารโดพามีน หรือที่นิยมเรียกกันว่า “สารแห่งความสุข” ช่วยให้ผู้ที่ถูกกอดรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุข อีกทั้งช่วยลดความวิตกกังวล และความเครียดได้

ยกตัวอย่าง หากใครเคยดูซีรีส์เรื่อง Extraordinary Attorney Woo เรื่องราวชีวิตของ “อูยองอู” ทนายอัจฉริยะที่มีอาการออทิสติก ก็อาจจะเคยได้ยินเรื่องการสัมผัสโดยการกอดกันมาบ้างแล้ว

โดยเฉพาะฉากที่พระเอกพูดถึง “เก้าอี้กอด” นวัตกรรมเก้าอี้ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับคนที่มีอาการออทิสติก ซึ่งผนังด้านในของเก้าอี้ จะสามารถพองเข้าออกได้ เพื่อสร้างแรงกดทับบนร่างกายผู้ใช้งาน ซึ่งจะให้ความรู้สึกคล้ายกับการถูกกอด ช่วยให้คนที่มีอาการออทิสติก ได้คลายความกังวล และรู้สึกสงบมากขึ้น

เพราะฉะนั้น การกอดก็เปรียบเสมือนการรักษาและบำบัดชนิดหนึ่ง ในรูปแบบของการสัมผัส และให้ความใกล้ชิดที่ไม่ใช่เรื่องทางเพศนั่นเอง

มากไปกว่านั้น กลุ่มลูกค้าของธุรกิจนี้ ไม่ใช่แค่ผู้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาความเครียดเท่านั้น
แต่ยังเป็นกลุ่มคนที่มีความเหงา และไม่ได้รับการสัมผัสจากคนใกล้ชิดอีกด้วย

เช่น กรณีของคุณ Natasha Wicks นักกอดมืออาชีพชาวอังกฤษ ที่พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของเธอ เป็นคนที่มีสถานะความสัมพันธ์อยู่แล้ว แต่กลับไม่ได้รับสัมผัสจากคนรัก รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ถูกละเลยจากคนในครอบครัว

ดังนั้น ธุรกิจบริการกอด จึงกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความนิยม มากกว่าที่หลายคนคาดคิด

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเริ่มต้น เส้นทางนักกอดมืออาชีพได้
เนื่องจากการบำบัดด้วยการกอด ต้องใช้ทักษะและมีทฤษฎีมากมาย ที่มากกว่าการกอดแบบทั่ว ๆ ไป

ตามข้อมูลของ Cuddle Professional International หรือองค์กรแรกที่เสนอหลักสูตรฝึกอบรมการกอด ระบุว่า

“การฝึกอบรมจะใช้เวลาประมาณ 30 ชั่วโมง
ประกอบไปด้วยภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติกว่า 15 หลักสูตร”

จากนั้น เมื่อผ่านการฝึกอบรม และทดสอบจนจบหลักสูตร เหล่านักกอดจะได้รับการรับรองเป็น นักกอดมืออาชีพ และจะสามารถให้บริการ ผ่านตัวกลาง ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์, เอเจนซี หรือองค์กร ได้

ซึ่งในปัจจุบันก็มีธุรกิจที่ เปิดหลักสูตร สอนการเป็นนักกอดมืออาชีพ เกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

ยกตัวอย่างเช่น

“Cuddlist” เว็บไซต์ สัญชาติอเมริกัน ที่มีโปรแกรมการฝึกอบรม การเป็นนักกอดมืออาชีพ ทั้งหลักการทำงานอย่างปลอดภัย, ท่ากอดที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกสบาย ไปจนถึง การสัมผัสที่ตรงจุด

ซึ่งหลังจากจบหลักสูตร ก็จะสามารถเป็นนักกอดมืออาชีพได้เลย โดยมีค่าเรียนอยู่ที่ 5,400 บาท แต่สามารถนำไปต่อยอด สร้างรายได้ชั่วโมงละ 2,900-3,600 บาทเลยทีเดียว

นอกจากนี้ หลังจบหลักสูตร เหล่านักกอดยังสามารถสมัครเป็นสมาชิกของ Cuddlist เพื่อแสดงชื่อและโพรไฟล์ของของตัวเอง ในหน้ารายชื่อของนักกอดมืออาชีพบนเว็บไซต์ ให้ลูกค้ามาเลือกใช้บริการได้

อีกทั้งหน้าโพรไฟล์ของนักกอดมืออาชีพ จะแสดงไว้ว่า พวกเขาสนใจในเรื่องอะไรบ้าง เช่น โยคะ, ปลูกต้นไม้ หรือการทำอาหาร เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการสบายใจขึ้น ที่ได้เลือกนักกอดที่มีความชอบคล้าย ๆ กันอีกด้วย

ขณะที่ธุรกิจจากทางฝั่งเอเชีย ก็มี “คาเฟกอด” ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ให้บริการกอดในรูปแบบต่าง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการกอดเช่นเดียวกัน

ไม่ว่าจะเป็น การกอดระยะสั้น ที่ใช้เวลา 20 นาที ซึ่งมีค่าบริการอยู่ที่ 1,260 บาท หรือบริการกอดระหว่างนอนหลับ ที่ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งมีค่าบริการสูงสุดอยู่ที่ 12,600 บาท

เรียกได้ว่า “การกอด” ที่หลายคนอาจมองว่า เป็นเรื่องง่าย ๆ
ในวันนี้ มันกลับสามารถนำมาซื้อขาย และเกิดเป็นโมเดลธุรกิจได้หลายรูปแบบ
แต่ขณะเดียวกัน ยิ่งธุรกิจเหล่านี้ เติบโตมากขึ้นเท่าไร
มันก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า
“อ้อมกอด” เป็นสิ่งที่หาได้ยาก จากคนรอบตัว..

References:
-https://www.theguardian.com/lifeandstyle/2020/jul/22/cuddle-therapy-coronavirus-social-distancing-virtual
-https://www.examinerlive.co.uk/news/uk-world-news/meet-professional-cuddler-who-earns-17307865
-https://cuddlist.com/become-a-professional-cuddler-with-cuddlist/
-https://www.youtube.com/watch?v=9hgTL92OtxQ
-https://www.theatlantic.com/business/archive/2015/12/why-isnt-there-a-starbucks-for-hugs/418332/
-https://www.vice.com/en/article/4agpyp/young-indonesians-professional-cuddling-strangers-no-commitment