รู้จัก ต้นมะกอกโอลีฟ ต้นไม้นำเข้า ที่มีราคาสูงถึง หลักล้าน
Business

รู้จัก ต้นมะกอกโอลีฟ ต้นไม้นำเข้า ที่มีราคาสูงถึง หลักล้าน

7 ก.ย. 2022
รู้จัก ต้นมะกอกโอลีฟ ต้นไม้นำเข้า ที่มีราคาสูงถึง หลักล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล
ใครจะไปคิดว่าต้นไม้ 1 ต้น อาจมีราคาได้เท่ากับบ้าน 1 หลัง
และที่น่าแปลกใจกว่า คือ แม้ราคาจะสูง แต่คนก็ยังเข้ามาจับจองกันอย่างไม่ขาดสาย
ซึ่งต้นไม้ ที่พูดถึงอยู่นี้ มันจะเป็นต้นอะไรไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ต้นมะกอกโอลีฟ (Olive Tree)
แล้ว ต้นมะกอกโอลีฟ มีความน่าสนใจอย่างไร ?
และทำไมมันถึงมีราคาสูง ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง..
ต้นมะกอกโอลีฟ ก็คือ ต้นเดียวกับที่ให้ “ผลมะกอก” ซึ่งนำมาสกัดเป็นน้ำมันมะกอก หรือ Olive Oil นั่นเอง
ที่สำคัญ คือ ต้นมะกอกโอลีฟ ยังถือเป็น พืชเศรษฐกิจของประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียน
โดยกว่า 90% ของผลมะกอกทั้งโลก
จะถูกส่งออกมาจากประเทศแถบนี้ทั้งสิ้น
และแค่ผลผลิตจากสเปน อิตาลี และโมร็อกโก ก็ปาไปเกินครึ่งหนึ่งของผลผลิตที่ส่งออกทั่วโลก
โดยเฉพาะแค่จากสเปนประเทศเดียว ก็มากกว่า 30% เข้าไปแล้ว
และไม่ใช่แค่ ผลมะกอกเท่านั้น ที่ตลาดทั่วโลกต้องการ
แต่ต้นของมัน ก็เป็นที่นิยม และมีราคาสูงเช่นกัน
โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป อย่าง ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี ที่มักจะนิยมนำเข้าต้นมะกอกโอลีฟ เพื่อมาเป็นไม้ประดับ และความนิยมนี้ ยังได้แพร่ขยายมาถึงประเทศไทย
แล้วทำไม ต้นมะกอกโอลีฟ ถึงมีราคาแพง ?
ความพิเศษแรก คือ อายุที่ยืนยาวของต้นมะกอกโอลีฟ
ไม่ใช่แค่มีอายุหลักสิบปี หรือหลักร้อยปี
แต่ต้นมะกอกโอลีฟ ยังมีอายุยืนยาวได้ถึงหลายพันปี
โดยต้นมะกอกโอลีฟ อายุมากสุด ที่เคยมีการค้นพบ อยู่ในประเทศกรีซ และเลบานอน ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 ปีเลยทีเดียว
ส่วนต้นมะกอกโอลีฟที่นำเข้ามาขายในไทยนั้น
มีอายุตั้งแต่หลักสิบปี ไปจนถึงหลักพันปี
ซึ่งราคาจะแปรผันตามอายุ
ต้นที่มีอายุหลักสิบปี อาจมีราคาอยู่ที่หลักหมื่นบาท
และถ้ามีอายุเกิน 500 ปี บางต้นอาจมีราคาสูงถึง หลักแสนบาท
ส่วนต้นที่มีอายุหลักพันปี ราคาอาจทะลุไปอยู่ที่ หลักล้านบาทเลยก็มี
นอกจากนี้ ด้วยความที่ต้นมะกอกโอลีฟ เป็นไม้พื้นถิ่น ในประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีอากาศร้อน และแห้งแล้ง จึงทำให้ต้นไม้ สามารถทนแล้งได้ดี
ในขณะเดียวกัน ธรรมชาติยังสร้างให้ต้นมะกอกโอลีฟเป็น ไม้เนื้อแข็งที่โตช้า
ทำให้เนื้อไม้ สามารถทนต่อแมลงศัตรูพืช และอันตรายอื่น ๆ
รวมถึง ด้วยรากที่แข็งแรงและลำต้นที่อ้วนใหญ่ แต่ไม่สูงมาก ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3-5 เมตร ทำให้ลำต้นไม่ต้านลมเมื่อมีพายุ
นอกจากนี้ ใบของต้นมะกอกโอลีฟยังเล็กและหนา ทำให้ไม่คายน้ำมากนัก เพิ่มความสามารถในการเก็บสะสมน้ำได้นาน
นอกจาก เรื่องความเป็นแรร์ไอเทมแล้ว
ในแง่ของ “ความสวยงาม” ก็ยังมีผลต่อราคาเช่นกัน
โดยลักษณะของต้นมะกอกโอลีฟที่ สูงกำลังดี ลำต้นที่ใหญ่ เปลือกไม้ที่มีลายโดดเด่นแปลกตา และการแผ่กิ่งออกไปด้านข้าง ก็จะยิ่งทำให้มีราคาสูง
รวมถึง สี “ใบ” ของต้นมะกอกโอลีฟ ที่มีสีเขียวหลายเฉด และแตกต่างกันไปแล้วแต่สายพันธุ์
ซึ่งสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมนำมาเป็นไม้ประดับ คือ สายพันธุ์ Hojiblanca ที่ใบของมันมีสีเทาครามเงิน ที่เมื่อตกกลางคืน ใบของมันจะคล้าย ๆ ว่า กำลังเรืองแสง มีออราแผ่รังสีออกมารอบ ๆ
นอกจากนี้ ในแง่ของ “ความเชื่อ” ก็ยังมีผลต่อราคาเช่นกัน
โดยต้นมะกอกโอลีฟ มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของ สันติภาพ ความหวัง ความมั่งคั่ง สุขภาพ ความงาม สติปัญญา ชัยชนะ และความอุดมสมบูรณ์
ซึ่งเราสามารถเห็นได้จาก โลโกบนธงสหประชาชาติ (UN)
หรือมงกุฎใบมะกอก ที่เคยใช้สวมให้แก่นักกีฬาที่ชนะกีฬาโอลิมปิก นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ถึงต้นมะกอกโอลีฟจะบึกบึนและถึกทนขนาดไหน
แต่ปัจจุบัน ต้นที่มีอายุหลักร้อยปี หรือหลักพันปี เริ่มหาได้ยากขึ้น
ประกอบกับกฎหมายในฝรั่งเศส และอิตาลี ที่มีการห้ามขาย และส่งออกต้นไม้โบราณเหล่านี้
รวมไปถึงในสเปน ก็เริ่มมีกระแสต่อต้าน การขายต้นมะกอกโอลีฟมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะแคว้นบาเลนเซีย ในสเปน ที่มีกฎหมายห้ามส่งออกต้นมะกอกโอลีฟ ที่มีอายุมากกว่า 350 ปี หรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 20 ฟุต แต่สำหรับในพื้นที่อื่น ๆ ของสเปน ต้นมะกอกโอลีฟทุกขนาดและทุกอายุ ก็ยังคงสามารถถูกนำมาขายได้เช่นเดิม..
แม้ว่า ต้นมะกอกโอลีฟ จะมีชีวิตร่วมเป็นพยานในประวัติศาสตร์สำคัญของโลกมาหลายยุคสมัย
ซึ่งบางต้น มีชีวิตอยู่มาตั้งแต่ก่อนคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสจะค้นพบทวีปอเมริกา หรือตั้งแต่ก่อนสมัยสุโขทัย จะเกิดขึ้นเสียอีก
แต่ในอนาคต ต้นไม้เหล่านี้ อาจกลายเป็นแค่เรื่องเล่าของคนรุ่นก่อนเท่านั้น
หากเรายังไม่สามารถรักษาจุดร่วม ระหว่างธรรมชาติ และความต้องการของมนุษย์เอาไว้ได้..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.