ปฏิทินจีน “น่ำเอี๊ยง” ปรับตัวอย่างไร เมื่อใคร ๆ ก็ใช้ปฏิทินออนไลน์ /โดย ลงทุนเกิร์ล

ถ้าให้ลองนึกถึงสินค้าที่ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก หนึ่งในนั้นก็คงเป็น ปฏิทินน่ำเอี๊ยง สีขาวแดง ที่มักจะแขวนกันอยู่ตามผนังบ้านของคนไทยเชื้อสายจีนกันมาหลายต่อหลายรุ่น

แล้วสงสัยกันไหมว่า ปฏิทินจีนที่หน้าตาเหมือนเดิม ตั้งแต่เรายังจำความได้ สามารถรับมือกับโลกที่หมุนไวในปัจจุบันอย่างไร ?

วันนี้ลงทุนเกิร์ล มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณธัช กิตติธัช นำพิทักษ์ชัยกุล ผู้บริหารรุ่นที่ 3 ของกิจการปฏิทินน่ำเอี๊ยง ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายนี้

แล้วปฏิทินน่ำเอี๊ยง ฝ่าความเปลี่ยนแปลงในหลายมิตินี้อย่างไร ลงทุนเกิร์ลจะสรุปให้ฟัง..

ปัจจุบันรายได้เกือบทั้งหมดของกิจการปฏิทินน่ำเอี๊ยง ยังคงมาจาก “การพิมพ์ปฏิทินขาย”

แต่รู้หรือไม่ว่า จุดเริ่มต้นของปฏิทินน่ำเอี๊ยง ไม่ได้มาจากการทำธุรกิจปฏิทิน แต่เป็นสำนักโหราศาสตร์จีน

ซึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดการผลิตปฏิทินน่ำเอี๊ยงขึ้นนั้น มาจากคำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับวันไหว้เจ้า จนพัฒนามาเป็นปฏิทิน ที่รวบรวมทุกข้อมูลโหราศาสตร์ของแต่ละวัน

น่ำเอี๊ยงจึงกลายเป็นผู้ผลิต ปฏิทินที่อิงโหราศาสตร์จีน เป็นรายแรกในประเทศไทย

รวมถึงยังเป็นจุดแข็ง ที่สร้างความแตกต่าง ให้ปฏิทินน่ำเอี๊ยง เป็นมากกว่าปฏิทินทั่วไป

ซึ่งถ้าหากเราตัดเรื่องของความเชื่อออกไป
จริง ๆ ต้องบอกว่า หลักการคิดในการออกสินค้าใหม่ของน่ำเอี๊ยง ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากวิธีคิดของบริษัทในยุคปัจจุบันเท่าไร

เพราะปฏิทินน่ำเอี๊ยง เกิดจากการสังเกตพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มลูกค้า แล้วนำมาผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคนั่นเอง

ทีนี้ เราลองมาดูกันว่า ปฏิทินน่ำเอี๊ยงที่คนใช้ติดบ้านกัน เป็นเวลากว่า 40 ปี มีวิธีปรับตัวอย่างไร ?

1.ขยายฐานลูกค้า ด้วยการเพิ่มช่องทางการขาย

หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า ก่อนหน้านี้ ปฏิทินน่ำเอี๊ยงทำธุรกิจแบบ B2B ทั้งหมด โดยลูกค้าธุรกิจของน่ำเอี๊ยง มี

-ยี่ปั๊ว หรือธุรกิจขายส่ง ที่รับปฏิทินน่ำเอี๊ยงไปขายต่อ ทั่วประเทศ

-โรงพิมพ์ ที่น่ำเอี๊ยงขายเฉพาะเนื้อปฏิทินรายเดือน ที่เว้นพื้นที่ด้านบนและด้านล่างไว้ ให้โรงพิมพ์ พิมพ์โลโก และข้อมูลอื่น ๆ ของลูกค้าของโรงพิมพ์อีกที

-บริษัทใหญ่ ที่ต้องการสั่งพิมพ์ปฏิทินน่ำเอี๊ยง ทั้งแบบรายวันและรายเดือน จำนวนตั้งแต่ 300 และ 800 ฉบับขึ้นไป เพื่อแจกลูกค้า และคู่ค้าช่วงปีใหม่

แต่ปัจจุบัน คุณธัชได้เพิ่มช่องทางในการขายให้กับลูกค้ารายย่อย (B2C) ผ่านแอปพลิเคชันช็อปปิงออนไลน์

ซึ่งการเพิ่มช่องทางออนไลน์เหล่านี้ ล้วนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไปทั้งสิ้น

2.พัฒนาสินค้าเดิม

ช่วงรุ่นที่ 2 ของกิจการ คุณพ่อและคุณลุงของคุณธัช เพิ่มข้อมูล “ตัวเลขโชคดี” ในทุกวันที่ 15 และวันสุดท้ายของเดือน หรือก่อนวันหวยออก เพื่อเอาใจเหล่านักเสี่ยงโชคชาวไทย

ซึ่งถือเป็นการ “Blend in” สินค้ากับความชอบของคนไทย จนสามารถขยายตลาดไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ได้สำเร็จ

และยุคนี้ ลูกค้ากลุ่มเดิม ที่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ก็เริ่มมีอายุมากขึ้น ทำให้น่ำเอี๊ยงต้องขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น นั่นคือ คนสมัยใหม่

ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์ ที่เรียกว่าเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ ของปฏิทินน่ำเอี๊ยง คือ “แอปพลิเคชัน Num Eiang” ซึ่งมีการนำทั้งปฏิทินจีน และพื้นดวงของผู้ใช้งาน มาอยู่บนจอโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้แบรนด์น่ำเอี๊ยง ยังคงอยู่ในใจคนรุ่นใหม่ และไม่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา

หาพันธมิตรทางธุรกิจ

บริษัทได้ขยายขอบเขตการให้บริการลูกค้า ด้วยการหาพันธมิตรทางธุรกิจ ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้ประกอบพิธีกรรมจีน แบบ One Stop Service

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้ามาดูฤกษ์แต่งงาน ทางน่ำเอี๊ยง ก็จะมีการแนะนำ ออร์กาไนเซอร์จัดงานแต่งงาน ที่เป็นพันธมิตรกับน่ำเอี๊ยงต่อให้ลูกค้า

โดยพันธมิตรเหล่านี้ ทางน่ำเอี๊ยงได้ตรวจเช็กมาแล้วว่า ทำตามขนบธรรมเนียมจีน ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน

ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ที่ต้องการความง่าย ครบ จบในที่เดียว

ซึ่งการปรับตัวเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ธุรกิจน่ำเอี๊ยง ยังคงได้รับความนิยมอยู่เท่านั้น แต่ในอีกมุมหนึ่ง ทุกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก็ได้นำมาซึ่งโอกาสอีกมากมายให้กับบริษัท..

References:
-สัมภาษณ์พิเศษกับ คุณธัช กิตติธัช นำพิทักษ์ชัยกุล ผู้บริหารปฏิทินน่ำเอี๊ยง บริษัท น่ำเอี๊ยง กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท วรศิลป์กราฟฟิค จำกัด
-https://www.numeiang.com