รู้จัก PaperFoam บริษัทผลิต “โฟม” ให้ย่อยสลายได้ภายใน 5 สัปดาห์
Business

รู้จัก PaperFoam บริษัทผลิต “โฟม” ให้ย่อยสลายได้ภายใน 5 สัปดาห์

20 ต.ค. 2022
รู้จัก PaperFoam บริษัทผลิต “โฟม” ให้ย่อยสลายได้ภายใน 5 สัปดาห์ /โดย ลงทุนเกิร์ล
ไม่มีใครรู้ว่า โฟม ใช้เวลานานเท่าไรที่จะย่อยสลาย
บ้างก็ว่านับร้อยปี พันปี หรือบ้างก็ว่าโฟมเป็นอมตะ ไม่มีวันย่อยสลาย
แต่เอาเป็นว่ามันใช้เวลาแสนนาน หลายชั่วอายุคน
จึงทำให้มันถูกมองเป็น ตัวร้ายที่ต้องถูกแก้ปัญหา
แต่แทนที่จะหาวิธีกำจัดโฟมเหล่านี้
บริษัทในเนเธอร์แลนด์ที่ชื่อว่า PaperFoam กลับเลือกที่จะผลิตโฟมขึ้นมาใหม่
และแก้ปัญหาให้มันสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ โดยใช้เวลาเพียง 5 สัปดาห์เท่านั้น
แล้ววัสดุที่ PaperFoam ใช้ ทำมาจากอะไร ?
และมันสามารถทดแทนโฟมได้จริง ๆ หรือไม่ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
โฟมถือเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา
ช่วยกันกระแทก ไม่ซึมน้ำ
และลดการกระจายอุณหภูมิทั้งร้อนและเย็นได้ดี
ด้วยข้อดีเหล่านี้ จึงทำให้มันถูกนำมาใช้เป็นแพ็กเกจจิง และวัสดุกันกระแทกของสินค้าแทบทุกชนิด
แต่โฟมไม่ได้ขาวสะอาดเหมือนสีของมัน
เพราะนอกจากจะสร้างปัญหาขยะ ที่ยากต่อการกำจัดแล้ว
ที่แย่กว่านั้น คือ ไมโครพลาสติกจากโฟม อาจจะไปปะปนอยู่ในดินและน้ำได้
เมื่อ PaperFoam เห็นช่องว่างตรงนี้ จึงพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีฉีด และขึ้นรูปแบบเดียวกับกระบวนการขึ้นรูปพลาสติก
แต่แทนที่จะใช้พลาสติกเป็นสารตั้งต้น
ทาง PaperFoam กลับใช้ “แป้งมันฝรั่ง เยื่อกระดาษ น้ำ และสารกันบูด” มาผลิตวัสดุคล้ายโฟม ซึ่งมันจะใช้เวลาเพียง 5 สัปดาห์ในการย่อยสลาย ไม่ต่างอะไรกับการย่อยสลายของกระดาษ และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อ “PaperFoam” นั่นเอง
นอกจากนั้น การผลิต PaperFoam ยังใช้พลังงานน้อยในกระบวนการผลิต
โดยตั้งแต่การผลิต ไปจนถึงการย่อยสลายของ PaperFoam
สามารถลดการเกิดคาร์บอนฟุตพรินต์ ได้ถึง 90%
ส่วนคุณสมบัติของ PaperFoam นั้น ก็ไม่แตกต่างจากโฟมมากนัก
เพราะมันสามารถกันกระแทก และมีน้ำหนักที่เบา
รวมถึงยังสามารถนำไปขึ้นรูป และผสมสี ตามที่ต้องการได้อีกด้วย
ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ จึงทำให้ลูกค้าหลายรายหันมาเลือกใช้ แพ็กเกจจิงจาก PaperFoam เพื่อเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ตัวเอง ให้ดูเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และล้ำอนาคตมากขึ้น
โดยเรื่องนี้ก็เป็นเพราะ เทรนด์การทำธุรกิจในปัจจุบัน ไม่ได้แข่งกันแค่ทำสินค้าให้ดีแล้วจะขายได้เท่านั้น
แต่ผู้บริโภคในยุคนี้ยังมองไปถึงว่า แบรนด์หรือบริษัทเหล่านั้น สามารถส่งมอบคุณค่าอะไรได้บ้าง
หรือถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือ ตอนนี้ผู้คนไม่ได้ซื้อแค่สินค้าเท่านั้น
แต่พวกเขายังซื้อคอนเซปต์ของมันด้วย..
และหากเราดูจากการศึกษาของ Kantar Purpose 2020 จะพบว่า
แบรนด์ที่ผู้บริโภค มองว่า มีการสร้างผลกระทบในเชิงบวกสูง จะมีอัตราการเติบโตของ “มูลค่าแบรนด์” มากกว่าแบรนด์ที่ไม่ค่อยสร้างผลกระทบอะไรในเชิงบวกถึง 105%
ดังนั้น หลายบริษัทจึงเริ่มหันมาใช้แพ็กเกจจิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์
ปัจจุบัน PaperFoam ผลิตบรรจุภัณฑ์ และวัสดุกันกระแทกให้กับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์, ยา, เครื่องสำอาง, อาหารแห้ง
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้ เช่น
-Burt’s Bees แบรนด์ลิปบาล์ม ชื่อดัง สัญชาติอเมริกัน
-Kabloom บริษัทจากสหราชอาณาจักร ที่นำข้อดีในการย่อยสลายไวของ PaperFoam มาออกสินค้าใหม่เป็น “Seedbom” ซึ่งก็คือ เซตสำหรับปลูกต้นไม้ โดยมาในแพ็กเกจจิงรูประเบิดที่ใส่ เมล็ดพืช ดิน และปุ๋ย รวมไว้ด้วยกัน ซึ่งสามารถนำไปฝังดินได้ โดยไม่ต้องแกะแพ็กเกจจิงออก
นอกเหนือจากรายได้ จากการผลิตบรรจุภัณฑ์แล้ว
PaperFoam ยังมีรายได้จากการขายสิทธิบัตรให้กับผู้ผลิตในประเทศต่าง ๆ เช่น มาเลเซีย, จีน, สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์
รวมถึง PaperFoam ยังมีตัวแทนจำหน่ายทั้งใน
ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐฯ
เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
และปีนัง ประเทศมาเลเซีย อีกด้วย
สุดท้ายแล้ว ถ้าเรารู้จักนำนวัตกรรม เข้ามาพัฒนาทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ก็อาจทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเหมือน PaperFoam ที่มีแนวคิดที่อยากจะให้โฟมย่อยสลายได้เหมือนกระดาษ
จากการย่อยสลายนานกว่าร้อยปี ให้เหลือเพียง 5 สัปดาห์..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.