กลุ่มเซ็นทรัล ต้อนรับสงกรานต์ ดัน “ผ้าขาวม้า” วางขายทั่วไทยและห้างฯหรูในยุโรป
Lifestyle

กลุ่มเซ็นทรัล ต้อนรับสงกรานต์ ดัน “ผ้าขาวม้า” วางขายทั่วไทยและห้างฯหรูในยุโรป

11 เม.ย. 2024
กลุ่มเซ็นทรัล x ลงทุนเกิร์ล
ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่ายาดม กางเกงช้าง หรือกางเกงมวย กลายเป็นของฝากยอดนิยม ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน เมื่อแวะมาเที่ยวที่ประเทศไทย
กลุ่มเซ็นทรัลที่สนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยอย่างต่อเนื่อง เล็งเห็นถึงโอกาสนี้ จึงนำ “ผ้าขาวม้า” ผ้าไทยที่มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ มายกระดับ และผลักดันให้สินค้านี้ กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เหมือนกับสินค้าอื่น ๆ
ซึ่งล่าสุด กลุ่มเซ็นทรัล ได้นำผ้าขาวม้าและสินค้าจากแบรนด์ good goods สินค้าไทยร่วมสมัยไปวางขายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ไปจนถึงห้างฯ หรูหลายแห่งในยุโรป รวมถึง Selfridges ห้างฯ ดังในอังกฤษ ที่หลายคนคุ้นชื่อ
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ?
แล้วกลุ่มเซ็นทรัล จะนำผ้าขาวม้าไปวางขายที่ไหนบ้าง ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มีแผนจะซื้อของฝากจากไทย 
เชื่อว่า ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลต้องเป็นจุดเช็กอินอันดับต้น ๆ ที่ต้องแวะไปอย่างแน่นอน
ที่น่าสนใจก็คือ ล่าสุด กลุ่มเซ็นทรัลและบริษัทในเครือ ขานรับนโยบายส่งเสริมรายได้ชุมชนท้องถิ่นจากภาครัฐ เปิดตัว “ฮักไทย เสน่ห์วิถีไทยสไตล์ใหม่ Thainess Station สินค้าไทย ร่วมใจเพื่อชุมชน” 
เป็นโครงการที่มุ่งต่อยอด และยกระดับสินค้าภูมิปัญญาไทย โดยรับซื้อสินค้าไทยจากชุมชน มาจัดจำหน่าย เช่น ผ้าขาวม้า เครื่องจักสานจากกระจูด ผ้าคราม และสินค้าไทยร่วมสมัยจากแบรนด์ good goods ที่ได้มีการนำสินค้าจากชุมชนมาต่อยอดดีไซน์ให้มีความทันสมัยสามารถหยิบมาใช้ได้ในทุกวัน เพื่อส่งเสริมรายได้ และยกระดับสินค้าท้องถิ่น ให้สอดรับกับแนวทางของภาครัฐ และยังได้รับเกียรติจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายจุลพันธ์  อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม  รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าเยี่ยมชม บูธ “ฮักไทย เสน่ห์วิถีไทยสไตล์ใหม่ Thainess Station - สินค้าไทย ร่วมใจเพื่อชุมชน” ของกลุ่มเซ็นทรัล โดยมี นางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร กลุ่มเซ็นทรัล และนางสาวอัจฉรา วิสุทธิวงศ์รัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด สื่อสารองค์กรและความยั่งยืน กลุ่มเซ็นทรัล ให้การต้อนรับ  ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่
นอกจากนี้ ภายในโครงการ ยังมีผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้าหลากหลายประเภท ที่กลุ่มเซ็นทรัลรับซื้อมาจาก 10 ชุมชนทั่วประเทศไทย ได้แก่
- ชุมชน กัลยาผ้าทอ จ.สุพรรณบุรี
- อิมปานิ จ.ราชบุรี  
- นครราชสีมา โอทอป จ.นครราชสีมา 
- วิสาหกิจชุมชน กลุ่มทอผ้าบ้านดอนพะทาย จ.นครพนม 
- วิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทยทรงดำบ้านหัวเขาจีน จ.ราชบุรี            
- วิสาหกิจชุมชนทอผ้าพุเตย จ.เพชรบูรณ์ 
- ผ้าขาวม้าจำปีสิรินธร จ.ลพบุรี
- วิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี จ.ตรัง            
- ชุมชนผ้าย้อมครามบ้านกุดจิก จ.สกลนคร 
- ผู้ประกอบการ OTOP สมุทรปราการ
ซึ่งผ้าขาวม้าที่มาจากทั้ง 10 ชุมชน และสินค้าจากแบรนด์ good goods สินค้าไทยร่วมสมัย จะถูกนำไปวางจำหน่ายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล 39 แห่ง, โรบินสันไลฟ์สไตล์ 3 แห่ง, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล 6 แห่งและห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 2 แห่ง รวมกว่า 50 แห่ง ทั่วทุกภูมิภาคในไทย
ที่น่าสนใจก็คือ ภายในเดือนเมษายนนี้ กลุ่มเซ็นทรัลยังผลักดัน และยกระดับสินค้าท้องถิ่นไทย สู่ตลาดโลก โดยนำ “ผ้าขาวม้า” และสินค้าจากแบรนด์ good goods สินค้าไทยร่วมสมัย ไปวางจำหน่ายที่ห้างฯ​ หรู ในยุโรปหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น
- ห้างเซลฟริดเจส (Selfridges)  ประเทศอังกฤษ หนึ่งในห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ ที่อยู่คู่กับกรุงลอนดอนมานาน
- ห้าง รีนาเชนเต (Rinascente) ห้างสรรพสินค้าหรูที่เก่าแก่ในประเทศอิตาลี ที่ปัจจุบัน มีสาขาครอบคลุมกว่า 9 แห่งใน 8 เมือง ทั่วอิตาลี
- ห้าง คาเดเว (KaDeWe) ห้างสรรพสินค้าหรู ที่ตั้งอยู่ในกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี
อย่างที่รู้กันว่า นอกจากการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศ จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าภูมิปัญญาไทยแล้ว 
การนำสินค้าไปวางขายบนห้างสรรพสินค้า ที่มีชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาอยู่ตลอด ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้สินค้าเหล่านี้เป็นที่รู้จัก จนสามารถเติบโตในตลาดสากลได้ในอนาคตอีกด้วย
ต้องบอกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่กลุ่มเซ็นทรัลและบริษัทในเครือ ได้มีการผลักดันและสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย
เพราะกลุ่มเซ็นทรัล มีโครงการที่ชื่อว่า “เซ็นทรัล ทำ” 
หรือโครงการเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัล ที่สนับสนุนสินค้าชุมชนมาอย่างยาวนาน
ที่สำคัญ โครงการนี้ยังช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้าน พร้อมต่อยอดเพิ่มมูลค่าของสินค้า ทำให้สินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านของไทยสามารถเติบโต จนสามารถแข่งขันในตลาดสากลได้ นั่นเอง..
สำหรับใครที่อยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสนใจผลิตภัณฑ์ของโครงการ “ฮักไทย เสน่ห์วิถีไทยสไตล์ใหม่ Thainess Station สินค้าไทย ร่วมใจเพื่อชุมชน” 
สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : Central Group หรือ centralgroup.com/thainess-station
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.